ซุนซิงเฉินเหลือบตามองอาจารย์สวี่กับฉีเติ่งเสียนอย่างคร่าวๆ แล้วสายตาก็วกกลับไปจ้องที่กู่ฉงเฟิง
ฉีเติ่งเสียนโดนเมินเข้าเต็มๆ จนอดรู้สึกหมดคำพูดไม่ได้ อย่างน้อยพี่คนนี้ก็เป็นคนที่อัดคลาร์กตายกับมือไหม? ขอความเคารพกันสักหน่อยได้ไหมล่ะ?
แต่ก็นั่นแหละ จังหวัดซีเทียนเป็นพื้นที่ไกลปืนเที่ยง ต่อให้ฆ่าคลาร์กไป ก็คงไม่มีใครสนใจนักหรอก
ซุนซิงเฉินยิ้มพลางพูดขึ้นว่า “ไม่ทราบว่ารองท่านนายน้อยกู่มาถึงจังหวัดซีเทียนคราวนี้ มีธุระอันใดหรือครับ? สมาคมพระจันทร์เต็มดวงของพวกคุณปกติไม่ค่อยจะโผล่มาให้เห็นกันบ่อยๆ แบบนี้ไม่เหมือนสไตล์ของสมาคมเลยนะครับ!”
กู่ฉงเฟิงตอบทันที “ก็แค่มาเดินเล่นดูนั่นดูนี่ มาดูว่ามีใครกล้าท้าทายอำนาจของสำนักหลงเหมินหรือเปล่า ถ้ามีล่ะก็ ก็คงต้องลงมือสั่งสอนเสียหน่อย”
คำพูดนี้ทำให้บรรยากาศรอบตัวตึงเครียดขึ้นในทันที ทุกคนรู้กันดีว่า ตระกูลซุนมีใจคิดเป็นกบฏมานานแล้ว ตั้งใจจะแยกสาขาสำนักหลงเหมินในจังหวัดซีเทียนออกไปเป็นอิสระ!
เพียงแต่ว่า ยังไม่มีใครกล้าฉีกหน้ากันโต่งๆ แค่นั้นเอง
เมื่อกู่ฉงเฟิงพูดออกมาแบบนี้ บรรยากาศก็ยิ่งตึงเครียดจนเหมือนจะมีประกายไฟแล่นในอากาศ
ฉีเติ่งเสียนได้แต่ยิ้มบางๆ ดูแล้ว กู่ฉงเฟิงไม่ใช่แค่ชอบวางท่าใส่เขาคนเดียว แต่ใครหน้าไหนมาก็ไม่เว้น แล้วแน่นอนว่า มีข้อยกเว้นหนึ่งเดียวเท่านั้นคือฉีปู้อวี่ ไม่มีใครกล้าแสร้งต่อหน้าเขาได้แน่
ซุนซิงเฉินชะงักไปเล็กน้อย “อ้อ! อย่างนี้นี่เอง! แล้วใครกันล่ะที่กล้าท้าทายอำนาจของสำนักหลงเหมิน?!”
กู่ฉงเฟิงยักไหล่ “ฉันก็ยังไม่รู้หรอกสิ ถึงได้ต้องมาดูเอง ถ้ารู้แล้วน่ะนะ ป่านนี้ฉันคงพากลุ่มยอดฝีมือจากสมาคมพระจันทร์เต็มดวงมาเป็นกองทัพแล้ว ไม่ปล่อยให้ใครบางคนกระโดดโลดเต้นอยู่แบบนี้หรอก จริงไหม?”
เหตุที่หลี่เหอถูยังไม่เรียกระดมยอดฝีมือจากแต่ละสาขามารวบกำลังปราบกบฏในจังหวัดซีเทียน ก็เพราะว่าที่นี่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง ผู้ที่ไม่คุ้นกับสภาพอากาศอาจเกิดอาการแพ้ความสูงได้
หากต้องเสียยอดฝีมือไปเพราะปัญหาเรื่องอากาศ ก็เท่ากับเป็นการบั่นทอนกำลังหลักของสำนักหลงเหมินครั้งใหญ่ และแน่นอนว่าตระกูลจ้าวจะต้องฉวยโอกาสนี้เข้ามาแทรกแน่ๆ
หลี่เหอถูเพิ่งจะจัดระเบียบภายในสำนักหลงเหมินได้สำเร็จ ไล่คนของตระกูลจ้าวที่แฝงตัวอยู่ภายในออกไปจนหมด หากตอนนี้มีเรื่องวุ่นวายอีก การจัดระเบียบภายในใหม่อีกครั้งก็คงไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว
ภูมิประเทศที่เป็นต่อ ทำให้ตระกูลซุนไม่เกรงกลัวต่อกำลังของสำนักหลงเหมิน แถมยังมีตำหนักปู้หลุนหนุนหลัง! และอาจารย์เจียยางแห่งตำหนักปู้หลุนก็เป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลซุน!
“นายไม่รู้ แต่ฉันเหมือนจะรู้แล้วล่ะ!” ทันใดนั้น ซุนซิงเฉินก็ทำท่าตบมือราวกับนึกอะไรบางอย่างออก
เขาหันไปมองอาจารย์สวี่กับฉีเติ่งเสียน แล้วถอนหายใจเบาๆ “แต่จะว่าไป นายพามาแค่สองคนนี้ จะไปทำอะไรได้ล่ะ? ตัวประกอบชัดๆ!”
กู่ฉงเฟิงชะงักเล็กน้อย แล้วหันไปมองฉีเติ่งเสียนด้วยสายตาล้อเลียนนิดๆ
แน่นอนว่ามันคือการแซวฉีเติ่งเสียนโดนดูถูกซะเสียฟอร์มขนาดนี้ ดูไม่มีออร่าขนาดคนอย่างซุนซิงเฉินยังมองข้าม!
แต่ฉีเติ่งเสียนกลับยังคงสีหน้าเรียบเฉย แม้ในใจจะหงุดหงิดไม่น้อย แต่ก็ไม่แสดงออกให้เห็น พูดตามตรง เขาน่ะชินแล้ว! และเขาก็สนุกกับสถานการณ์แบบนี้ไม่น้อย เพราะถ้าคนอื่นไม่คิดว่าเขาอ่อนแอจนเหยียบได้ง่ายๆ เขาจะได้ใช้คาถาอวาดา เคดาวราได้ยังไงล่ะ?!
ทว่าตำแหน่งพระอัครสังฆราชของฉีเติ่งเสียน ที่ฟังดูยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม พอมาอยู่ในเขตจังหวัดซีเทียน ก็ไม่ต่างอะไรกับกระดาษแผ่นหนึ่ง เพราะที่นี่ผู้คนส่วนใหญ่นับถือพุทธ ซึ่งเป็นนิกายภายใน การที่เขาเป็นตัวแทนจากศาสนาตะวันตกในดินแดนแบบนี้ มันจึงแทบไม่มีน้ำหนักเลยแม้แต่น้อย
หวงฮุ่ยฮุ่ยได้ฟังก็อดหัวเราะหยันไม่ได้ “นี่เธอชอบเขาเข้าแล้วใช่มั้ยเนี่ย? อีกทั้งดูท่าจะคลั่งรักนะเนี่ย? หมอนั่นหน้าตาก็ไม่โดดเด่น พลังอำท่านนาจก็ไม่มี แล้วอายุก็ไม่น้อยแล้ว ยังมาเป็นบอดี้การ์ดให้นายน้อยกู่อีก แบบนี้จะคู่ควรกับเธอได้ยังไง?”
ซ่งเจียอวี่ถึงกับพูดไม่ออก คนในภาคใต้รู้จักฉีเติ่งเสียนดีว่าเขาเป็น “พระอัครสังฆราชผู้ทำให้ล้มละลาย” ใครก็ตามที่ไปบีบให้เขาเปิดเผยตัวตนจริงๆ คนคนนั้นหรือทั้งตระกูล เตรียมตัวล้มละลายได้เลย
“แต่ยังไงในฐานะเพื่อน ฉันก็ขอเตือนเธอไว้ก่อน อย่าคบกับเขาให้มากนัก เดี๋ยวจะโดนลูกหลงเปล่าๆ แล้วอย่าลืมว่าที่เธอมาวันนี้ ก็เพื่อทวงเงินจากคุณจั๋ว พวกซ่งของเธออาจจะใหญ่โตในเผิงไหล แต่ที่ซีเทียนนี่ เขาไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรอกนะ” หวงฮุ่ยฮุ่ยยังพูดต่อ
ซ่งเจียอวี่พยักหน้าเบาๆ เธอเองก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกเรื่องทะเลาะของโลกยุทธภพอะไรนั่น เธอแค่อยากได้เงินลงทุนที่ตระกูลซ่งใส่มาในจังหหวัดซีเทียนคืนให้ได้เท่านั้น ก็พอใจแล้ว
ซ่งเจียอวี่กำลังจะพูดต่อกับหวงฮุ่ยฮุ่ย แต่ก็ถูกเสียงของกู่ฉงเฟิงที่เริ่มมีโทสะขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “แกกล่าวหาเขาเป็นคนทรยศได้ยังไง?!”
ซุนซิงเฉินได้ยินก็ชะงักไปเล็กน้อย แล้วตอบว่า “นายน้อยกู่ไม่รู้จริงๆ เหรอ? เขาน่ะทรยศสมาคมพระจันทร์เต็มดวงมานานแล้ว! แอบเข้ามาในสาขาซีเทียนของหลงเหมิน คอยปลุกปั่น ปั่นหัวคน ให้พวกเราคิดกบฏจากหลงเหมินแล้วตั้งตัวเองเป็นอิสระ! แบบนี้ยังไม่เรียกว่าทรยศอีกเหรอ?”
กู่ฉงเฟิงเดือดดาลสุดขีด กำลังจะโต้กลับเต็มที่ แต่ถูกฉีเติ่งเสียนยกมือห้ามไว้
“เขากำลังวางกับดักคุณอยู่ ถ้าพูดผิดแค่นิดเดียว สาขาซีเทียนของหลงเหมินจะประกาศแยกตัวในวันพรุ่งนี้แน่!” ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเย็น
คำพูดของฉีเติ่งเสียนเหมือนน้ำเย็นจัดที่ราดลงมาทั้งหัว ทำให้ความโกรธของกู่ฉงเฟิงเย็นลงไปเกินครึ่งในพริบตา
เขาอาจจะเป็นถึงคุณชายแห่งสมาคมพระจันทร์เต็มดวง เป็นคนมีฝีมือ มีสติปัญญา แต่พอคิดตามคำเตือนของฉีเติ่งเสียนแล้ว ก็ถึงกับตกใจ เกือบหลงกลอีกฝ่ายไปแล้วจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...