ฉีเติ่งเสียนกลับไปหมู่บ้านคฤหาสน์อวิ๋นติ่งโดยตรง ก้นยังไม่ทันนั่งจนร้อยเสียงประตูก็ดังขึ้น
เขาคิดว่าเป็นหลี่อวิ๋นหว่านก็ไปเปิดประตู ไม่คิดเลยคนที่ยืนอยู่นอกประตูคือชายในชุดทหารอวี้เสี่ยวหลง
“ฉู่อู๋เต้าละ?ให้เขาออกมาพบฉันหน่อย!”สีหน้าของอวี้เสี่ยวหลงนั้นเย็นชาแล้วมือไขว้หลัง แล้วจ้องฉีเติ่งเสียนอย่างสูงๆ
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะแล้วถามขึ้น: “คุณเป็นอะไร?บ้านนี้ตอนนี้เป็นของฉัน คุณจะไปหาฉู่อู๋เต้าไปหาเองไม่เป็นหรอ?”
อวี้เสี่ยวหลงหรี่ตาลงแล้วพูดอย่างเย็นชา: “ไม่คิดเลยว่าคุณจะมีความสามารถ ในเมื่อถูกฉู่อู๋และเซี่ยงตงฉิงทั้งสองนั้นร่วมมือกันให้กลายเป็นหุ่นเชิด แล้วมาครองเทียนไล่แคปปิตอล!”
ฉีเติ่งเสียนไม่อยากพูดมาก ประธานลึกลับเซี่ยงตงฉิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ตอนนี้ทุกคนคิดว่าคนคนนี้มีตัวตนจริงๆ เขาก็ได้ดูพวกเขานั้นแสดง
“ถึงว่าทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนี้ กล้าพูดออกมาว่าจะทำให้สวีเอ้าเสวี่ยและฉันนั้นเสียหน้า!”
“แต่ว่าความมั่นใจของคุณนั้นมันมากเกินไป”
“คุณรู้สึกจริงๆหรอว่าฉู่อู๋เต้านั้นยืนอยู่ที่เซี่ยงกรุ๊ปข้างเดียว ก็สามารถโจมตีพวกเราจนแพ้พ่าย?”
อวี้เสี่ยวหลงจ้องฉีเติ่งเสียนอยู่กับที่ สีหน้าเย็นชาและมีกลิ่นอายความดุร้ายเล็กน้อย
ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว หลังจากนั้นก็พูดอย่างนิ่งๆ: “ฟังที่ฉันพูดไปได้กี่คำ?”
อวี้เสี่ยวหลงโบกมือหมายความว่าให้เขานั้นตามสบาย
ฉีเติ่งเสียนพูด: “เซี่ยงกรุ๊ปนั้นทำธุรกิจอย่างมีมโนธรรมมาโดยตลอด คือหวังหู่ของเหมินกรุ๊ปหลังจากล้มเหลวในการตามจีบเซี่ยงตงฉิงเขาก็โจมตีเซี่ยงกรุ๊ป”
“สวีเอ้าเสวี่ยเห็นมีโอกาส ถึงมาจากเมืองหลวงของจักรพรรดิ แล้วไปที่เมืองจงไห่ อยากจะร่วมมือกับหู่เหมินกรุ๊ปไปแบ่งชิ้นดีของเซี่ยงกรุ๊ป”
“พวกคุณ....”
อวี้เสี่ยวหลงโบกมือในเวลานี้ ขัดคำพูดต่อไปของฉีเติ่งเสียนแล้วพูด: “พอแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องพูดต่อแล้ว!”
“ฉันรู้แล้วว่าคุณอยากพูดอะไร!”
“แต่ว่า ฉันอวี้เสี่ยวหลงทำเรื่องอะไรยังต้องให้คุณมาสอนหรอ?”
“สวีเอ้าเสวี่ยเป็นเพื่อนของฉัน อย่างนั้นฉันต้องช่วยเขามันก็ง่ายแบบนี้!”
“แม้ว่าฉันจะเคารพฉู่อู๋เต้า แต่ถ้าหากว่าเขานั้นมาโจมตี อย่างนั้นฉันก็ไม่ถือสารทำลายพวกเขาไปพร้อมกันเลย”
“คุณอย่าคิดว่าฉันยกย่องฉู่อู๋เต้าแล้วจะกลัวเขาจริงๆ!”
อวี้เสี่ยวหลงเกิดมาก็มีก็เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน อีกทั้งยังเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะด้านกำลังและสมอง ความสามารถเกินอายุ ข้างในจิตใจของเขาก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน
ขอพบฉู่อู๋เต้าทั้งสามก็ไม่มีผล ทำให้ใจของเขานั้นสงบลง ท้ายที่สุดแล้วเยือนกระท่อมสามครา(การไปเชื้อเชิญขอความช่วยเหลือหรือไปเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจ)ก็แค่นั้น
ถ้าตอนนี้ฉู่อู๋เต้านั้นยืนอยู่ตรงหน้าของเขา เขาก็ไม่มีทางที่จะอ้อมมือ!
