มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 344

สวี่อานโจมตีหงหม่าวัสดุภัณฑ์อย่างรุนแรง เขาได้เตือนผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในตงไห่ไม่ให้จัดหาวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับเซี่ยงกรุ๊ป เพื่อตําแหน่งที่มั่นคงของตัวเองและเพื่อปราบปรามสถานการณ์ของเซี่ยงกรุ๊ป

แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่ฉีเติ่งเสียนจะเห็นด้วยกับเงื่อนไขที่โง่เขลาของเขา มองดูเผินๆมันดูน่าดึงดูดมาก แต่ถ้าเมื่อใดที่สวี่อานเล่นตุกติกขึ้นมา เขาก็จะตกอยู่ในที่นั่งลำบากทันที

วิธีที่ง่ายที่สุดในการต่อสู้กับสวี่อานก็คือการรักษาหงหม่าวัสดุภัณฑ์ของหม่าหงจุนไว้ และรับสินค้าจากวัสดุก่อสร้างหงหม่าวัสดุภัณฑ์ต่อไป

หลังจากฟังคําพูดของสวี่อานว่าหงหม่าวัสดุภัณฑ์ต้องล้มละลาย หม่าหงจุนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดอย่างลึกซึ้งว่า: “นายหางเสือสวี่อยากจะให้บริษัทวัสดุก่อสร้างฉันล้มละลายเหรอ เกรงว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้นนะสิ”

บรรยากาศระหว่างสวี่อานและหม่าหงจุนกำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียด ทําให้สมาชิกหลงเหมินคนอื่นๆ ต่างรู้สึกอึดอัดไปด้วย พวกเขามองหน้าอีกฝ่ายด้วยความโกรธ และพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ

“คุณฉีดูเหมือนคุณจะยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง และไม่ยอมรับความเมตตาจากผม” สวี่อานยิ้มให้กับฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนไม่สนใจเขา เขายืนขึ้นพร้อมกับหยิบแก้วของเขาขึ้นมา แล้วหันหลังกลับมาก่อนจะราดไวน์ลงบนพื้น

“แปะ แปะ แปะ——”

เสียงไวน์หยดลงบนพื้น โดนการลากให้เป็นเส้นตรง

จากนั้นฉีเติ่งเสียนก็พูดอย่างไม่เป็นทางการว่า: “วันนี้ ถ้าพวกนายคนใดคนหนึ่งสามารถข้ามผ่านเส้นนี้มาได้ หงหม่าวัสดุภัณฑ์ก็จะเลิกกิจการ และบริษัทของเราก็มองหาวิธีอื่น!”

เมื่อคำพูดนั้นพูดออกมา จึงทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจ!

คำพูดนี้มันช่างอวดดีอะไรเช่นนี้ แค่วาดเส้นเส้นเดียว ก็กล้าพูดแบบนั้นออกมาเหรอ? อย่างนี้มันดูถูกลูกน้องที่เก่งกาจของสวี่อานเกินไปแล้วไหม?

หม่าหงจุนรู้สึกประหลาดใจและไม่สามารถเปิดปากของเขาได้ เขาเคยได้ยินจากปากเยี่ยเฟิงว่าฉีเติ่งเสียนนั้นเป็นคนที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าปากดีได้ขนาดนี้!

หลังจากที่สองสาวพี่น้องจางจิ้งและจางโหรวได้ยินแบบนั้น ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน พวกเธออยากจะเอ่ยปากให้เยี่ยเฟิงเกลี้ยกล่อมฉีเติ่งเสียนสักหน่อย

แต่เยี่ยเฟิงโบกมือเบาๆ และพูดว่า: “คอยดูไป ในเมื่อรองหัวหน้าใหญ่เน้นย้ำแบบนั้น ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้!”

เขาพูดด้วยความมั่นใจ ซึ่งทําให้ทั้งสองสาวพี่น้องตกตะลึง

“ถึงอย่างไรเขาก็ยังเด็กเกินไปที่จะกล้าพูดแบบนั้น คงทำท่าอวดดีไปอย่างนั้นแหละ!”

“ใช่สิ อีกฝ่ายเป็นถึงนายหางเสือสวี่ ลูกน้องที่เก่งกาจของเขามีตั้งมากมายนับไม่ถ้วน”

“คู่หูอย่างรองนายหางเสือหม่านั้นก็เชื่อถือไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วหงหม่าวัสดุภัณฑ์ก็จะโดนนายหางเสือสวี่จัดการให้ตายแน่”

ลูกน้องของหม่าหงจุนต่างก็มีสีหน้าที่ประหม่า พวกเขาคิดว่าฉีเติ่งเสียนนั้นอวดดีเกินไป

ในความคิดของพวกเขา ฉีเติ่งเสียนนั้นมีข้อได้เปรียบในเรื่องของเงินทุน แต่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งส่วนบุคคล

หม่าหงจุนก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ เขารีบลุกขึ้นยืน แล้วพูดกระซิบว่า : “คุณฉี เรามาพูดคุยเรื่องนี้ในระยะยาวจะดีกว่า! ผลประโยชน์ของสองฝ่ายผูกติดอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจเกินเรื่องไม่คาดฝันได้”

“ผมมีแผนที่วางไว้แล้ว สามารถกำหนดทิศทางและต่อสู้กับสวี่อานอย่างช้าๆ”

“ทำตามแผนของผม พวกเราจะไม่มีวันแพ้แน่นอน!”

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเฉยเมยว่า: “ผมไม่สนใจจะทำอะไรช้าๆ ถ้าคิดจะทำอะไรก็ต้องทำให้เร็วและตัดสินใจขั้นสุดท้าย”

“ถ้าคุณเชื่อผม ก็ทำตามกฎของผม”

“แต่ถ้าคุณไม่เชื่อผม งั้นพวกเราก็คงต้องยุติความร่วมมือกัน!”

คําพูดของฉีเติ่งเสียนนั้นเป็นการใช้อำนาจบาตรใหญ่มาก และเขาไม่ได้ให้ที่ว่างแก่หม่าหงจุนได้คิดพิจารณาเลย

“หงหม่าวัสดุภัณฑ์ของเราก็จะประกาศการเลิกกิจการทันที!”

“ฉัน หม่าหงจุน พูดคำไหนคำนั้น!”

คําพูดของหม่าหงจุนทําให้คนของเขาต่างพากันตกใจ และมองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจอย่างมาก

หงหม่าวัสดุภัณฑ์ปัจจุบันเป็นอุตสาหกรรมที่มีค่าที่สุดของหม่าหงจุน เขาสาบานอย่างนี้คือพูดจริงใช่ไหม?

“จบแล้ว รองนายหางเสือถูกปีศาจเข้าสิงแน่เลย ถึงได้เชื่อคำพูดไร้สาระของคนนามสกุลฉีนั้น!”

“ฉันคิดว่าหงหม่าวัสดุภัณฑ์ของเราไม่สามารถรักษาไว้ได้แล้วล่ะ ลูกน้องของสวี่อานนั้นเก่งขั้นเทพขนาดนั้น ไม่รู้ว่าคุณฉีอะไรนั้นมันเป็นบ้าอะไร!”

“น่าจะมีบางอย่างผิดปกติกับสมองของคุณฉี และรองนายหางเสือก็ไม่สามารถทําอะไรกับมันได้.…..ตอนนี้หงหม่าวัสดุภัณฑ์อาศัยกินทุนจากเทียนไล่แคปปิตอล หากไม่มีเทียนไล่แคปปิตอล อุปทานต่างๆก็จะลดลงทันที ในเวลานั้นวัสดุก่อสร้างที่อยู่ในมือเหล่านั้นก็ไม่สามารถขายได้ และพวกเราจะต้องวิ่งวนเหมือนติดกับดักจนตาย”

คนของหม่าหงจุนทุกคนต่างมองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยความไม่พอใจ รู้สึกว่าเขาเอาตัวหม่าหงจุนไปเป็นตัวประกัน ดังนั้นหม่าหงจุนจึงต้องตัดสินใจทำเช่นนี้

จางโหรวยังหันหน้าไปหน้าจางจิ้งและพูดว่า: “พี่สาว คุณฉีนี่อวดดีเกินไปแล้วไหม? ฉันรู้ว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน แต่ว่า…..ลูกน้องของสวี่อานนั้นมีตั้งมากมาย!”

จางจิ้งเป็นผู้หญิงที่เคยได้เห็นโลกมาก่อน ใบหน้าของเธอมืดมนพร้อมพูดว่า: “รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อเขาพูดมาแบบนั้น เขาก็ต้องมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว…...ใช่ไหมล่ะ?”

พูดถึงประโยคนี้ จางจิ้งเองก็รู้สึกท้อแท้ใจเหมือนกัน

เธอเป็นผู้หญิงของเยี่ยเฟิง เยี่ยเฟิงเป็นแขกของหม่าหงจุน ถ้าหม่าหงจุนจบเห่ เยี่ยเฟิงก็คงไม่ได้มีผลลัพธ์ที่ดีแน่!

สองสาวพี่น้อง เกรงว่าถึงตอนนั้นก็คงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด…...

คําพูดของฉีเติ่งเสียนมีอิทธิพลต่อชะตากรรมของคนจํานวนมากโดยไม่รู้ตัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง