มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1758

“จะมาทะเลาะกันทำไม? ผมขอให้ทุกคนมาหารือกัน ไม่ใช่ให้มาทะเลาะกัน!”

หลังจากฟังมาพักหนึ่ง หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งก็ตำหนิขึ้น น้ำเสียงของเขาฟังดูเหลืออด เขาไม่คาดคิดว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้จะแตกออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการช่วยเหลือคนนอก ขณะที่อีกฝั่งสนับสนุนการช่วยเหลือคนนอก

ความเงียบเข้าครอบงำห้องประชุมทันทีที่ฝูงชนเห็นว่าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งกำลังโกรธจัด

หลังจากเงียบไปสองสามวินาที หัวหน้าป้อมปราการลาวีนก็ได้แสดงความคิดของเขาต่อหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง “หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง ผมคิดว่าหากเราอดกลั้นมานานเกินไป ความแข็งแกร่งและพลังโดยรวมในปัจจุบันของเราก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกเขาแต่อย่างใด ถ้าเราช่วยคนเหล่านั้น พวกเขาจะต้องมาอยู่ข้างเราอย่างแน่นอน! บางทีที่อาจจะกลายเป็นโอกาสที่เราจะก้ามขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่านี้ เมื่อถึงเวลานั้น คุณไม่คิดว่าเผ่ากระหายเลือดก็จะต้องแสดงความเคารพต่อเราบ้างหรือ?”

“หัวหน้าป้อมลาวีน คุณพูดเข้าท่า!”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ทำงานให้กับหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งพยักหน้าเห็นด้วย “คนนอกพวกนั้นคงต้องรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเป็นอย่างมากและคงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป ดังนั้นหากเราสามารถช่วยเหลือพวกเขาในช่วงเวลาวิกฤตนี้ได้ พวกเขาจะต้องซาบซึ้งในบุญคุณของเราและจะเป็นประโยชน์ต่อเราในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้ หากเราต้องต่อสู้กับเผ่ากระหายเลือดจริง ๆ ก็ยังไม่แน่ว่าฝ่ายใดจะชนะ!”

“แม้ว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาจะมีผู้คนมากมาย แต่หลังจากหลงป่ามาระยะหนึ่งแล้ว พวกเขาคงสูญเสียคนไปมากแล้วเหมือนกัน ถูกไหม? สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่คนนอกพวกนี้มาจากชนเผ่าและตระกูลที่แตกต่างกัน ดังนั้นพวกเขาจึงอาจจะอยู่กันคนละฝ่าย ยิ่งกว่านั้น ระดับพลังยุทธของพวกเขายังอยู่ในช่วงแรกเริ่ม บางคนยังอยู่ในระดับเทพแท้จริง และบางคนก็อยู่แค่ในระดับกึ่งเทพเท่านั้น ดังนั้นผมคิดว่าพวกเขาคงไม่มีประโยชน์อะไรต่อเรามากนัก นอกจากนี้ อย่าลืมว่าเผ่ากระหายเลือดมีนักสู้ชั้นยอดที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดมากกว่าเราอีก!”

ผู้อาวุโสผู้ชาญฉลาดแสดงความกังวลหลังจากคิดเรื่องนี้

ออสติน หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งหยุดชงักไปชั่วขณะ ใบหน้ามืดมนและดำดิ่งลงอย่างที่สุด เขาเปล่งรัศมีมืดมนออกมา

ทว่าหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามเอลล่าว่า “จริงสิ เอลล่า เธอบอกว่าเธอได้พบกับคนที่ชื่อเฟนด์ใช่ไหม? เขามีพรสวรรค์สูงส่งและช่วยชีวิตเธอไว้ด้วยใช่หรือเปล่า?”