เห็นได้ชัดว่า มีคนมาหนุนหลังให้แล้ว ท่าทีของสองคนนั้นจึงแข็งกร้าวขึ้นทันตา
เมื่อครู่นี้หัวหน้าฮั่วยังบอกว่านั่นคือเนื้อหนู แต่ตอนนี้กลับปากว่าเป็นเนื้อเป็ดไปแล้ว
สารวัตรหวังกลับพูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า “จะเป็นเนื้ออะไร มันสำคัญตรงไหน?”
เขาแสดงท่าทีหยิ่งยโสและดูแคลน ใช้สายตาเหยียดหยามมองมาที่ฉีเติ่งเสียนก่อนจะพูดต่อ “ต่อให้มันเป็นขี้ ฉันก็บอกว่ามันคือเนื้อเป็ดได้”
หัวหน้าฮั่วดีใจทันที “พูดได้ดี! พวกเราว่ายังไงก็คือยังงั้น แกเป็นใคร ถึงกล้ามาสงสัยคำพูดพวกเรา?!”
เขาชี้หน้าด่าฉีเติ่งเสียนอย่างสะใจ เหมือนต้องการระบายความแค้นที่โดนสั่งสอนเมื่อครู่
“ใช่ ต่อให้ฉันให้แกกินขี้ แกก็ต้องอุดจมูกแล้วกินมันลงไป!” หญิงเจ้าของร้านเองก็เริ่มได้ใจ กล้าพูดจาเหิมเกริมเช่นกัน
ฉีเติ่งเสียนมองไปที่สารวัตรหวังถามอย่างเยือกเย็น “นี่หรือคือวิธีทำงานของคุณ? ทำงานแบบนี้? ให้ท้ายคนชั่ว?”
สารวัตรหวังส่ายหน้า “ให้ท้ายคนชั่วงั้นเหรอ? แน่นอนว่าฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก!”
“คุณเข้ามากินอาหาร แล้วจงใจหาเรื่อง พยายามแบล็กเมลเจ้าของร้าน แถมยังทำร้ายเจ้าหน้าที่กรมควบคุมอีก”
“ไอ้คนแบบนี้ มันเลวไม่มีใครเกินแล้ว แล้วนายคิดว่าฉันจะให้ท้ายนายได้ยังไง?”
“มานี่! ใส่กุญแจมือมันซะ!”
เจ้าหน้าที่ตำรวจของสารวัตรหวังสองคนเดินเข้ามาทันที หยิบกุญแจมือออกมา เตรียมจะใส่ให้ฉีเติ่งเสียน
สารวัตรหวังสั่งการไปพลาง มือก็จับที่ปืนข้างเอว พร้อมเอ่ยอย่างเหี้ยมเกรียม “คิดว่าตัวเองแน่เหรอ? แน่แล้วไง! ลองกล้าขยับอีกทีสิ จะได้รู้ว่าแน่แค่ไหน!”
เสียงแกร๊กดังชัด ฉีเติ่งเสียนก็ถูกล็อกมือไว้แล้ว
“ยังมีอีกคนนึง!” หญิงเจ้าของร้านชี้ไปทาง จ้าวเทียนลู่แล้วตะโกน
“ใส่กุญแจมันด้วย!” สารวัตรหวังโบกมืออย่างไม่ใยดี พูดเสียงเย็น
หัวหน้าฮั่วหันไปแสยะยิ้มใส่ฉีเติ่งเสียน “อวดเก่งนัก ทำไมไม่อวดเก่งต่อล่ะ? ไอ้เวร! เมื่อกี๊แกกล้าต่อยฉันใช่ไหม? ฉันจำไว้นะ เรื่องระหว่างเรายังไม่จบ! พอถึงโรงพักแล้ว ฉันจะค่อยๆ เคลียร์กับแก ถ้าไม่เอาคืนสิบเท่า ฉันเปลี่ยนมาใช้นามสกุลแกเลย!”
ตำรวจสองคนเตรียมหันไปใส่กุญแจมือจ้าวเทียนลู่แต่ทันทีที่ขยับตัวจะเข้าจับ พวกเขาก็เหมือนถูกสายฟ้าฟาด! ร่างสั่นสะท้าน ราวกับหนาวสั่นทั้งตัว
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาจำจ้าวเทียนลู่ได้!
ฉีเติ่งเสียนยังนั่งสงบ ไม่พูดอะไร มือห้อยด้วยกุญแจวับวาว เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกแล้ว เพราะจากนี้ต่อไป คือเวทีของจ้าวเทียนลู่
สารวัตรหวังทำเสียงสบถ “เป็นบ้าอะไรกัน? ยืนแข็งอยู่ทำไม? เห็นผีรึไง?!”
“ส…สารวัตรหวัง…… คนนี้…… คนนี้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าคนใหม่ของกองบัญชาการตำรวจจังหวัดผอ.กรมจ้าวครับ!”
สารวัตรหวังได้ยินเช่นนั้น ก็ถึงกับนิ่งค้าง
ขนทั้งตัวลุกชันขึ้นมาทันที!
จ้าวเทียนลู่ลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างช้าๆ
หันตัวกลับไปจ้องมองสารวัตรหวังด้วยสายตาเย็นเยียบ
ทันทีที่สายตาของผอ.กรมหวังกับเขาสบกัน สมองของสารวัตรหวังก็ระเบิดเสียงดังบึ้มขึ้นในหัว รู้สึกเหมือนหูอื้อ สมองโล่ง และทั้งร่างเริ่มสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้
“ประ……ผอ.กรมจ้าว” สารวัตรหวังกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะเริ่มพูดทักทายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
เมื่อผอ.กรมจ้าวคำนี้หลุดออกมาจากปากของสารวัตรหวัง หัวหน้าฮั่วกับ หญิงเจ้าของร้านก็ถึงกับอึ้งค้าง โลกทั้งใบเหมือนหมุนคว้างไปหมด แข้งขาอ่อนยวบจนแทบยืนไม่อยู่
ส่วนหญิงเจ้าของร้านนั้น ทรุดตัวนั่งกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง สายตาเลื่อนลอย เธอรู้ดีว่า ครั้งนี้เธอ จบสิ้นแล้วจริงๆ ไม่เพียงแต่ร้านจะโดนปิด ยังต้องโดนลงโทษอย่างหนักอีกด้วย
หลังเตะไปอีกสองสามที จ้าวเทียนลู่ก็หยุดลง พอได้ระบายอารมณ์บ้าง จากนั้นก็หัวเราะเย็นๆ “ยังไม่รีบลุกอีก? จะนอนแกล้งตายต่อรึไง?!”
สารวัตรหวังรีบลุกขึ้นทันที อดทนต่อความเจ็บ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด พร้อมพูดเสียงอ้อนวอน “ผอ.จ้าว! โปรดให้โอกาสผมได้แก้ตัวเถอะครับ! ผมสาบานว่าจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้อีก!”
จ้าวเทียนลู่ถามกลับไป “งั้นไอ้นี่มันคืออะไร?”
สารวัตรหวังรีบตอบทันที “มันคือเนื้อหนูครับ! ร้านนี้ใช้ของปลอมมาหลอกขายเป็นเนื้อเป็ด ผิดกฎหมายควบคุมตลาดและการค้า พวกเราควรจะลงโทษอย่างเด็ดขาด!”
หัวหน้าฮั่วก็รีบเสริมทันที “ใช่ๆ! มันคือเนื้อหนูแน่นอน! ผมเพิ่งชิมเองกับตัว ไม่ผิดแน่! พฤติกรรมของร้านค้านี้ผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม สมควรลงโทษอย่างหนัก!”
ฉีเติ่งเสียนกลับเอ่ยว่า “โอ้โห เปลี่ยนสีหน้าไวใช้ได้เลยนะ แต่ถึงจะเปลี่ยนไวแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อกี้ฉันบอกให้กินให้หมด หมายความว่า ต้องกินให้หมด!”
พูดจบ เขาก็ผลักจานเนื้อหนูไปตรงหน้าหัวหน้าฮั่ว
เจ้าของร้านใช้ของปลอมแทนของจริง สมควรลงโทษที่หญิงเจ้าของร้าน แต่ฉีเติ่งเสียนรู้ดีว่า ร้านนี้กล้าทำแบบนี้ได้ ใช้ของปลอมแทนของจริง ไม่กลัวคนทานเข้าไปจะเป็นไง ก็เพราะมีคนหนุนหลัง มีแบ็คอยู่ ดังนั้น คนที่ต้องแบกความผิด ฉีเติ่งเสียนคิดว่าคนคนนั้น ก็คือหัวหน้าฮั่วนี่เอง!
จ้าวเทียนลู่ยกมือขึ้นนิดหนึ่ง “เมื่อกี้ฉันก็เผลอกินไปตั้งเยอะ นายเองก็ลองชิมดูบ้างแล้วกันนะ หัวหน้าฮั่ว!”
แค่พูดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกแสบท้อง กินแค่มื้อเดียว ถึงขั้นอยากอาเจียนจนตอนนี้ยังปวดท้องอยู่เลย
หน้าของหัวหน้าฮั่วซีดเผือดลงทันตา ร้องเสียงสั่น “ผอ.กรมจ้าวเป็นไปได้ไหม……”
“ไม่ได้!” จ้าวเทียนลู่ตอบด้วยสีหน้าเย็นชา
ถึงทั้งสองจะไม่ได้อยู่ในระบบเดียวกัน แต่จ้าวเทียนลู่ก็ใหญ่กว่าหลายขั้น และเหตุการณ์นี้หัวหน้าฮั่วผิดเต็มๆ อยากเล่นงานเขา มีตั้งหมื่นวิธีให้เลือก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...