มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1995

เมื่อรู้ว่า ฉีเติ่งเสียนมีเบาะแสขององค์กรค้ามนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดซีเทียนแล้ว จ้าวเทียนลู่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ส่วนฉีเติ่งเสียนก็ไม่ได้ปิดบังข้อมูลอะไรมากนัก บอกกับจ้าวเทียนลู่และลู่หยู่ไห่โดยตรงว่า องค์กรนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับตระกูลซุน

“ผมคิดไว้นานแล้ว องค์กรนี้ทำเรื่องเลวร้ายมากมายขนาดนั้น แต่กลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย แสดงว่าต้องมีคนตามเก็บกวาดให้แน่นอน” จ้าวเทียนลู่พูดอย่างช้า ๆ

“ตระกูลซุน…..” ลู่หยู่ไห่ก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งเงียบไป คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า: “ใช่แล้ว คนอย่างจั๋วปู้ฝานต้องมีเอี่ยวแน่นอน ไม่ต้องสงสัย ส่วนจะขุดเจอคนอื่นเพิ่มอีกหรือเปล่า ก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานในขั้นต่อไป”

จ้าวเทียนลู่หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า: “จะพูดความจริงให้ฟังนะ บนโต๊ะอาหารเมื่อกี้ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคนพวกนั้นก็ไม่ได้ใสสะอาดนักหรอก ถ้าพวกนั้นรู้ว่าเรามีเบาะแสแบบนี้ คดีนี้จะเดินหน้าต่อไม่ได้เลย คุณเชื่อไหม?”

“ครึ่งหนึ่งเลยเหรอ?!” ลู่หยู่ไห่ได้ยินแล้วก็รู้สึกใจเต้นแรงแทบจะไม่เชื่อว่าโลกนี้จะดำมืดได้ขนาดนี้

จ้าวเทียนลู่หัวเราะเยาะอีกครั้ง: “ที่พูดว่าครึ่งนั่นคือพูดแบบถนอมน้ำใจแล้วนะ ผมกลัวจะทำคุณตกใจมากไป”

ฉีเติ่งเสียนครุ่นคิดแล้วพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้น คดีนี้ต้องห้ามใช้คนในจังหวัดซีเทียนเด็ดขาด”

ลู่หยู่ไห่รีบพูดว่า: “ฉันบริสุทธิ์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลซุนเลยแม้แต่น้อย!”

ฉีเติ่งเสียนก็พูดว่า: “ไม่ต้องห่วงสารวัตรลู่ ในเมื่อเราให้คุณเข้าร่วมด้วย ก็แสดงว่าเราเชื่อใจคุณอยู่แล้ว คุณไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น”

ลู่หยู่ไห่พอได้ยินเช่นนี้ก็ผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย “องค์กรนี้เป็นภัยร้ายแรงต่อจังหวัดเรา ต้องสืบสวนอย่างละเอียด!”

จ้าวเทียนลู่ว่า: “ถ้าอย่างนั้น ก็คงต้องฝากคุณฉีใช้เส้นสายจากเมืองหลวงหาเจ้าหน้าที่มาสืบคดีนี้”

ฉีเติ่งเสียนเคาะโต๊ะเบาๆ ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า: “งั้นผมจะติดต่อกับคนในเมืองหลวงโดยตรง แล้วให้พวกเขาส่งคนมาที่นี่ภายใต้คำสั่งของผอ.กรมจ้าว จากนั้นคุณก็จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจลับ ห้ามให้ใครรู้ ยกเว้นคนที่คุณไว้ใจจริงๆ เท่านั้น”

ลู่หยู่ไห่รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีส่วนร่วมในภารกิจสำคัญมาก เพราะถึงขนาดต้องขอเจ้าหน้าที่จากเมืองหลวงมาจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจลับ

“เจ้าหน้าที่ในหน่วยเฉพาะกิจลับ พยายามเลือกจากกรมยุทธการให้มากที่สุด” ฉีเติ่งเสียนกล่าวต่อ

เขานึกถึงพวกอดีตลูกน้องของลู่จ้านหลงกลุ่มนั้น ซึ่งตอนนี้อยู่ในกรมยุทธการ แต่กลับไม่ได้มีชีวิตที่ดีนัก บางคนที่มีความสามารถก็ได้เปลี่ยนสายงานไปทำในระบบตำรวจ

สำหรับคนพวกนี้ ฉีเติ่งเสียนค่อนข้างไว้ใจ หากดึงพวกเขาเข้ามาร่วมงานด้วย ก็จะสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครรั่วไหลความลับ

จ้าวเทียนลู่จึงพูดว่า “ดี งั้นก็จัดการตามนี้เลย! ผมจะร่างเอกสารและลงนามทันที จากนั้นก็ส่งมอบให้คุณ เพื่อที่คุณจะได้นำไปยื่นต่อเมืองหลวง ให้เหล่าบรรดาผู้มีอำนาจอนุมัติการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจลับนี้ ตอนนี้ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย ก็ให้ตั้งไว้ชั่วคราวเป็นสารวัตรลู่ไปก่อนแล้วกัน”

ลู่หยู่ไห่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับตกใจมาก พลางพูดว่า“ผอ. กรมจ้าว…… ฉันเป็นแค่สารวัตรในสถานีตำรวจ ยังมีคุณวุฒิไม่เพียงพอหรอกค่ะ”

จ้าวเทียนลู่กล่าวว่า “เราดูที่ความสามารถ ไม่ได้ดูที่คุณวุฒิ! เรื่องลำดับอาวุโสอะไรนั่นน่ะ ฉันเบื่อที่สุดเลย!”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ลู่หยู่ไห่ก็พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ คิดว่าการได้เป็นหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจลับ และสามารถสั่งการเจ้าหน้าที่จากเมืองหลวงได้ มันทำให้รู้สึกตื่นเต้นลึกๆ ในใจ

ทั้งสามพูดคุยกันจนเรื่องราวลงตัว ต่างก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องถอนรากถอนโคนองค์กรค้ามนุษย์นี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะมีคนต้องทนทุกข์อีกไม่รู้เท่าไหร่

หลังจากเขาพูดไปได้พักใหญ่ พ่อค้าคนหนึ่งก็ถามว่า: “ท่านจิ่วครับ แล้วท่าวัวเหล็กไถนาที่ท่านว่า ใช้ยังไงนะครับ?”

จิ่วเฮิงตอบว่า: “ท่านั้นฉันเรียนมาจากคนชื่อฉีเหล่าลิ่ว ท่านี้มีเคล็ดลับอยู่ ฉันจะบอกพวกคุณ…… เวลาทำท่านี้ ต้องปล่อยพลังลงจุดตันเถียน ให้จุดตันเถียนของคุณคงอยู่ในแนวกลาง จากนั้นให้แกว่งสะโพกไปด้านหน้าและหลัง……

แต่ฟังให้ดี ตอนสะโพกเคลื่อนไหว สมาธิต้องอยู่ที่จุดตันเถียน ต้องรักษาความมั่นคงของจุดตันเถียนให้ตลอดเวลา อยู่ตรงกลางตลอด ทำแบบนี้ จะช่วยให้พลังทนทานของคุณมากขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่า!”

“ท่านจิ่วสุดยอดจริง ๆ ผมนี่อยากเป็นพี่น้องกับท่านเลย แต่น่าเสียดายที่เราไว้ชีวิตท่านไม่ได้ งั้นคงต้องเป็นพี่น้องชาติหน้าแทนแล้วกัน”

พวกค้ามนุษย์ฟังแล้วก็พากันถอนหายใจ รู้สึกว่าจิ่วเฮิงเป็นคนมีของจริง และเป็นกันเองมาก

“คุณสอนเขาพวกนี้เหรอ?” หยางกวนกวนถามด้วยความพิกลสงสัย มองฉีเติ่งเสียนด้วยสายตาประหลาด

“พูดบ้าอะไร! ฉันไม่สอนอะไรแบบนั้นหรอก……” ฉีเติ่งเสียนกดปิดเทอร์มินัลไปด้วยความหงุดหงิด ในใจแอบด่าจิ่วเฮิงว่า ไอ้สารเลวเอ๊ย ไม่วายจะแขวะตัวเขาทุกครั้ง

หยางกวนกวนพูดว่า: “เมื่อก่อนจิ่วเฮิงเป็นคนเรียบง่ายมาก สนแค่ฝึกวิชาอย่างเดียว แต่ตอนนี้กลายเป็นแบบนี้แล้ว คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผลจริงๆ”

ฉีเติ่งเสียนไม่แน่ใจว่าจะเห็นด้วยกับคำพูดนี้ดีไหม แต่ใบหน้าก็เริ่มมืดลง ตำหนิว่า: “เขาเป็นตัวปัญหาตั้งแต่แรกแล้ว อย่าเอาความผิดของเขามาโยนที่ตัวฉัน!”

อย่างไรก็ตาม ฉีเติ่งเสียนก็เริ่มรู้สึกสงสัยเล็ก ๆ ว่า

ประสบการณ์ที่จิ่วเฮิงสรุปมานั้น มันเจ๋งจริงหรือเปล่า ถึงทำให้พวกค้ามนุษย์คลั่งไคล้เขาขนาดนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง