มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 2364

ดูเหมือนเขากำลังมองหาใครบางคน เขาจ้องมองออกไปขณะที่เขามองทุกคนที่อยู่ในปัจจุบัน แต่หลังจากมองหาไปทุกที่แล้ว เขาก็ไม่พบสิ่งที่ต้องการ และทันใดนั้นเขาก็เกิดความสงสัย

เขาขมวดคิ้วก่อนจะมองไปที่เกรแฮม อาการของเกรแฮมไม่ค่อยดีนัก เห็นได้ชัดว่าเกรแฮมกำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บสาหัส

ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของสำนักวายชนม์ขมวดคิ้วลึกขึ้น "เขาอยู่ที่ไหน?"

พวกอาวุโสจ้องมองไปที่เลนนอน เมื่อเลนนอนได้ยินเช่นนั้น เขาก็หน้าซีดอย่างรวดเร็วขณะที่มือสั่นเทา ในขณะนั้นเขากำลังตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างที่สุด

หากเขาบอกพวกอาวุโสลำดับที่หนึ่งว่าชายสวมหน้ากากตายแล้ว ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งอาจจะโยนความผิดให้กับเขา แต่ถ้าเขาไม่พูด ถ้าไม่มีทางจะหลีกหนีจากเรื่องนี้ไปได้

เขาหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง ใบหน้าของเขาขาวราวกับกระดาษแล้ว การกระทำของเขาทำให้ผู้อาวุโสทุกคนสับสนมากยิ่งขึ้น โดยธรรมชาติแล้วผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ศิษย์ทั้งทางเหนือและใต้ต่างรู้ดีว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ได้เข้าไปในแหล่งทรัพยากรยุทธต้องห้าม พวกเขารู้ว่าอาจมีใครตกอยู่ในอันตราย แต่ไม่ใช่ชายสวมหน้ากากอย่างแน่นอน!

ถึงกระนั้น ท่าทางของเลนนอนก็ดูเหมือนเขามีอะไรจะพูด แต่ก็ไม่กล้าทำเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น

ใบหน้าของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของสำนักวายชนม์แดงก่ำด้วยความโกรธ “ยังจะปิดบังอะไรอยู่อีก! ฉันถามว่าเขาอยู่ที่ไหน? ทำไมพวกแกทุกคนอยู่ที่นี่กันหมด แต่ไม่ใช่เขา!”

เขาหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า "รอยซ์ ชาร์ลตันคือเสาหลักในอนาคตของสำนักคุณ สกายลาร์อย่าได้กังวลไปเลย เขาไม่เป็นอะไรหรอก พวกคุณทุกคนก็ว่าอย่างนั้นใช่ไหม"

น้ำเสียงที่พูดออกมาดูเหยียดหยามอย่างที่สุด ทุกคนสามารถบอกได้โดยสัญชาตญาณว่าผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของสำนักสหัสบรรณกำลังพยายามบอกเป็นนัยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับรอยซ์อย่างแน่นอน

เฟนด์เลิกคิ้ว เขาไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้มองไปที่ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของสำนักสหัสบรรณได้ จากนั้นเขาก็พบว่าชายสวมหน้ากากมีชื่อว่ารอยซ์ และผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของสำนักวายชนม์มีชื่อว่าสกายลาร์

สกายลาร์มีสีหน้ามืดมนในขณะที่เขาหันกลับไปทันทีและพูดว่า "เลิกวางท่าเสียที ต่อให้รอยซ์จะไม่อยู่ที่นี่ แต่ลองดูจำนวนศิษย์ของคุณดูก่อนสิ มีแค่คนที่พอแข็งแกร่งอยู่บ้างแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ดูเหมือนพวกเขาจะเหลือกันอยู่ไม่กี่คนเองนี่นา”