“โอ๊ย!!!”
จ้าวเจิ้งหวากรีดร้อง พร้อมกับเอามือขึ้นมาปิดหูของเขาและก้าวถอยหลังไปหลังก้าว
ลูกน้องของเขายังตกใจกับเสียงจนเยื่อแก้วหูสั่น ไม่ต้องพูดถึงจ้าวเจิ้งหวาเลยว่าหูของเขาจะเป็นอย่างไง
อาจกล่าวได้ว่าเป็นคลื่นของการออกเสียงที่มีแรงทำลายล้างสูงสุด
พลังปอดของฉีเติ่งเสียนเยอะมากจนเรียกได้ว่าเป็นความน่ากลัว หายใจเข้าออกครั้งหนึ่งต้องใช้อากาศจำนวนมาก
มิฉะนั้นพลังงานทางกายภาพที่น่าสยดสยองดังกล่าวจะไม่มีวันเปล่งออกมาได้
เสียงคํารามของเขาแม้ว่าจะเป็น "อา" ธรรมดาๆแต่ก็ไม่มีใครสามารถทนได้
ใบหน้าของจ้าวเจิ้งหวาซีดลงทันที และเขารู้สึกเหมือนว่าหัวใจของเขากําลังจะแตกสลาย เขาปวดเยื่อแก้วหูมาก หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็รู้สึกว่าฝ่ามือของเขาร้อนและสัมผัสได้ถึงของเหลวที่ไหลมายังฝ่ามือของเขา
เขาเอามือออกมาดู ก็เห็นว่ามันเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด!
“เปราะ” เสียงเยื่อแก้วหูเพิ่งแตกออก ทําให้หูของเขาเสียหายอย่างรุนแรง
ฉีเติ่งเสียนมองเขาด้วยรอยยิ้มและถามว่า: “ตอนนี้นายได้ยินชัดเจนแล้วใช่ไหม?”
ใบหน้าของจ้าวเจิ้งหวาบิดเบี้ยวไปครึ่งหนึ่ง หูของเขาสูญเสียการได้ยินอย่างสมบูรณ์ เขาจึงได้ยินเพียงข้างเดียวและต้องกลายเป็นคนหูหนวกข้างหนึ่งทันที
“แกกล้ามากนะ!!!”จ้าวเจิ้งหวาคำรามด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
เขาคิดไม่ถึงว่าฉีเติ่งเสียนจะกล้าต่อต้านคนของรัฐบาลอย่างนี้ และไม่สนว่าเขาเป็นรองผู้อํานวยการสํานักความมั่นคงท้องถิ่นของจงไห่เลยสักนิด!
เจ้าหน้าที่พิเศษที่อยู่รอบตัวเขาก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง พวกเขาเอามือจับปืนพกที่อยู่รอบเอวของพวกเขา
ฉีเติ่งเสียนก้าวเดินไปข้างแล้วดึงคอเสื้อของจ้าวเจิ้งหวา พร้อมกับยกมือขึ้นตบหน้าเขา!
“ผัวะ!”
จ้าวเจิ้งหวาถูกเขาตบและล้มลงไปกับพื้นโดยตรง
จากนั้นฉีเติ่งเสียนก็เยาะเย้ยและพูดว่า: “ก่อนหน้านี้พวกนายมัวทําอะไรกันอยู่? ตอนนี้ถึงจะมาเบ่งอำนาจอะไรต่อหน้าฉัน?”
“เห็นบ้านของฉันไหม? มันถูกระเบิดจนพังเละแบบนี้!”
“แล้วนายยังมีหน้ามาใช้อำนาจของสำนักความมั่นคงท้องถิ่นที่นี่อีกเหรอ?”
“ตอนที่ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่ แถมยังต้องมาเจอคนโง่อย่างนาย ฉันว่าคืนนี้ฉันคงจะนอนไม่หลับแน่!”
เฉินหยูอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เธอแค่รู้สึกว่าฉีเติ่งเสียนนั่นอวดดีเกินไป แม้แต่ตระกูลเฉินก็ไม่อาจจะไม่ไว้หน้าคนของทางการได้
แม้ว่าเธอจะไม่พอใจกับจ้าวเจิ้งหวา แต่ก็เป็นความไม่พอใจทางวาจามากกว่า ไม่เคยคิดจะลงมือทำอะไร
แต่ฉีเติ่งเสียนนั้นกับอวดดีมากกว่า ไม่ว่าเรื่องนั้นจะทำให้ไม่พอใจแค่ไหนก็ต้องลงไม้ลงมือ จนทำให้คนนั้นเยื่อแก้วหูขาดและยังไปต่อยหน้าเขาอีก?