ฉีเติ่งเสียนได้ยินแล้วสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยแล้วพูดขึ้น: “ได้ ฉันก็ให้คำเตือนครั้งสุดท้ายกับคุณ ถ้าคุณไม่เชื่อถ้าถึงเวลาเข้า อย่าหาว่าฉันไม่เตือนคุณ”
“ฮ่า คุณนี่นะ?!”อวี้เสี่ยวหลงคิ้วขยับ ภายในดวงตาด้วยความรังเกียจ ไม่เชื่อว่าฉีเติ่งเสียนนั้นจะมีความสามารถ
เขากลับเมืองหลวงของจักรพรรดิครั้งนี้ ก็เอาเงินหนึ่งร้อยล้านจากตระกูลอวี้มาด้วย บวกกับหู่เหมินกรุ๊ป สวีกรุ๊ปที่มีความร่วมมือเกี่ยวกับธุรกิจขนาดใหญ่ของจังหวัดตงไฮ่
ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ อวี้เสี่ยวหลงรู้สึกว่าเขาไม่มีสิทธิ์ในการพูดคำพวกนี้ เขาก็ไม่อยากไปอธิบาย
ถึงเวลา สงครามธุรกิจเริ่มขึ้น ทุกคนดูบนที่แท้จริงภายใต้มือของตัวเองก็พอ
“คนน่าจะถอยไปแล้ว ถ้าหากคุณมีความรวดเร็วในการปิดล้อมป่า อาจสามารถดักคนไว้ได้”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างนิ่งๆ
อวี้เสี่ยวหลงหันไปมองเขาแล้วพูโอย่างเย็นชา: “ดีที่สุดคืออย่าเป็นฉู่อู๋เต้า ไม่อย่างนั้น....คุณรู้ไหมการลอบฆ่าพลโทเมืองหัวกั๋วนั้นจะมีผลตามหลังยังไง!”
ฉีเติ่งเสียนอยากจะหัวเราะ ฉู่อู๋เต้าเพิ่งออกจากคุก ไม่รู้ว่าตอนนี้หนีไปไหนแล้ว มีกระจิตกระใจไปลอบฆ่าอวี้เสี่ยวหลงที่ไหน
อวี้เสี่ยวหลงรู้สึกว่าฉู่อู๋เต้าไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับสงครามธุรกิจที่จะเกิดขึ้นกับเซี่ยงกรุ๊ปได้อย่างไร ดังนั้นจึงส่งคนจัดการเขาทิ้งไปก่อน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ที่สุดก็คือฉู่อู๋เต้า
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ฉู่อู๋เต้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่แรกแล้ว เรื่องพวกนี้อวี้เสี่ยงหลงและสวีเอ้าเสวี่ยเป็นคนจินตนาการขึ้นมาทั้งนั้น
“อยากฆ่าคุณมันไม่ได้ยากขนาดนั้น”ฉีเติ่งเสียนมองไปทางอวี้เสี่ยวหลงแล้วพูดนิ่งๆ “ไม่จำเป็นต้องใช้ของอาวุธปืน”
หลังจากที่อวี้เสี่ยวหลงได้ยิน ก็หัวเราะอย่างเย็นชา เงียบสักพักแล้วค่อยพูดขึ้น: “ตอนแรกก็มีคนหลายคนนั้นคิดแบบนี้ แต่ตอนนี้คนพวกนี้กลายเป็นทหารที่ช่วยฉันเสริมยศ!”
“พอแล้ว นายพลหญิงอวี้ที่หยิ่ง ฉันไม่สามารถส่งคุณไปได้ไกลกว่านี้แล้ว”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชา “คนคนนั้นเพื่อจะฆ่าคุณ พัวพันมาถึงฉันด้วย อีกทั้งยังยิงปืนเข้ามาที่บ้านฉัน ฉันไม่เรียกค่าเสียหายกับคุณก็ดีแค่ไหนแล้ว”
อวี้เสี่ยวหลงยืนขึ้นมา ไม่พูดอะไรมาก ร่างกายเคลื่อนไหวและกระดูกสันหลังกระเด้ง เหมือนกับมังกรที่มีชีวิต คนทั้งคนกรีดร้องแล้วจากไป
เขาเดินออกไปหนึ่งก้าวเหมือนเดินออกไปสามถึงห้าเมตร มองไปเหมือนกับว่าทั้งคนของเขานั้นบินอยู่กลางพื้น
“ช่างมีความหมาย....”
ฉีเติ่งเสียนส่ายหัว หันหน้าแล้วมองไปลูกกระสูทที่ห้องรับแขก มันฝังเขาไปในกำแพงทำให้กำแพงนั้นแตกออกมองไปแล้วมันสะดูดตามาก
ฉีเติ่งเสียนปิดประตู ก็ได้รับสายจากหลี่อวิ๋นหว่าน
“คุณฉี ฉันมาหาคุณแล้วอย่าลืมเปิดประตูให้ฉัน!”หลี่อวิ๋นหว่านพูดขึ้น
“ข้างล่างปิดเขาแล้ว คุณเข้ามาไม่ได้แล้ว....”ฉีเติ่งเสียนพูด แต่หลี่อวิ๋นหว่านนั้นวางสายไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...