Mars เจ้าสงครามครองโลก นิยาย บท 809

ลมหายใจของฉินมิ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเกินแดนเหนือโลกีย์ไปแล้วถึงหยุดลง

เย่เซิ่งเทียนมองดูด้วยตาบุกเป็นไฟ ฉินมิ่งสามารถทะลุผ่านแดนเหนือโลกีย์ นั่นหมายความว่าเขามีวิชาขั้นกว่าของแดนเหนือโลกีย์

แดนลอยเมฆ！

นี่คือแดนที่อยู่เหนือแดนเหนือโลกีย์！

ถึงแม้ว่าถาหลิงจะเคยบอกไว้ว่า คนสมัยก่อนฝึกวิชา เลือกที่จะฝึกวิชาที่สำคัญ หลังจากที่เลือกวิชาแล้ว วิชาส่วนหนึ่งจะถูกฝึกฝนจนถึงแดนเทพ ก่อนจะเริ่มฝึกวิชาอื่นๆต่อไป

ภายใต้แดนเทพจะมีวิชาหนึ่ง เป็นอะไรที่ไม่ค่อยบริสุทธิ์เท่าไร

แต่เย่เซิ่งเทียนกลับไม่สนใจอะไรขนาดนั้น เขาไม่มีเวลามากขนาดที่จะค่อยๆลับคม

ตระกูลลี้ลับกับสรวงสวรรค์ไม่มีทางให้เวลาเขามากขนาดนั้น อีกทั้งเขายังไม่มีทางรอให้คนพวกนั้นลงมือก่อนอย่างแน่นอน

เขาจะต้องชิงลงมือก่อน

นอกจากนั้น ถึงตอนนี้เขาจะไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้ แต่เขาสามารถมอบวิชาให้คนอื่นได้ ขอแค่ฝั่งคนมีผู้กล้าเพิ่มอีกหนึ่งคน ก็มีโอกาสชนะแล้ว

เหล่ามดที่อยู่ภายใต้แดนเทพ คนที่ไม่เป็นอมตะจะเป็นเถ้าถ่าน

คนของสรวงสวรรค์พวกนั้น บ้าไปแล้ว

เย่เซิ่งเทียนมองไปที่ฉินมิ่ง แล้วกล่าวว่า“ฉินมิ่ง ฉันไม่ฆ่าแกก็ได้ ขอแค่แกมอบวิชาแดนเหนือโลกีย์สิบเท่าให้กับฉัน ฉันก็จะยอมร่วมมือกับแก”

ฉินมิ่งที่ได้เปิดเผยความสามารถที่แท้จริงออกมา แทบอยากจะบีบคอเย่เซิ่งเทียนให้ตาย เขาเค้นเสียงกล่าวว่า“แค่มดตัวหนึ่ง กล้าจองหองต่อหน้าฉันอีก แค่แดนเหนือโลกีย์ ยังหยิ่งผยองขนาดนี้ถึงตอนนั้นจะอยู่ต่อหน้าเย่หลง ฉันฉินมิ่งก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ！เย่เซิ่งเทียน แกไปเอาความกล้าที่ไหนมาจองหองห้ะ”

ระหว่างที่พูด ฉินมิ่งก็เหวี่ยงหมัดออกไปทันที

สิ่งที่น่าแปลกก็คือ รอยหมัดขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยไฟ ดูไปแล้วเหมือนมีลูกไฟมหึมาตรงดิ่งมาจากท้องฟ้า แล้วพุ่งตรงมายังเย่เซิ่งเทียน

ลมหมัดอันรุนแรงปกคลุม ยังไม่ได้ทำอะไร พื้นที่อยู่ตรงฝ่าเท้าของเย่เซิ่งเทียนก็แยกออกราวกับใยแมงมุม

รู้สึกถึงแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว เย่เซิ่งเทียนไม่ได้ถอยกลับ แต่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อต้อนรับหมัด

วันนี้ เขาจะสัมผัสแดนเมฆลอยให้ได้

เขาจะลองดูสักตั้งว่า แดนเหนือโลกีย์แข็งแกร่งขนาดไหน

ตอนนั้นที่วัดโบราณในเมืองพุทธ ร่างกายของเขาผ่านการหลอมถึงห้าสิบครั้ง เขาอยากลองเผชิญหน้ากับแดนเมฆลอยสักครั้ง พลังกล้ามเนื้อของเขามีความแข็งแกร่งมากเพียงใด

ตาเฒ่าหลินตอนนั้นบอกว่าร้อยวิชาหล่อหลอม ถึงจะมีแดนเหนือโลกีย์ ก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าร่างกายของเขา ดังนั้นวันนี้เขาจะทดลองดู

ถ้าเป็นดังที่ตาเฒ่าหลินกล่าว อย่างงั้นเขาก็จะมีความสามารถในการต่อสู้กับแดนเมฆลอย

ก็จะมีการรับประกัน ที่จะฆ่าคนแบบข้ามพรมแดน

ครั้งนี้ เย่เซิ่งเทียนไม่หยุดยั้ง ดังนั้นพลังทุกอย่างจึงรวบรวมอยู่ที่หมัดนี้

ในขณะเดียวกัน รูม่านตาของเย่เซิ่งเทียนก็หดลง หมัดของฉินมิ่ง ทำให้ความเร็วของเขาค่อยๆนิ่งราวกับได้รับผลกระทบ

ปราบพรมแดน！

เป็นไปตามคาที่ การฆ่าคนแบบข้ามพรมแดน ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

เมื่อลองดูหนึ่งครั้ง เย่เซิ่งเทียนก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของฉินมิ่ง เขาจึงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ในขณะเดียวกัน ก็พุ่งไปฆ่ายังฉินมิ่ง

วินาทีนี้ ฉินมิ่งซวยแล้ว

เขาจู่โจมอย่างสุดกำลัง แต่กลับไม่สามารถฆ่าเย่เซิ่งเทียนได้？

เขาได้ใช้พลังทั้งหมดของแดนเมฆลอยแล้วนะ！

นี่มันเป็นไปได้ยังไง？

อีกอย่าง ร่างกายของเย่เซิ่งเทียนทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้？

มันมากเกินไปแล้ว！

ความคิดต่างๆนานาพรั่งพรูเข้ามาในสมองของเขา แต่ฉินมิ่งกลับไม่มีเวลาครุ่นคิด

ตอนนี้สิ่งที่เขารู้สึกอับอายก็คือ เย่เซิ่งเทียนเป็นแค่มดตัวหนึ่งในแดนเหนือโลกีย์ กล้าต่อต้านเขาอย่างงั้นหรอ แถมตอนนี้ยังกล้าจู่โจมอีกด้วย！

“รนหาที่ตายจริงๆ ฉันจะป่นปี้กระดูกแกให้แหลก！”

ฉินมิ่งตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วเริ่มต่อสู้กับเย่เซิ่งเทียนอีกครั้ง

ไม่ไกลกัน คนของหอเทพมังกรเมื่อได้เห็นฉากนี้ จึงรู้สึกตัวขึ้นมาทันที

“เจ้าเทพแข็งแกร่งมาก ฉินมิ่งมีแดนเหนือกว่าเจ้าเทพ แต่เขากลับไม่มีความคิดไร้เทียมทานเหมือนเจ้าเทพ！”

“แดนเมฆลอย ที่แท้แดนเมฆลอยที่อยู่ขั้นกว่าของแดนเหนือโลกีย์ เจ้าเทพได้แบ่งครึ่งกับแดนเมฆลอย ดูท่าความสามารถของเจ้าเทพจะเพิ่มขึ้นอีกแล้ว”