มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1900

“ในเวลานั้น นายท่านของเราอยู่ขั้นที่หนึ่งในระดับทะลวงวิญญาณ และเขาได้ต่อสู้กับนักสู้ชั้นยอดที่อยู่ในขั้นที่สามระดับทะลวงวิญญาณทั้งสองคนนั้นและสามารถเอาชนะพวกมันได้! เขาฆ่าพวกมันทั้งคู่! จากนั้นพวกคนที่ไม่ได้มีพลังยุทธสูงส่งในกองกำลังภาคีก็ถูกนักสู้ชั้นยอดของเผ่าเราจัดการ! แน่นอนว่าเราชนะการต่อสู้!”

กรามของนายท่านยาร์โบรห์เกือบจะตกลงไปที่พื้นเมื่อได้ยินคำพูดของชายคนดังกล่าว สีหน้าของเขาดูไม่ต่างจากการได้ยินเรื่องประหลาด “นายท่านของนายทะลวงเข้าเข้าสู่ระดับทะลวงวิญญาณแล้วงั้นหรือ? นานเท่าไหร่แล้ว?"

หลังจากได้ยินข่าว นายท่านยาร์โบรห์ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าจะต้องมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้อย่างไร และนายท่านเซลเลอร์ก็เช่นกัน

ทั้งคู่สบตากันและรู้สึกว่าแทนที่จะถามสมาชิกของเผ่าอยู่อย่างนี้ที่นี่ พวกเขาควรพบกับเฟนด์แบบตัวต่อตัว

หลังจากใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ ทั้งสองคนก็ไม่รอช้าและตรงไปยังที่พักของเผ่าเก้าเทพทันที ในเวลานี้เฟนด์ได้บ่มเพาะโอสถทะลวงวิญญาณเสร็จแล้วและได้กินมันเข้าไป

พลังงานจำนวนมหาศาลถือกำเนิดขึ้นภายในร่างกายของเฟนด์และไหลผ่านเส้นลมปราณของเขา โอสถทะลวงวิญญาณนั้นมีประสิทธิภาพและทรงพลังมาก จนในเวลาเพียงสองชั่วโมงหลังจากรับประทานเฟนด์ก็ได้ทะลวงผ่านไปยังขั้นที่สามระดับทะลวงวิญญาณได้เป็นที่เรียบร้อย

พลังงานของโอสถทะลวงวิญญาณยังคงมีเหลืออยู่มากมาย หลังจากผ่านไปอีกสองวัน ผลของโอสถทะลวงวิญญาณก็ถูกเฟนด์ดูดซึมจนหมด ดังนั้นเขาจึงบุกทะลวงเข้าสู่ขั้นที่เจ็ดของระดับทะลวงวิญญาณได้แล้ว!

ตอนแรกเฟนด์คิดว่าถึงโอสถทะลวงวิญญาณจะเป็นโอสถระดับสี่ แต่ถ้าเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หกในระดับทะลวงวิญญาณได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะมีศักยภาพถึงขนาดที่ทำให้เขาเข้าสู่ขั้นที่เจ็ดระดับทะลวงวิญญาณในเวลาอันสั้นเช่นนี้

ความแข็งแกร่งของขั้นที่เจ็ดระดับทะลวงวิญญาณนั้นเพียงพอที่จะต่อสู้กับนักสู้ที่แข็งแกร่งของกองกำลังภาคีผู้ที่แข็งแกร่งและเหนือกว่าเขาในอดีต เฟนด์ไม่ต้องกลัวพวกเขาอีกต่อไป

เมื่อเขารู้สึกตื่นเต้นที่ระดับการต่อสู้ของเขาถูกยกระดับเป็นขั้นที่เจ็ดระดับทะลวงวิญญาณ สมาชิกคนหนึ่งได้พาบุคคลสำคัญสองคนที่พยายามจะพบเขาเข้ามา

เฟนด์ขมวดคิ้วและเกิดความสงสัยในใจแก่คนที่ต้องการพบเขาในเวลานั้น เขาออกไปทักทายพวกเขา

หลังจากที่เฟนด์ออกไปพบพวกเขา นายท่านยาร์โบรห์และนายท่านเซลเลอร์ก็วิเคราะห์เฟนด์ตั้งแต่หัวจรดเท้าหลายต่อหลายครั้งในทันที และหลังจากที่ทั้งคู่มั่นใจแล้วว่าเฟนด์ได้ทะลวงผ่านไปยังขั้นที่เจ็ดระดับทะลวงวิญญาณแล้ว พวกเขาก็ยิ่งประหลาดใจและปลื้มปิติยิ่งกว่าเก่า

ต่อให้จะไม่มีเรื่องของการแก้แค้น แต่เขาก็ต้องต่อสู้กับกองกำลังภาคีอยู่ดี เพื่อให้ได้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์มาไว้ในครอบครอง

แม้ว่าจะยังมีเวลาในการถอนคำสาปให้กับเซเลน่าอยู่บ้าง แต่เขาก็จะไม่ยอมให้เวลาเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ ใช้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าผลึกเมฆาควบคู่ไปกับโอสถที่ได้จากการเล่นแร่แปรธาตุที่เขาจะบ่มเพาะในภายหลังสามารถช่วยลบคำสาปของเซเลน่าได้!

“ลงมือกันเลยเถอะ! และตามที่ผมคิดเรื่องเกี่ยวกับผู้อาวุโสของกองกำลังภาคี ต่อให้เราไม่เป็นฝ่ายเริ่ม พวกเขาก็จะรวบรวมคนและโจมตีเราเช่นกัน!”

หลังจากพูดแบบนี้ นายท่านยาร์โบรห์ก็นึกถึงสีหน้าเย้ยหยันของนายท่านโลเดอร์ในตอนที่เขาบอกนายท่านยาร์โบรห์และนายท่านเซลเลอร์ว่าเขาได้โจมตีกองทัพทั้งเก้าและตำหนักคลื่นเมฆาแล้ว

แม้ว่ากองกำลังภาคีจะสามารถกำจัดตำหนักคลื่นเมฆาจนราบเป็นหน้ากลอง แต่กองทัพทั้งเก้ากลับรอดมาได้! ตอนนี้ถึงคราวที่พวกเขาจะได้รู้สึกถึงความสิ้นหวังและอับจนหนทางบ้างแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหาเทพ แห่ง สงคราม