แดนลอยเมฆ
นี่คือเขตแดนเหนือโลกีย์
จ้านอู๋ซวงกับเหลิงเจว๋ซื่อและคนคนอื่นๆ แต่ละคนตาลุกเป็นไฟ
พวกเขารู้นานแล้ว เจ้าเทพอยู่เหนือกว่าแดนเทพบู๊ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจอะไร
ไม่สิ
น่าจะต้องพูดว่า ไม่ว่าเย่เซิ่งเทียนจะแสดงความสามารถอะไรออกมา พวกเขาไม่รู้สึกแปลกใจอะไร รู้สึกแค่ว่านี่เป็นเรื่องที่มีเหตุมีผลอยู่แล้ว
เพราะ นี่คือเจ้าเทพของพวกเขา
นำพาพวกเขาไปตลอดทาง ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน!
พวกเขาเชื่อมั่น ในตัวเองและคนอื่นๆ ไร้ซึ่งศัตรู!
ถึงอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขา ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขายังคงไร้ซึ่งศัตรูอยู่ดี
นี่ไม่ใช่การหลับหูหลับตาเชื่อมั่น แต่เป็นความเชื่อที่อยู่ยงคงกระพันที่สะสมมาจากการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า!
ทหารของต้าเซี่ย ไม่เคยกลัวใครหน้าไหน!
สำหรับความตายแล้ว ยังไงเสียความตายก็คือความตาย ตราบใดที่ตายยังมีคุณค่า
ไม่มีใครกลัวตาย ถึงแม้จะกลัวตาย ก็ต้องลุยไปข้างหน้า ด้านหลังยังมีประเทศชาติและเพื่อนพ้องคนที่ตัวเองรัก
แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอคนกล้าแดนลอยเมฆ
ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากอีกฝ่าย ลมหายใจก็ยังคงเพิ่มขึ้น
นัยน์ตานั้น ยังคงเดือดพล่านอยู่
ผู้ไร้ศัตรู ก็ควรที่จะชักดาบให้คนที่แกร่งกว่า!
ดังนั้นวินาทีนี้ พวกเขากำลังโหยหา ถ้าตัวเองไปถึงแดนลอยเมฆก็คงจะดีสินะ เจ้าเทพจะได้ไม่ต้องสู้เพียงลำพัง
พี่น้องที่อยู่รอบข้าง จะได้ตายน้อยลง
ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่อยู่ข้างหลัง คงจะปลอดภัยมากขึ้น
โลกที่แจริญรุ่งเรืองนี้ จะมั่นคงมากยิ่งขึ้น
“ฆ่ามัน!”
“แดนลอยเมฆ ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ฉินมิ่งเองก็รู้สึกแย่เช่นกัน เขาหัวเราะอย่างเย้ยหยัน และมีเมฆสีเทาควบแน่นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา
นี่คือคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของแดนลอยเมฆ
คนเหนือโลกีย์ถึงแม้จะเดินบนอากาศได้ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานนัก
แต่เมื่อถึงแดนลอยเมฆก็จะแตกต่างกัน สามารถลอยเหาะเหินได้ สามารถลอยตัวเหนือเมฆได้เป็นเวลานาน
ฉินมิ่งมองลงมาจากท้องฟ้าและพูดอย่างห่างเหิน“เย่เซิ่งเทียน แกอ่อนเกินไปแล้ว คิดว่าร่างกายแข็งแกร่ง เลยคิดว่ามีสิทธิ์ต่อกรกับฉันอย่างงั้นหรอ!แดนลอยเมฆ ไม่ใช่สิ่งที่แกจะจินตนาการได้หรอกนะ”
เย่เซิ่งเทียนเช็ดคราบเลือดตรงมุมปาก แล้วเผยให้เห็นรอยยิ้มสดใส“แดนลอยเมฆแข็งแกร่งจริงๆนั่นแหละ แต่แกก็เป็นแค่เศษสวะ ตอนนั้นถูกเย่หลงกดหัวไว้ ตอนนี้ยังถูกคนแซ่เย่กดหัวไว้อีก ฉันเกลียดคนแบบพวกแกที่คิดว่าตัวเองสูงส่ง!คิดจริงๆหรอว่าความสามารถแค่นี้จะทำอะไรก็ได้?ถามสิว่าพวกเรายอมรับกันรึเปล่า!”
ฉินมิ่งเหมือนจะจัดการเย่เซิ่งเทียนได้แน่ๆ จึงไม่ได้จู่โจมต่อไป
พูดอย่างไม่ยอมแพ้ไปว่า“การยืนหยัดที่น่าขันของพวกแก ไม่มีค่าต่อหน้าพลังความสามารถที่อยู่ตรงหน้าหรอกนะ แค่ต้าเซี่ยเล็กๆ ล่มสลายได้ก็ล่มไปซะเถอะ ไม่มีผลกระทบต่อเราหรอก ชาติบ้านเมืองอะไรกัน สำหรับผู้กล้าระดับเราแล้ว ไม่มีความหมายอะไรใดๆทั้งสิ้น เย่เซิ่งเทียน แกมันน่าสงสารจริงๆ!”
เย่เซิ่งเทียนยังคงยิ้มอยู่“ใช่หรอ?คนต่ำต้อยอย่างฉัน จะให้คนอย่างพวกแกที่อยู่สูงส่งข้างบนถึง พลังของคนต่ำต้อยอย่างพวกฉัน!”
จู่ๆก็คำรามด้วยเสียงเย็นชา“เอาดาบมา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...