มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 138

เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้พวกเขาก็แทบจะกั้นหายใจ !

ฉู่ปิงเป็นดาราระดับโลก เธอได้สร้างภาพยนตร์ร่วมทุนในฮอลลีวูดที่สหรัฐอเมริกา แต่ฉีเติ่งเสียนทำกับเธอแบบนี้?

เมื่อเฉียวชิวเมิ่งเห็นแบบนี้ ในใจเธอก็รู้สึกหลากหลาย ฉีเติ่งเสียนมีความเป็นนักเลงมาก หากเขาลงมือเกิดปัญหาใหญ่แน่.....

ไม่สำคัญแล้วว่าเธอจะอยากทุบตีกลับแค่ไหน หากเรื่องมันเลวร้ายเธอจะหาทางเธอตอบโต้กลับทีหลัง เธอไม่ต้องการสร้างปัญหาใหญ่ในเวลานี้

แต่หลี่อวิ๋นหว่านกลับพบว่ามันดูน่าสนุกเป็นพิเศษ ฉู่ปิงเป็นใคร ทำไมเธอถึงคิดว่าเธอเป็นคนที่เหนือกว่าและสามารถกลั่นแกล้งคนอื่นได้ตามใจชอบหรือแม้กระทั่งจะตบตีพวกเขายังไงก็ได้?

“แก๊...แกกล้าทำฉันได้ยังไง...เอาของสกปรกเข้าปากฉัน ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่ายๆแน่!” ฉู่ปิงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

ทันทีที่เธอเปิดปาก ฉีเติ่งเสียนก็ยัดเค้กอีกชิ้นเข้าไปแล้วชกที่บริเวณท้องของเธอทันที

แม้แต่หลี่อวิ๋นหว่านยังบอกว่าฉีเติ่งเสียนมีความอดทนต่ำและเขาจะไม่วันแสดงความเมตตาต่อผู้หญิงคนนี้ ฉู่ปิงอ้าปากค้าง ทำให้เธอต้องกลืนเค้กทั้งหมดลงไป

“ทำร้ายคุณเหรอ? วันนี้คุณไม่ขอโทษ ฉันจะตัดมือของคุณออกซะ!” ดวงตาของฉีเติ่งเสียนฉายแววเย็นชา

เฉียวชิวเมิ่งเอามือประกบแก้มของเธอก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ฉีเติ่งเฉียน ช่างมันเถอะ ปล่อยเธอไป เธอตบฉันแล้ว นายก็สั่งสอนเธอไปแล้ว ช่างมันเถอะนะ!”

ฉีเติ่งเสียนฮึดฮัดอย่างเย็นชาและปล่อยมือ ฉู่ปิงล้มลงกับพื้นทันที

“ช่างเถอะ?”

“คุณคิดว่าเรื่องนี้จะยุติแบบนี้เหรอ?”

“ผมบอกคุณแล้ว ไม่มีทางที่เรื่องนี้จะตกลงกันได้แน่นอน!”

“แก แก และแก แกสามคน ฉันรับรองว่าพรุ่งนี้พวกแกจะไม่รอดแน่!”

ฉู่ปิงเอื้อมยื่นมือออกไปและชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียน, เฉียวชิวเมิ่งและหลี่อวิ๋นหว่านทีละคน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดุดัน แม้ว่าจะอยู่ในสภาพน่าอับอาย แต่รังสีอำมหิตยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชา: “เอาล่ะ ฉันจะรอ พรุ่งนี้ฉันอยากรู้ว่าคุณจะทำอะไรกับชีวิตเราได้บ้าง!”

เฉียวชิวเมิ่งรู้สึกหวาดกลัว เพราะตระกูลเฉียวในปัจจุบันไม่คู่ควรที่จะเผชิญหน้ากับฉู่ปิง

“ฉู่ปิง เขาทำร้ายคุณ หากคุณไม่พอใจก็ตีฉันเลย! ทุบตีจนความโกรธของคุณหายไปเลยก็ได้!” เฉียวชิวเมิ่งกัดฟันและยืนขึ้น รู้สึกเจ็บใจมาก

“ตีเธอ?”

“เธอเป็นใคร?”

“การตีเธอทำให้มือของฉันสกปรก!”

“คนสูงศักดิ์อย่างฉันเทียบกับคนน่ารังเกียจอย่างเธอได้ไหม?”

“กล้าแตะต้องฉันเหรอ?”

“วันนี้พวกแกไม่รอดแน่!”

ฉู่ปิงคำรามด้วยความโกรธ โดยไม่สนใจเรื่องมารยาทอีกต่อไป

ในที่สุดเสียงตะโกนของเธอก็ดึงดูดผู้บริหารยักษ์ใหญ่ทั้งสาม อย่างเซี่ยงตงฉิง,สวีเอ้าเสวี่ยและวังหู่!

ในฐานะผู้จัดงานเซี่ยงตงฉิงมีสีหน้าไม่ดีนัก เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เข้มแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น!”

“คุณเซี่ยง ไอ้นอกคอกในบริษัทของคุณเป็นคนนิสัยไม่ดี เขาจงใจแตะมือคุณฉู่ตอนกำลังเลือกอาหารอยู่!”

“ใช่ พอคุณฉู่ตำหนิเขา แต่เขากลายเป็นคนจองหองและบอกว่าเราไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ในที่ของเขา”

“ตอนนี้คุณฉู่ถูกเขาทำร้ายและของสกปรกที่ตกลงบนพื้นก็ยังยัดเข้าไปในปากของเธอ”

ทุกคนบอกกับเซี่ยงตงฉิงโดยหวังว่าจะใช้โอกาสนี้เพื่อประจบประแจงฉู่ปิง

เมื่อได้ยินทุกคนบอกกกล่าว เธอก็ทำได้แค่ขมวดคิ้ว จากนั้นมองไปที่ฉีเติ่งเสียน แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

“ยายคนขี้เหร่นี่สร้างปัญหา!” ฉีเติ่งเสียนยักไหล่แล้วชี้ไปที่รอยฝ่ามือบนใบหน้าของเฉียวชิวเมิ่ง

เฉียวชิวเมิ่งอธิบายว่า: “คุณเซี่ยง คือว่าเรื่องที่เกิดขึ้น.....”

“หากเราไม่ให้ความเป็นธรรมแก่คุณฉู่ หู่เหมินกรุ๊ปของเราจะไม่มีวันอยู่เฉยแน่!”

“หู่เหมินกรุ๊ปมีชื่อเสียงในเรื่องความยุติธรรมมาโดยตลอด! เมื่อเราเห็นความอยุติธรรมเกิดขึ้น เราต้องชักดาบออกมาช่วย!”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะก่อนพูดว่า: “คุณเป็นแค่เด็กหนุ่มอันธพาล ทำไมคุณถึงพูดสูงส่งขนาดนั้น?”

เขาหันไปมองสวีเอ้าเสวี่ยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวีเอ้าเสวี่ย ใบหน้าของเธอยังไม่หายบวมใช่ไหม? ถึงได้เต้นแรงเต้นกาต่อหน้าฉันอีก?”

“และคุณ คุณหญิงฉู่ปิงผู้สูงศักดิ์ คุณต้องการให้ฉันขอโทษคุณหรือ? ดูด้วยตัวคุณเองว่าสมควรได้รับมันหรือเปล่า!”

“คุณเองที่ควรจะกินสิ่งเหล่านี้ให้หมด ครูและพ่อแม่ของคุณไม่ได้สั่งสอนคุณตั้งแต่เด็กให้รู้จักคุณค่าอาหารหรือ?”

คำพูดของฉีเติ่งเสียนทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ตะลึงอีกครั้ง

ให้ตายเถอะ ประธานทั้งสองคนยังไม่กล้าพูดแบบนี้ เจ้าเด็กเหลือขอคนนี้จะจองหองขนาดนี้ได้ยังไง? รนหาที่ตาย?

เฉียวชิวเมิ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตะลึงเมื่อได้ยินความแข็งแกร่งของฉีเติ่งเสียน ซึ่งทำให้เธอไม่แน่ใจจริงๆ ว่าจะเรียกเขาว่าโง่หรือมีความคิดมีหลักการ

“ตอนนี้ คุณควรคุกเข่าขอโทษภรรยาของฉัน! ถ้าไม่อย่างนั้นก็กินของพวกซะ!”

ดวงตาของฉีเติ่งเสียนประกายเต็มไปด้วยแสงเย็นชา เขามองไปที่ฉู่ปิงและพูดอย่างเย็นชา: “ไม่อย่างนั้น จะไม่มีใครไปไหนได้ง่ายๆ!”

ฉู่ปิงโกรธทันที

ใบหน้าของสวีเอ้าเสวี่ยตึงขึ้นทันทีก่อนจะเยาะเย้ย: “คุณเซี่ยงดูเหมือนว่าคนของคุณไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! ฉันจะสั่งสอนเขาแทนคุณเซี่ยงเอง!”

หลังจากพูดจบสวีเอ้าเสวี่ยก็ปรบมือของเธอเบา ๆ

ชายคนหนึ่งที่สูงประมาณร้อยเเปดสิบเมตร สวมชุดสูทสีดำเดินออกมา เขาดูมีความสามารถมาก เมื่อมองแวบแรก เขาดูเหมือนเป็นปรมาจารย์ที่มีประสบการณ์สูงในเรื่องการต่อสู้

* Vladimir Gusinsky ผู้ประกอบการสื่อรัสเซีย หนึ่งในเจ็ดผู้มีอำนาจทางการเงินของสหพันธรัฐรัสเซีย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง