มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน นิยาย บท 53

"คุณทำไมดูไม่ตกใจเลยล่ะ" เข้ามาถึงในห้องก็ยังเห็นว่าเขาปกติ ไม่มีท่าทีตกใจกลัวอะไรเลย

ตอนเห็นปืนใครบ้างจะไม่ตกใจ แต่พอเห็นว่าเธอกับแม่พยายามปกป้องเขาอยู่ ก็เลยทำให้คลายความกลัวไปได้เยอะ

"พ่อคุณเป็นกำนันเหรอ" ที่เขาถามแบบนี้เพราะได้ยิน คนชื่อจ้อยเรียกว่าพ่อกำนัน

"ใช่ค่ะ"

ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง

"นี่คุณ ฉันไม่ได้จะให้คุณนอนในห้องนี้สักหน่อย"

"ไม่ให้ผมนอนนี่แล้วจะให้นอนไหน"

"เดี๋ยวพ่อฉันสงบลงแล้วจะหาห้องให้" บ้านเธอกว้างขวาง ห้องนอนก็มีหลายห้อง

"คุณคิดว่าพ่อคุณจะสงบง่ายไหม ยิ่งตอนนี้เห็นผมเข้ามาในห้องของคุณด้วยแล้ว"

"คุณก็อย่าพูดให้ฉันเสียวสันหลังสิ" ตอนเรียนมัธยมเคยถูกพ่อตีมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเรื่องผู้ชายนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้เลยเถิดอะไรมากก็แค่วัยรุ่นอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง

"ผมขอนอนพักเอาแรงหน่อยแล้วกัน ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง"

อะไรของเขาเนี่ย ยังจะนอนหลับอีกเหรอ

"ออกมา!"

"พ่อ?" เขานอนไปได้แค่ครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนมาจากหน้าห้อง

"ไม่ต้องออกมานะลูก ปล่อยให้พ่อบ้าอยู่คนเดียวเถอะ" แม่รีบตามมาห้ามพ่อ

"ลูกเราเป็นผู้หญิงนะแม่!"

"พ่อกล้าขึ้นเสียงกับแม่เลยเหรอ"

"ก็ไม่ได้กล้าหรอกครับ แต่ลูกเราเป็นผู้หญิงนะครับ" กำนันไข่เป็นประเภทที่ร้ายกับคนทั้งโลก แต่ยอมเธอแค่คนเดียว และยอมมาโดยตลอด

"มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณก็ปล่อยลูกไปเถอะ" แก้วกานดาคิดว่าถ้าลงโทษไปก็คงจะเจ็บตัวเปล่าๆ และถ้ายิ่งห้ามเดี๋ยวก็เตลิดไปกันใหญ่

"ไอ้จ้อย ไปเอาระเบิดมา!" แต่ความห่วงลูกสาวก็มีมาก จะให้ผู้ชายเข้าไปอยู่ในห้องลูกสาวก็เหมือนถูกเหยียบหน้า

ได้ยินคำว่าไปเอาระเบิดมา..คนที่อยู่ในห้องถึงกับสะดุ้งขนลุกซู่ แต่จะแสดงอาการออกมาก็ไม่ได้ ที่ทำได้เวลานี้คือแกล้งข่มตานอนให้หลับ เพราะเขาไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่บ้านของเธอนาน

"พ่อกำนันบ้านเรามีระเบิดด้วยเหรอ" จ้อยกระซิบถามกลับ

"มึงไม่ต้องพูดแค่เล่นไปตามกู"

"ได้เลยครับพ่อกำนัน" แล้วจ้อยรีบทำตามอย่างไว โดยการวิ่งเข้าไปในห้องของกำนันไข่

"คนบ้าอะไรไม่กลัว" ของขวัญมองไปที่เตียง เห็นว่าตอนนี้เขาคงจะหลับไปแล้ว หรือว่าเขาเหนื่อยจริง ดวงตากลมมองไปดูผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงของเธอ ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนกล้าแบบนี้ เพราะต่างก็กลัวพ่อของเธอกันทั้งนั้น แต่กับเขาแล้ว ไม่ได้แสดงอาการกลัวออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นลูกบิดประตูก็ดัง ก๊อกแก๊ก ที่จ้อยวิ่งไปห้องกำนันนั้นคือไปเอากุญแจสำรองมาให้..

"????" พอประตูเปิดออกกำนันไข่ถึงกับหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพในห้องของลูกสาว

"บอกให้ใจเย็น??" แก้วกานดาที่ตามเข้ามาเพื่อจะห้ามสามีก็ชะงักเช่นกันเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นกำลังโอบกอดลูกสาวอยู่บนเตียง แถมลูกก็กอดเขาไว้แน่น "พ่อกำนันอย่า!" นางรีบลากสามีออกมาก่อน กลัวว่าจะพลั้งมือทำอะไรลงไป

"พรุ่งนี้ให้ผู้ใหญ่ฝ่ายชายมาคุยกัน" นางคิดว่าคงเหลือแค่วิธีนี้วิธีเดียวแล้วล่ะ

"ผู้ใหญ่ฝ่ายชายเลยหรือคะ?" ของขวัญหันไปมองคนร่างสูงที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่

"อย่าบอกนะว่าลูกทั้งสองยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ลูกก็รู้ว่าพ่อเป็นคนมีหน้ามีตา พาผู้ชายเข้าบ้านก็ต้องคิดเรื่องนี้ไว้ก่อนสิ"

"แต่ว่าแม่คะ" แล้วนี่จะอธิบายให้แม่ฟังได้ยังไง เพราะสิ่งที่แม่เห็นกับสิ่งที่เธอคิดว่าจะบอกแม่ มันสวนทางกันมาก

เพราะทีแรกของขวัญจะบอกความจริงกับแม่ว่าทำไมต้องพาเขามาที่บ้าน แต่ภาพที่แม่เข้ามาเห็นคงบอกความจริงไม่ได้แล้วล่ะ

"คุณชื่ออะไร" แก้วกานดาหันไปพูดกับฝ่ายชายบ้าง

"พระลักษณ์ครับ"

"คุณเป็นคนกรุงเทพฯเหรอ" ดูจากหน้าตาและฟังจากสำเนียงคงไม่ใช่คนต่างจังหวัด

"ใช่ครับ"

"ถ้าวันนี้ให้ผู้ใหญ่เดินทางมาคงจะค่ำก่อน พรุ่งนี้บอกพ่อกับแม่เดินทางมาแต่เช้า มาคุยกันให้รู้เรื่อง"

"แต่แม่ค่ะ"

พระลักษณ์รีบห้ามเธอไว้ก่อนจะพูด เพราะสิ่งที่แม่เธอเข้ามาเห็นถึงจะอธิบายไปก็คงไม่ได้แล้ว

"คืนนี้ก็อย่าออกมาจากห้อง เดี๋ยวข้าวเย็นแม่จะหามาให้แล้วกัน" ว่าแล้วแก้วกานดาก็ออกจากห้องไป และไม่ลืมที่จะบอกลูกสาวให้ล็อกประตู อย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนี้อีก

แม่ของเธอลงไปได้เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงพ่อโวยวายขึ้นมา เพราะแม่คงไปบอกพ่อเรื่องจะให้ผู้ใหญ่มาคุยกัน ..บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ก็เลยได้ยินเสียงคนที่ตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างล่าง จับใจความได้ว่า ถ้าค่าสินสอดไม่ถึงร้อยล้านไม่ต้องบังอาจให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอลูกสาวของกำนันไข่!!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน