มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 497

ในการแข่งขันครั้งนี้ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย เนื่องจากชื่อเสียงของจ้าวหงหนีนั้นไม่ธรรมดาเลย เธอไม่เพียงแต่เป็นนักหมากรุกที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสาวงามอีกด้วย

นักหมากรุกที่เป็นสาวงามนี้ แน่นอนว่าเธอมีความโดดเด่นและเสน่ห์ดึงดูดมากกว่านักหมากรุกมืออาชีพคนอื่นๆอยู่แล้ว

แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เธอจะหายหน้าหายตาไปจากวงการหมากรุก แต่เธอก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เพราะความงามและบุคลิกของเธอนั้นมีเสน่ห์มาก

ในตอนเริ่มการแข่งขัน อวี้เสี่ยวหลงนั่งตัวตรงและมีท่าทีจริงจัง เหมือนกับว่าตรงหน้าของเธอไม่ใช่คอมพิวเตอร์แต่เป็นกระดานหมากรุกจริงๆ เธอแสดงความจริงจังและความตั้งใจจริงเมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่ง

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ท่าทางของจ้าวหงหนีนั้นดูสบายมากกว่า เธออยู่ในชุดนอนและนั่งพับเพียบอยู่บนเตียง มือข้างหนึ่งถือเมาส์ไร้สายเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ท่าทีของเธอก็แสดงออกถึงความจริงจังเช่นกัน

อวี้เสี่ยวหลงชนะในการทายหน้าเกม จึงได้เล่นหมากรุกฝั่งสีดำ

“นี่ก็คือจ้าวหงหนี นักหมากรุกสาวสวย นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเธอเล่นหมากรุกออนไลน์ ไม่คิดเลยว่าวันนี้เธอจะปรากฏตัวออกมา!”

"ไม่ค่อยเห็นจ้าวหงนี่เล่นหมากรุกเลย คู่แข่งครั้งนี้เป็นใครกันเหรอ ทำไมเธอถึงต้องเข้าสู่ระบบเพื่อเล่นกับคนอื่น?"

"ไม่เคยเห็น ID นี้เลย ดูเหมือนผลงานไม่ค่อยดี... และยังเป็นระดับนักสมัครเล่นอีกด้วย"

ในห้องแชท ผู้ชมทั้งหลายเริ่มพูดคุยกัน พิมพ์ข้อความในแชทสาธารณะ

การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ฉีเติ่งเสียนก็หยิบถุงเมล็ดแตงโมมาแทะ

อวี้เสี่ยวหลงวางหมากรุกลงที่มุมบยซ้าย จ้าวหงหนีก็วางหมากรุกตามมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากเดินประมาณสิบกว่าตัวแล้ว จ้าวหงหนีก็หยุดนิ่งไปประมาณสิบวินาที ไม่แน่ว่าเธออาจจะรู้สึกว่าคู่แข่งมีฝีมือที่เหนือกว่าที่เธอคิดไว้มากทีเดียว

เธอเริ่มต้นด้วยการหวังว่าจะจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง และเริ่มมีความระมัดระวังขึ้น เธอจึงวางแผนการต่อสู้ด้วยความจริงจังและรอบคอบมากขึ้น

อวี้เสี่ยวหลงเดินตามกระดานหมากรุกด้วยความระมัดระวัง ราวกับกำลังตรวจพลของกองทัพ เขาจ้องมองกระดานหมากรุกบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ ในหัวของเขาหมุนวนไปด้วยการจัดแนวและแผนการเดินหมากนานับประการ เขาเริ่มเล่นหมากรุกโต้ตอบกับเจ้าหงหนี

การเดินหมากรุกก้าวเข้าสู่มือที่ 80 กว่า สถานการณ์การต่อสู้เริ่มรุนแรงขึ้น

สไตล์การเล่นของทั้งสองฝ่ายล้วนดุดัน จึงทำให้การเล่นของพวกเขาต่อกรกันอย่างเข้มข้น ไม่ยอมให้กันแม้แต่นิดเดียว ต่างฝ่ายต่างมีการเดินหมากไปมา

"ความสามารถในการเล่นหมากรุกของหงหนีไม่ได้ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เธอไม่ค่อยปรากฏตัวในวงการหมากรุก แม้แต่การเล่นหมากรุกออนไลน์รั้งล่าสุดก็เมื่อครึ่งปีที่แล้ว ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะมีความสามารถลึกซึ้งขึ้นขนาดนี้!"

"โอ้โห... การเดินหมากครั้งนี้ มันเหมือนกับการแขวนเขาแกะบนหน้าผา ฉันยังคิดว่าเธอเดินหมากผิด แต่ไม่คาดคิดว่าเธอสามารถทำให้หมากนั้นฟื้นคืนชีพได้!"

"คู่แข่งก็เก่งมากเช่นกัน เขาคือนักหมากรุกมืออาชีพคนไหนกันที่สามารถต่อกรกับจ้าวหงหนีที่เล่นหมากรุกดุดันได้เช่นนี้โดยไม่เสียเปรียบเลยสักนิด!"

