“คุณฉี เมิ่งเมิ่งกลับไปแล้วเหรอ?”
หลี่อวิ๋นหว่านจอดรถ ถามในขณะที่เดินไปหาฉีเติ่งสียนที่มองมาที่รถ
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า หยิบกระเป๋าเงินจากมือของเธอ หยิบคีย์การ์ดออกมา และเปิดประตูอย่างชำนาญ
“เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณ เธอกลับไปได้แล้ว” ฉีเติ่งเสียนเปิดประตูแล้วเดินตรงเข้าไป
EQ สูง: ขอบคุณครับ มันดึกแล้ว คุณจะพักกันที่นี่ไหม?
EQ ต่ำ: ขอบคุณ กลับไปได้แล้ว
หลังจากที่หลี่อวิ๋นหว่านตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก็โกรธมากที่ฉีเติ่งเสียนด้วย ทำตัวเป็นพวก EQ ต่ำจน เธอกะจะเตะที่ก้นเขา แต่เธอแทบจะหน้าทิ่ม พร้อมโวยวายใส่เขา: “นายจะทำบ้าอะไรเนี่ย?!”
ฉีเติ่งเสียนมองไปทางด้านหลัง ก้าวออกมายืนด้านข้าง ทำให้หลี่อวิ๋นหว่านเตะอากาศ ทันทีที่เท้าตกลงบนพื้น ร่างกายก็โน้มตัวไปข้างหน้าตามแรงโน้มถ่วง ทำให้เสียหลักจนล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
“ฮ่าฮ่าฮ่า ทำร้ายคนอื่นไม่ได้ ก็เจ็บตัวเอง!” ฉีเติ่งเสียนยืนด้านข้างหัวเราะพร้อมทั้งเท้าสะเอว
หลี่อวิ๋นหว่านทำหน้าบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวด เกือบจะหลั่งน้ำตา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของฉีเติ่งเสียน เธอทั้งหัวเราะและจะร้องไห้ ผู้ชายคนนี้ไร้สมองจริงๆหรือ? ในเวลานี้เธออยากจะหัวเราะเยาะตัวเอง!
ฉีเติ่งเสียนเอื้อมมือออกไป ก่อนที่หลี่อวิ๋นหว่านจะลุกขึ้นมาได้ เขาดึงเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า “แน่นอน ฉันจะดึงเธอขึ้นมา แต่หลังจากที่ฉันหัวเราะจนพอใจเท่านั้น”
หลี่อวิ๋นหว่านโกรธมากจนเธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอจะสั้นลงแน่ๆ ถ้าเธออยู่กับผู้ชายคนนี้นานไปมากกว่านี้
“มันเจ็บ.....” ทันทีที่ยืนได้ รู้สึกเจ็บปวดแปลบที่ข้อเท้าขวา ดังนั้นเธอจึงเอื้อมมือไปคล้องคอของฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนมองดูรูปร่างหน้าตาของหลี่อวิ๋นหว่านไม่ว่าความอดทนเขาจะต่ำแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถขับไล่เธอกลับไปได้ เขาทำได้เพียงก้มลง อุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าหญิงแล้วเดินเข้าไปในวิลล่า
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่อวิ๋นหว่านถูกผู้ชายอุ้ม ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง และผิวของเธอก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่างกาย เธอเม้มริมฝีปากสีแดงของเธอเบา ๆ แกล้งเสมองไปทางอื่น
หลังจากนั่งมั่นบนโซฟาแล้ว หลี่อวิ๋นหว่านก็ยกเท้าขึ้นและเห็นว่าข้อเท้าของเธอเริ่มบวมแดง
มันทำให้เธอโหโหมาก เดิมทีเธอตั้งใจจะเตะฉีเติ่งเสียน แต่สุดท้ายเธอกลับทำร้ายตัวเองแทน
ขัดใจจริงๆ ! โมโห !
ฉีเติ่งเสียนเจอยาแก้ปวดจากกล่องยาและโยนมันไปให้หลี่อวิ๋นหว่าน
แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากที่หลี่อวิ๋นหว่านลูบๆคลำๆมันครั้งสองครั้ง เธอก็ทำหน้าบูดบึ้งและปฏิเสธที่จะบีบนวด ฉีเติ่งเสียนเห็นดังนั้นเขาจึงทำเข้ามาช่วยเธอ
การนวดนี้ทำให้หลี่อวิ๋นหว่านเจ็บปวดมากจนแทบจะกลิ้งตัวลงไปบนโซฟา ผิวหนังที่ข้อเท้าของเธอถูกนวดจนเริ่มเป็นสีแดงและมีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของเธอ
หลี่อวิ๋นหว่านยังคงสวมชุดออกงานและเนื่องจากความเจ็บปวดเธอจึงประมาทเรื่องท่านั่งบนโซฟา ทำให้ฉีเติ่งเสียนเห็นบางฉากที่เขาไม่ควรเห็น
ต้องบอกว่าผิวที่เรียบเนียนและรูปร่างที่ได้สัดส่วนที่ดีของหลี่อวิ๋นหว่าน ควบคู่ไปกับเสียงครวญครางที่เจ็บปวด ทำให้ใครก็ตามที่ได้ยินต้องอดคิดตามไม่ได้แน่ๆ
ฉีเติ่งเสียนนึกถึงบทกวีโบราณ: เสียงร้องดังก้อง สามวันไม่เสื่อมคาย (บรรยายถึงการร้องเพลงที่ไพเราะและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้คน)
เขารู้สึกใจคอไม่ดีจึงต้องขอให้หลี่อวิ๋นหว่านหยุดกรีดร้อง
“มันเป็นความผิดของนายทั้งหมด นายไม่ทำให้ฉันโกรธบ้างจะได้ไหม!” หลี่อวิ๋นหว่านพูดด้วยความโกรธและถดเท้า
“นี่เป็นความผิดของฉันด้วยเหรอ?” ฉีเติ่งสียนยกมืออย่างช่วยไม่ได้
ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกจริงๆ เห็นๆอยู่ว่าเธอไม่ได้ปฏิบัติตามหลักศิลปะการต่อสู้ เธอมาแอบโจมตีลับหลัง ทำให้เธอล้มลงไปเอง และตอนนี้เธอโทษเขาว่าไม่จริยธรรมในการต่อสู้!
แน่นอนว่าผู้หญิงส่งผลต่อความเร็วในการชักดาบเท่านั้น!
“พรุ่งนี้นายต้องพาฉันกลับบ้าน ฉันข้อเท้าแพลง แค่เหยียบเบรกก็ไม่ได้แล้ว!” หลี่อวิ๋นหว่านกล่าว
“นี่ไม่ใช่วิธีอ่อยของผู้หญิงใช่ไหม?” ฉีเติ่เงสียนถามเบา ๆ
หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกว่าการมองเห็นของเธอมืดดับลง เธอโกรธจนลมแทบจะออกหู
เธอคิดว่าเธอจะต้องให้พ่อของเธอมาพบเขาพรุ่งนี้เพื่อปูทางสำหรับแผนการในอนาคต
หลี่อวิ๋นหว่านเป็นลูกคนเดียว เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่แยกทางกัน ตอนนี้แม่ของเธอทำงานที่ต่างเมือง พ่อของเธอดูแลมู่จื่อกรุ๊ป
“จริงสิ นายโกรธฉันโกรธ จนเราไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้!” หลี่อวิ๋นหว่านโบกมืออย่างอ่อนแรงและทรุดตัวลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ
เซี่ยงกรุ๊ปกำลังจะก่อตั้งบริษัทใหม่และส่งมอบให้กับฉีเติ่งเสียนเพื่อดำเนินการ อะไรดีขนาดนั้น? จริง ๆ แล้ว ฉีเติ่งเสียนคิดว่าเซี่ยงตงฉิงจะหลอกเขาหรือไง และเขาจะโทรกลับไปเพื่อด่าเธอนี่นะ?
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า: "พื้นที่สองร้อยเอเคอร์ที่สัญญาไว้กับเธอจะลดลงครึ่งหนึ่ง และเราจะให้เธอสูงสุดหนึ่งร้อยเอเคอร์ แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วใช่ไหม?”
“เฮ้ ฉันไม่ได้หวังอย่างนั้นจริงๆ ฉันบอก ชิวเมิ่งเป็นพันครั้งแล้วว่าอย่าขายที่ดินผืนนั้น แต่ฉันไม่คิดว่าจะยังขายที่ดินอยู่.....”
“การกระทำโง่ๆ นี้ไม่ใช่เธอเป็นคนทำแน่... เพราะวันนี้เธออยู่บนเรือสำราญ”
หลี่อวิ๋นหว่านไม่คัดค้าน ที่ดินสองร้อยเอเคอร์ก็เท่ากับของทุกคน มันเป็นสัญญาณของความรักที่เขาเต็มใจที่จะมอบผลกำไรให้กับมู่จื่อกรุ๊ปยิ่งไปกว่านั้น ที่ดินหนึ่งร้อย เอเคอร์ก็ไม่เล็กเกินไป
เมื่อนึกถึงฉีเติ่งเสียนที่ต่อรองกับเซี่ยงตงฉิงเพื่อแย่งชิงที่ดินครึ่งหนึ่งในมือของเขา เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นในใจ
“ขอบคุณ คุณฉี” หลี่อวิ๋นหว่านเหลือบมองฉีเติ่งเสียนอย่างเสน่หา
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อยกับสีหน้าของเธอ และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง
หลี่อวิ๋นหว่านใช้ประโยชน์จากความงุนงงของเขาและโน้มตัวไปในวงแขนของเขา โอบแขนไว้รอบคอของเขาแน่นหนา แล้วจูบเขาเบาๆ
เธอรู้แล้วว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องรีบจู่โจม!
ท้ายที่สุดแล้วเฉียวชิวเมิ่งก็มีข้อได้เปรียบมาแต่แรก
หากเพื่อนเธอตื่นรู้ขึ้นมาก่อนที่จะจู่โจมฉีเติ่งเสียนสำเร็จ เธอก็จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
“ดี......”
ฉีเติ่งเสียนตกตะลึง
เขาไม่อยากยอมรับว่าเขาเป็นคนบ้านนอกที่ไม่ประสีประสา
แต่เมื่อต้องรับมือกับเรื่องแบบนี้ เขาเป็นคนบ้านนอกจริงๆ......
แต่ถึงอย่างนั้นอย่างน้อยเขาก็รู้ว่าเมื่อจูบต้องแทรกแลบลิ้นเข้าไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...