“ปัง!”
เจ้าหน้าที่พิเศษคนหนึ่งได้สติขึ้นมา เขาจึงยกปืนและยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อเป็นการเตือน!
เหล่าเจ้าหน้าที่พิเศษคนอื่นๆก็เล็งปืนไปที่ฉีเติ่งเสียนทีละคน
ในชั่วพริบตา ฉีเติ่งเสียนก็ถูกปืนมากกว่าสิบกระบอกจ่อเล็งมาที่หัว
แต่ใบหน้าของเขาเฉยเมยมากและดูเหมือนเขาจะไม่กลัวอะไรเลย
จ้าวเจิ้งหวาลุกขึ้นจากพื้น กัดฟันและพูดว่า: “แกเก่งมากนักใช่ไหม? ไหนลองแสดงให้ฉันดูทีสิ!”
ฉีเติ่งเสียนเผยรอยยิ้มและพูดว่า: “ฉันถูกปืนหลายสิบกระบอกจ่อมาที่หัวฉันแบบนี้ แน่นอนว่าฉันไม่อาจจะอวดเก่งได้!”
จ้าวเจิ้งหวายิ้มและพูดว่า: “นายรู้จักความกลัวด้วยเหรอ? เมื่อกี้ที่นายตบฉัน ฉันจะทำคืนนายสิบเท่า!”
แต่ในเวลานี้กลับไม่มีใครกล้ายิง แต่เลือกที่ค่อยๆวางปืนลงอย่างเงียบๆ
เนื่องจากฉีเติ่งเสียนเป็นถึงสมาชิกของสำนักกรมยุทธทางการเมือง ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่สามารถยั่วยุได้...…พวกเขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับรถถังอีกแล้ว ซึ่งมันน่าละอายมาก!
“คิดไม่ถึงว่าคุณฉีจะมีตัวตนที่น่ากลัวขนาดนี้ คนเหล่านั้นไม่กล้าแม้แต่จะขยับไปไหนเลย” หลี่อวิ๋นหว่านเห็นเครื่องแบบทหารของฉีเติ่งเสียนที่ทำให้ทุกคนตกใจ ก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขไปด้วย
จ้าวเจิ้งหวาเอามือกุมท้องและยืนขึ้นด้วยความไม่พอใจ แต่เขาก็ทําอะไรไม่ได้
ถ้าอีกฝ่ายเป็นแค่ระดับนายพัน เขาก็ยังสามารถพอจะต่อสู้ได้ แต่อีกฝ่ายนั้นเป็นถึงนายพลจัตวา…...
“ตอนนี้ถ้าฉันเป็นคนที่คุ้มครองความปลอดภัยของเฉินหยู พวกนายจะยังรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกไหม?”ฉีเติ่งเสียนถามอย่างเรียบเฉย
ทุกคนต่างไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของพวกเขาแทบจะร้องขอชีวิต การหายใจของพวกเขาก็ถี่และเร็วขึ้น
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะและพูดว่า : “ถ้าพวกนายไม่มีอะไรก็รีบออกไปซะ บ้านฉันเพิ่งถูกระเบิด ตอนนี้ฉันกำลังหงุดหงิดมาก อย่ามาปากดีกับฉัน!”
จ้าวเจิ้งหวากัดฟันแน่น ก่อนจะโบกมือและพูดด้วยเสียงต่ำ: “พวกเรากลับ!”
“เนื่องจากคุณหนูเฉินได้รับการคุ้มครองโดยนายพลจัตวาของสำนักกรมยุทธทางการเมืองแล้ว ก็ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของพวกเราแล้ว”
หลังจากพูดจบ เขาก็เป็นคนแรกที่หันหลังกลับและเดินไปขึ้นรถ
เขารู้สึกเสียใจมาก ถ้าเขารู้ตั้งแต่แรกเขาคงไม่พูดอะไรแบบนั้นออกไป
เขาไม่ทันจะเอาหน้าได้สำเร็จก็ยังต้องเสียหูไปข้างหนึ่ง และถูกต่อยหน้าอย่างรุนแรงอีก
ขบวนรถที่เพิ่งได้ไม่นานก็แยกย้ายกันออกไปอย่างเร่งรีบ
หลังจากเห็นคนพวกนั้นกลับไปหมดแล้ว เฉินหยูก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ ตอนนี้เธออยู่ในต่างประเทศคนเดียว เธอไม่สามารถหาใครที่เธอไว้ใจได้จริงๆ นอกจากฉีเติ่งเสียน
แม้แต่สํานักความมั่นคงท้องถิ่น ตอนนี้เธอก็ไม่สามารถไว้วางใจได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...