บนหน้าจอต่างเต็มไปด้วยข้อความแสดงความตื่นเต้นของผู้ชมบนอินเตอร์เน็ต

ตามมาด้วยการเดินหมากแขวนเขาแกะของจ้าวหงหนีซึ่งทำลายล้อมของอวี้เสี่ยวหลง ส่งผลให้หมากดำต้องเงียบหายไป

ผู้ชมบนเน็ตต่างพิมพ์ข้อความว่าเสียดาย ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น หมากดำก็ยังมีโอกาสพลิกเกม

ไม่นานหลังจากนั้น หมากดำก็ยอมแพ้

ฉีเติ่งเสียนเห็นชัดว่าอวี้เสี่ยวหลงไม่ได้แพ้ที่ความสามารถ แต่แพ้ด้วยประสบการณ์ที่น้อยกว่า นี่ไม่ต่างกับการเอางานอดิเรกไปท้าทายมืออาชีพเลยสักนิด ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเอาเสียเลย!

ทันทีที่อวี้เสี่ยวหลงเสนอการแข่งขันในรอบที่สอง จ้าวหงหนีก็ตอบรับทันทีโดยไม่มีความลังเลใดๆ เธอรู้สึกว่าการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีสไตล์การเล่นคล้ายกันนั้นน่าสนใจมาก

ในเกมนี้ อวี้เสี่ยวหลงอยู่ฝั่งหมากสีขาว

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้อันดุเดือดที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้นในครั้งนี้ หมากขาวเริ่มเดินด้วยการค่อยๆล้อมเมือง สไตล์การเล่นเป็นแบบนุ่มนวลราวกับใช้กำลังน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่มาก

"เปลี่ยนคนแล้วเหรอ?!" จ้าวหงหนีเย้ยหยันในช่องแชทด้วยการพิมพ์ออกมาสี่คำ

"ผมฝึกไทเก๊กนะ" อวี้เสี่ยวหลงตอบกลับด้วยห้าคำ

จ้าวหงหนีเชิญคู่แข่งเล่นเกมถัดไปทันที แต่อวี้เสี่ยวหลงกลับปฏิเสธทันควัน “ครั้งหน้าแล้วกัน วันนี้ดึกมากแล้ว”

“มาแข่งกันในโลกความจริงมั้ย!” จ้าวหงหนีถาม

“ค่อยว่ากันแล้วกัน” อวี้เสี่ยวหลงตอบ

เธอใช้บัญชีของฉีเติ่งเสียน ถ้าเป็นการแข่งขันในโลกแห่งความเป็นจริงล่ะก็ ฉีเติ่งเสียนอาจถูกเปิดโปงได้ มันยากมากที่จะหลอกจ้าวหงหนีต่อไป

เมื่อเห็นว่าสัญลักษณ์ออนไลน์ของคู่แข่งกลายเป็นสีเทาที่หมายถึงเขาได้ออฟไลน์ไปแล้ว ใบหน้าของจ้าวหงหนีก็หม่นหมองลงด้วยความไม่สบอารมณ์ แต่เธอก็ไม่มีอะไรจะพูด ถึงตัวเธอจะแพ้เพียงครึ่งหมาก แต่แพ้ก็คือแพ้!

หลังจากที่อวี้เสี่ยวหลงปิดคอมพิวเตอร์ลง เขาก็ถอนหายใจออกมายาวๆหนึ่งครั้ง การเล่นสามเกมนี้ ทำให้เขาเหนื่อยยิ่งกว่าการต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญทั้งวันเสียอีก เพราะมันใช้สมองมากเกินไป

“เก่งกาจ ไม่คิดเลยว่าจ้าวหงหนีจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ!” ฉีเติ่งเสียนส่งข้อความพร้อมกับอิโมจิยกนิ้วโป้งให้อวี้เสี่ยวหลง

“ชมเกินไปแล้ว” อวี้เสี่ยวหลงตอบกลับอย่างเรียบง่ายแล้วก็ไม่สนใจข้อความอื่นๆอีก เขาพิงแผ่นหลังกับเก้าอี้และทบทวนหมากรุกทั้งสามเกมก่อนหน้านี้อย่างเงียบๆ

การเล่นหมากรุกกับคนที่เก่งกาจอย่างจ้าวหงหนีทำให้เธอรู้สึกว่ามันน่าสนใจมากและคุ้มค่าที่จะทบทวนถึง

ก่อนที่จ้าวหงหนีจะออฟไลน์ เธอกดเปิดข้อมูลหน้าหลักของฉีเติ่งเสียนขึ้นมาดู แล้วความรู้สึกของธอก็ระเบิดออกมัทนที ฉีเหมือนชื่อฉัน ก็แค่เติ่งเสียน?!

มุมปากของเธอกระตุกอย่างแรงสองครั้ง ใบหน้าที่เคยสงบนิ่งของเธอบิดเบี้ยวกลายเป็นรอยยิ้มอันดุร้ายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และเธอก็พูดออกมาช้าๆ ว่า "นายแซ่ฉี นายทำได้ดีจริงๆที่ล้อเลียนฉันแบบนี้!"

หน้าหลักที่กล่าวว่ามีความสามารถในการเล่นหมากรุกที่ธรรมดา แล้วเธอที่เป็นนักหมากรุกมืออาชีพระดับสาม ถึงขั้นแพ้คนที่มีความสามารถในการเล่นหมากรุกแบบธรรมดาๆ นั่นยังเรียกว่านักหมากรุกมืออาชีพอยู่หรือ?

หน้าของเธอถูกตบจันดังป้าบป้าบไปแล้วใช่มั้ย?

ความแค้นนี้จ้างหงหนีจดเอาไว้แล้ว เธอจะต้องแก้แค้นให้ได้อย่างแน่นอน!

เช้าวันรุ่งขึ้น จ้าวหงหนีถือเป้เดินไปที่สวนสาธารณะ และเห็นฉีเติ่งเสียนกำลังสอนหยางกวนกวนและหวงชงฝึกฝนการต่อสู้อยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง