เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้พวกเขาก็แทบจะกั้นหายใจ !
ฉู่ปิงเป็นดาราระดับโลก เธอได้สร้างภาพยนตร์ร่วมทุนในฮอลลีวูดที่สหรัฐอเมริกา แต่ฉีเติ่งเสียนทำกับเธอแบบนี้?
เมื่อเฉียวชิวเมิ่งเห็นแบบนี้ ในใจเธอก็รู้สึกหลากหลาย ฉีเติ่งเสียนมีความเป็นนักเลงมาก หากเขาลงมือเกิดปัญหาใหญ่แน่.....
ไม่สำคัญแล้วว่าเธอจะอยากทุบตีกลับแค่ไหน หากเรื่องมันเลวร้ายเธอจะหาทางเธอตอบโต้กลับทีหลัง เธอไม่ต้องการสร้างปัญหาใหญ่ในเวลานี้
แต่หลี่อวิ๋นหว่านกลับพบว่ามันดูน่าสนุกเป็นพิเศษ ฉู่ปิงเป็นใคร ทำไมเธอถึงคิดว่าเธอเป็นคนที่เหนือกว่าและสามารถกลั่นแกล้งคนอื่นได้ตามใจชอบหรือแม้กระทั่งจะตบตีพวกเขายังไงก็ได้?
“แก๊...แกกล้าทำฉันได้ยังไง...เอาของสกปรกเข้าปากฉัน ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่ายๆแน่!” ฉู่ปิงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
ทันทีที่เธอเปิดปาก ฉีเติ่งเสียนก็ยัดเค้กอีกชิ้นเข้าไปแล้วชกที่บริเวณท้องของเธอทันที
แม้แต่หลี่อวิ๋นหว่านยังบอกว่าฉีเติ่งเสียนมีความอดทนต่ำและเขาจะไม่วันแสดงความเมตตาต่อผู้หญิงคนนี้ ฉู่ปิงอ้าปากค้าง ทำให้เธอต้องกลืนเค้กทั้งหมดลงไป
“ทำร้ายคุณเหรอ? วันนี้คุณไม่ขอโทษ ฉันจะตัดมือของคุณออกซะ!” ดวงตาของฉีเติ่งเสียนฉายแววเย็นชา
เฉียวชิวเมิ่งเอามือประกบแก้มของเธอก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ฉีเติ่งเฉียน ช่างมันเถอะ ปล่อยเธอไป เธอตบฉันแล้ว นายก็สั่งสอนเธอไปแล้ว ช่างมันเถอะนะ!”
ฉีเติ่งเสียนฮึดฮัดอย่างเย็นชาและปล่อยมือ ฉู่ปิงล้มลงกับพื้นทันที
“ช่างเถอะ?”
“คุณคิดว่าเรื่องนี้จะยุติแบบนี้เหรอ?”
“ผมบอกคุณแล้ว ไม่มีทางที่เรื่องนี้จะตกลงกันได้แน่นอน!”
“แก แก และแก แกสามคน ฉันรับรองว่าพรุ่งนี้พวกแกจะไม่รอดแน่!”
ฉู่ปิงเอื้อมยื่นมือออกไปและชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียน, เฉียวชิวเมิ่งและหลี่อวิ๋นหว่านทีละคน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดุดัน แม้ว่าจะอยู่ในสภาพน่าอับอาย แต่รังสีอำมหิตยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชา: “เอาล่ะ ฉันจะรอ พรุ่งนี้ฉันอยากรู้ว่าคุณจะทำอะไรกับชีวิตเราได้บ้าง!”
เฉียวชิวเมิ่งรู้สึกหวาดกลัว เพราะตระกูลเฉียวในปัจจุบันไม่คู่ควรที่จะเผชิญหน้ากับฉู่ปิง
“ฉู่ปิง เขาทำร้ายคุณ หากคุณไม่พอใจก็ตีฉันเลย! ทุบตีจนความโกรธของคุณหายไปเลยก็ได้!” เฉียวชิวเมิ่งกัดฟันและยืนขึ้น รู้สึกเจ็บใจมาก
“ตีเธอ?”
“เธอเป็นใคร?”
“การตีเธอทำให้มือของฉันสกปรก!”
“คนสูงศักดิ์อย่างฉันเทียบกับคนน่ารังเกียจอย่างเธอได้ไหม?”
“กล้าแตะต้องฉันเหรอ?”
“วันนี้พวกแกไม่รอดแน่!”
ฉู่ปิงคำรามด้วยความโกรธ โดยไม่สนใจเรื่องมารยาทอีกต่อไป
ในที่สุดเสียงตะโกนของเธอก็ดึงดูดผู้บริหารยักษ์ใหญ่ทั้งสาม อย่างเซี่ยงตงฉิง,สวีเอ้าเสวี่ยและวังหู่!
ในฐานะผู้จัดงานเซี่ยงตงฉิงมีสีหน้าไม่ดีนัก เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เข้มแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น!”
“คุณเซี่ยง ไอ้นอกคอกในบริษัทของคุณเป็นคนนิสัยไม่ดี เขาจงใจแตะมือคุณฉู่ตอนกำลังเลือกอาหารอยู่!”
“ใช่ พอคุณฉู่ตำหนิเขา แต่เขากลายเป็นคนจองหองและบอกว่าเราไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ในที่ของเขา”
“ตอนนี้คุณฉู่ถูกเขาทำร้ายและของสกปรกที่ตกลงบนพื้นก็ยังยัดเข้าไปในปากของเธอ”
ทุกคนบอกกับเซี่ยงตงฉิงโดยหวังว่าจะใช้โอกาสนี้เพื่อประจบประแจงฉู่ปิง
เมื่อได้ยินทุกคนบอกกกล่าว เธอก็ทำได้แค่ขมวดคิ้ว จากนั้นมองไปที่ฉีเติ่งเสียน แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“ยายคนขี้เหร่นี่สร้างปัญหา!” ฉีเติ่งเสียนยักไหล่แล้วชี้ไปที่รอยฝ่ามือบนใบหน้าของเฉียวชิวเมิ่ง
เฉียวชิวเมิ่งอธิบายว่า: “คุณเซี่ยง คือว่าเรื่องที่เกิดขึ้น.....”
“หากเราไม่ให้ความเป็นธรรมแก่คุณฉู่ หู่เหมินกรุ๊ปของเราจะไม่มีวันอยู่เฉยแน่!”
“หู่เหมินกรุ๊ปมีชื่อเสียงในเรื่องความยุติธรรมมาโดยตลอด! เมื่อเราเห็นความอยุติธรรมเกิดขึ้น เราต้องชักดาบออกมาช่วย!”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะก่อนพูดว่า: “คุณเป็นแค่เด็กหนุ่มอันธพาล ทำไมคุณถึงพูดสูงส่งขนาดนั้น?”
เขาหันไปมองสวีเอ้าเสวี่ยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวีเอ้าเสวี่ย ใบหน้าของเธอยังไม่หายบวมใช่ไหม? ถึงได้เต้นแรงเต้นกาต่อหน้าฉันอีก?”
“และคุณ คุณหญิงฉู่ปิงผู้สูงศักดิ์ คุณต้องการให้ฉันขอโทษคุณหรือ? ดูด้วยตัวคุณเองว่าสมควรได้รับมันหรือเปล่า!”
“คุณเองที่ควรจะกินสิ่งเหล่านี้ให้หมด ครูและพ่อแม่ของคุณไม่ได้สั่งสอนคุณตั้งแต่เด็กให้รู้จักคุณค่าอาหารหรือ?”
คำพูดของฉีเติ่งเสียนทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ตะลึงอีกครั้ง
ให้ตายเถอะ ประธานทั้งสองคนยังไม่กล้าพูดแบบนี้ เจ้าเด็กเหลือขอคนนี้จะจองหองขนาดนี้ได้ยังไง? รนหาที่ตาย?
เฉียวชิวเมิ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตะลึงเมื่อได้ยินความแข็งแกร่งของฉีเติ่งเสียน ซึ่งทำให้เธอไม่แน่ใจจริงๆ ว่าจะเรียกเขาว่าโง่หรือมีความคิดมีหลักการ
“ตอนนี้ คุณควรคุกเข่าขอโทษภรรยาของฉัน! ถ้าไม่อย่างนั้นก็กินของพวกซะ!”
ดวงตาของฉีเติ่งเสียนประกายเต็มไปด้วยแสงเย็นชา เขามองไปที่ฉู่ปิงและพูดอย่างเย็นชา: “ไม่อย่างนั้น จะไม่มีใครไปไหนได้ง่ายๆ!”
ฉู่ปิงโกรธทันที
ใบหน้าของสวีเอ้าเสวี่ยตึงขึ้นทันทีก่อนจะเยาะเย้ย: “คุณเซี่ยงดูเหมือนว่าคนของคุณไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! ฉันจะสั่งสอนเขาแทนคุณเซี่ยงเอง!”
หลังจากพูดจบสวีเอ้าเสวี่ยก็ปรบมือของเธอเบา ๆ
ชายคนหนึ่งที่สูงประมาณร้อยเเปดสิบเมตร สวมชุดสูทสีดำเดินออกมา เขาดูมีความสามารถมาก เมื่อมองแวบแรก เขาดูเหมือนเป็นปรมาจารย์ที่มีประสบการณ์สูงในเรื่องการต่อสู้
* Vladimir Gusinsky ผู้ประกอบการสื่อรัสเซีย หนึ่งในเจ็ดผู้มีอำนาจทางการเงินของสหพันธรัฐรัสเซีย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...