ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย นิยาย บท 20

เว่ยจื้อโหยวมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองด้วยความตื่นเต้น นี่มันไม่ใช่มันฝรั่งหรอกหรือ แล้วนั่นมันไม่ใช่ฉั่งฉิกหรือ โอ๊ะ ปุ๊บปั๊บรับโชคสองชั้นเลย เว่ยจื้อโหยวลงมือขุดมันฝรั่งทั้งหมดโยนเข้าไปในมิติ จากนั้นนางจึงลงมือเด็ดใบฉั่งฉิกและดอกฉั่งฉิกทั้งหมดใส่เข้าไปในมิติด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากจัดการใบและดอกเสร็จแล้วนางก็กลับมาจัดการขุดรากถอนโคนต้นฉั่งฉิกอีกรอบเสร็จแล้วก็นำเข้าไปเก็บในมิติเช่นเดียวกัน

ส่วนฉั่งฉิกที่ยังไม่โตเต็มที่นางก็ขุดเอาทั้งหมดเข้าไปปลูกเอาไว้ในพื้นที่อันแห้งแล้งในมิติของนางทันที ขอเพียงรดด้วยน้ำแร่นางเชื่อว่าฉั่งฉิกพวกนี้จะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี

ระหว่างที่นางเข้ามิติไปปลูกฉั่งฉิก นางก็แวะดูหมาป่าที่บาดเจ็บด้วย ตอนนี้ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยบาดแผล จึงทำได้แค่เพียงนอนนิ่ง ๆ เท่านั้น

เว่ยจื้อโหยวไม่ได้สนใจพวกมัน ส่วนลูกหมาเล็ก ๆ ทั้งสี่ตัวนั้นก็คลานไปทั่วตามประสาหมาเด็กแรกเกิดกำลังซน เมื่อนางจัดการทุกอย่างในมิติเสร็จเรียบร้อยแล้วนางก็กลับออกจากมิติและเดินกลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้านนางก็แวะตรวจดูกับดักที่นางวางเอาไว้ กับดักของนางวันนี้ผลการเก็บเกี่ยวไม่เลวเช่นเดียวกัน ได้ทั้งไก่ป่า กระต่ายป่า สิ่งที่เป็นโชคชั้นที่สามเห็นจะเป็นแม่ไก่ป่ามาติดกับดักของนางระหว่างที่พาลูก ๆ ออกหาอาหาร เว่ยจื้อโหยวจึงได้ครอบครัวไก่ป่าไปเลี้ยงที่บ้าน

“ทีนี้ก็ได้ไก่ไปเลี้ยงในเล้าไก่ที่ว่างเปล่ามานานแล้ว มันจะดีมากหากได้หมูดำไปเลี้ยงด้วย วันหลังคงต้องขึ้นเขามาขุดหลุมดักสัตว์บ้างแล้ว จะได้ไม่ต้องเข้าป่ามาบ่อย ๆ” หลังจากพูดกับตัวเองเสร็จก็ออกจากป่าไปทันที

เว่ยจื้อโหยวเดินออกจากป่ามาด้วยความอารมณ์ดี สัตว์ป่าในป่าลึกมีมากมาย หากได้หมีดำไปขายสักตัวนางคงมีเงินมาซื้อที่ดินเพิ่ม จากนั้นก็สร้างบ้านหลังใหม่ ที่ดินที่ซื้อมาเพิ่มนางจะทำสวนผลไม้ สวนผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู ปลูกข้าว ใช่แล้วข้าวที่นางเจอในป่าวันนี้เป็นข้าวหอมมะลิเสียด้วยแค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว

“เห็นทีต้องเร่งล่าสัตว์ไปขาย ซื้อที่ดินเพิ่ม ปลูกบ้านใหม่ จากนั้นจะได้ออกไปตามหาสามีสักที เหอะ ฝีมือข้าระดับแนวหน้าในโลกก่อนข้าไม่เชื่อหรอกว่าโลกโบราณแห่งนี้จะมาสู้ข้าได้ คงต้องไปให้ช่างร้านเหล็กทำหัวธนูเพิ่มเสียแล้ว หรือว่าจะลองทำหน้าไม้ดู หน้าไม้ก็ดี ต่อไปนี้คงต้องฝึกฝนเสียหน่อย คนสมัยนี้ใช้อะไรสู้กัน ดาบ หอก ทวน หรืออะไรธนูหรือ”

เว่ยจื้อโหยวเดินออกจากป่าพร้อมกับพูดกับตัวเองไปด้วย จะอาวุธอะไรก็มาเถอะนางคิดว่าไม่เกินความสามารถของนาง แต่ที่สำคัญคือการฝึกฝนทางร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอต่างหาก แต่นางลืมไปว่าตัวเองนั้นมีพละกำลังเหนือธรรมชาติ นางจะฝึกหรือไม่ฝึกฝนร่างกายก็มีค่าเท่ากัน เมื่อเดินมาถึงชายป่า นางมองซ้ายมองขวาดูแล้วไม่มีใคร นางจึงเอาหมูดำตัวที่นอนอยู่ในมิติออกมา

จากนั้นนางก็แบกหมูดำกลับบ้านและจงใจเดินผ่านเส้นทางที่มีชาวบ้านสัญจรไปมา ต่อไปเรื่องที่นางมีเงินมาซื้อที่ดิน และสร้างบ้านใหม่จะได้ไม่ต้องตกเป็นข้อสงสัยของพวกชอบสอดรู้สอดเห็นอีก

ในขณะที่เว่ยจื้อโหยวกำลังคิดหาเงินวางแผนครอบครัวในอนาคต ที่ชายแดนนับวันก็ยิ่งตึงเครียด ฝ่ายศัตรูเริ่มบุกรุกเข้ามาและมีการปะทะกันทุกวัน และวันนี้เองก็เช่นเดียวกันฝ่ายนั้นบุกเข้ามาแต่ก็ถูกตีแตกและไล่กลับไปได้

ตอนนี้อวิ๋นเซียว เหลียนอี้หลุน และเซี่ยเหิง ได้เลื่อนขั้นมาเป็นพลรบแล้ว หลังจากที่พวกเขาถูกจับมาฝึกอยู่เป็นนานสองนานท่ามกลางความไม่ยินดีและไม่ยินยอมหากแต่ต้องทำเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองและรักษาบ้านเมืองเอาไว้

พูดถึงเซี่ยเหิงสหายใหม่ของอวิ๋นเซียวที่เพิ่งจะแต่งงานและยังไม่ทันได้เข้าหอก็ถูกเกณฑ์มาเป็นทหารเช่นเดียวกันกับเขา เขายังดีที่ภรรยาเข้าใจแต่เซี่ยเหิงนั้นไม่รู้ว่าภรรยาเขาจะเป็นเช่นไรบ้าง เพราะเขาถูกลากตัวออกมาตอนที่จะเข้าหอพอดิบพอดี สถานการณ์ของเซี่ยเหิงเลวร้ายกว่าเขามาก

ตัดไปทางด้านภรรยาของเซี่ยเหิงที่หมู่บ้านลี่จือ ซึ่งอยู่ถัดไปจากหมู่บ้านที่อวิ๋นเซียวอาศัยอยู่ 2 หมู่บ้าน หลี่อ้ายหลินภรรยาของเซี่ยเหิงตอนนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานในแปลงนาบ้านสามี ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาของชาวบ้าน

หลี่อ้ายหลินคนนี้หาได้สนใจไม่ พ่อแม่สามีนั้นดีกับนางมากทั้งสองคนรู้สึกผิดต่อนางเพิ่งจะแต่งเข้ามาลูกชายคนเดียวของพวกเขายังไม่ทันได้เข้าหอก็ต้องถูกลากออกไปรบ

หากลูกชายไม่กลับมาไม่เท่ากับว่าลูกสะใภ้ของตนจะต้องกลายเป็นหม้ายทั้งที่บริสุทธิ์หรอกหรือ ทายาทสักคนก็ไม่มี เรื่องนี้ทำให้สองผู้เฒ่าปวดใจเป็นอย่างมาก ยิ่งได้มาเห็นลูกสะใภ้ทำงานแทบทุกอย่างในบ้านเพื่อดูแลพ่อแม่สามีเช่นพวกเขาแล้วก็ยิ่งให้ปวดใจ

หลังจากลูกชายโดนเกณฑ์ไปเป็นทหาร ลูกสะใภ้อย่างหลี่อ้ายหลินก็ล้มป่วยด้วยความที่นางตรอมใจและทนอับอายไม่ไหว นางจึงเสียชีวิตไปในกลางดึกวันหนึ่ง

จากนั้นหลี่อ้ายหลินที่มีชื่อเดียวกันที่ทำงานจนเหนื่อยตายก็เข้ามาแทนที่หลี่อ้ายหลินคนเดิม หลังจากนางหายป่วยก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แต่พ่อแม่สามีไหนเลยจะรู้ว่าตอนนี้ลูกสะใภ้ของพวกเขาไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว พวกเขาคิดเพียงแค่ว่าลูกสะใภ้คงทำใจได้และยอมรับได้แล้วเท่านั้นเอง

ส่วนบ้านแม่ของลูกสะใภ้พอได้ยินว่าลูกชายของพวกเขาถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารก็ตัดขาดกับลูกสาวทันที โดยอ้างว่าลูกสาวที่แต่งออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป ต่อไปนี้นางคือคนของบ้านซ่งตายไปก็เป็นผีบ้านซ่งไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกับบ้านตระกูลหลี่ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่นางตรอมใจจนล้มป่วยในครั้งนั้น

ตัดกลับมาที่เว่ยจื้อโหยวตอนนี้นางเดินแบกหมูดำตัวใหญ่เดินมุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทางมีชาวบ้านไม่น้อยที่เห็นนางแบกหมูดำมา ตอนนี้เป็นที่รู้กันแล้วว่านางเป็นหญิงประหลาดที่มีพละกำลังมากมาย

คนที่เคยคิดไม่ดีจะรังแกนางเห็นเป็นเช่นนี้แล้วต่างไม่กล้าลงมือโดยเฉพาะบ้านเฉียนที่ตอนนี้ไม่กล้าออกมาระรานนางอีก แต่คนอย่างนางเฉียนหรือจะยอม เว่ยจื้อโหยวเชื่อว่านางจะต้องวางแผนชั่วและหาโอกาสลงมืออยู่ก็เป็นได้

กลับมาถึงบ้านนางเอาหมูดำไปวางเอาไว้ในลานหลังบ้านและนำน้ำแร่มาหยดใส่หมูดำเอาไว้เพื่อรักษาความสดใหม่ แต่จะได้ผลหรือไม่นั้นนางไม่รู้เพราะนางเองก็แค่ลองทำเพียงเท่านั้น

เมื่อจัดการกับหมูดำเสร็จ เว่ยจื้อโหยวนำแม่ไก่ป่าและลูก ๆ ทั้ง 10 ตัวไปไว้ที่เล้าไก่ จากนั้นก็หาอาหารให้พวกมันและลูกได้กิน จากนั้นนางก็เลือกไก่ป่าตัวผู้ที่ตัวใหญ่และแข็งแรงมาอีก 1 ตัวเอาไว้เป็นพ่อพันธุ์

เมื่อจัดการเล้าไก่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นางเห็นว่ายังมีเวลาอีกหลายชั่วยามก่อนจะค่ำ นางจึงคิดที่จะเอาหมูดำเข้าไปขายในเมืองและซื้อของกินของใช้เข้าบ้านเสียหน่อย

เมื่อคิดได้ดังนั้นนางจึงรีบเดินไปที่บ้านแม่ของตัวเองเพื่อให้ท่านพ่อขับเกวียนพานางนำของป่าไปขายในเมือง และก่อนที่เว่ยจื้อโหยวจะไปที่บ้านแม่นั้นนางดึงเอาใบและดอกของฉั่งฉิกออกมาใส่ตะกร้าไม้ไผ่เอาไว้และพรหมด้วยน้ำแร่เพื่อรักษาคุณภาพของสมุนไพร

ตอนที่ 20 ปุ๊บปั๊บรับโชคสองชั้น 1

ตอนที่ 20 ปุ๊บปั๊บรับโชคสองชั้น 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย