มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 16

“เริ่มกันเถอะ !” หลัวซิวสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง จากนั้นจึงปรับท่าทางของตนเองให้ยอดเยี่ยมที่สุด

ชายชราชุดขาวหยิบหินหนึ่งก้อนที่มีขนาดเท่าฝ่ามือส่องประกายสีขาวจาง ๆ ออกมา จากนั้นจึงเดินไปที่หลุมหลุมหนึ่งที่อยู่บนแผนผังของค่ายกล แล้ววางหินพลังจิตลงไปด้านใน

“พรึ่บ !”

แสงสว่างจาง ๆ ปรากฏขึ้นตามแนวแผนผังของค่ายกลที่อยู่บนพื้นห้อง จากนั้นแสงทั้งหมดก็ส่องสว่างไปยังแท่นศิลาที่หลัวซิวยืนอยู่

หลังจากนั้น หลัวซิวก็รู้สึกว่าทุกสิ่งตรงหน้าของเขาเปลี่ยนไปตลอดเวลา สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไป จนในที่สุดเขามาปรากฏตัวอยู่ในห้องลึกลับห้องหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนกับกรง

“โฮก !”

แสงสีขาวส่องสว่าง ตรงจุดที่ห่างจากเขาออกไปประมาณสิบกว่าเมตร มีอสุรกายที่ดุร้ายสามตัวปรากฏขึ้น

ตัวของมันปกคลุมไปด้วยขนสีขาว ดวงตาแดงก่ำ ดูราวกับหมาป่าแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่ามาก อีกทั้งกรงเล็บของมันก็แหลมคม และมีเขี้ยวที่ส่องแสงประกายแวววาว

“อสูรหมาป่าหลังเหล็ก !”

ถึงแม้หลัวซิวจะไม่เคยเห็นอสุรกายมาก่อน แต่เขาก็เคยอ่านจากในหนังสือมาบ้าง ด้วยลักษณะเฉพาะที่เห็น จึงทำให้เขาพอรู้ที่มาที่ไปของอสูรกายเหล่านี้

อสูรหมาป่าชั้นต่ำเหล่านี้มีชื่อเรียกว่าหลังเหล็ก นั้นเป็นเพราะบนหลังของพวกมันมีกระดูกที่แข็งพอ ๆ กับเหล็ก

“ไม่มีลายเส้นชีวิต ?”

หลัวซิวขมวดคิ้ว เขาหันมองด้วยความสงสัย แต่กลับพบว่าในร่างกายของอสูรหมาป่าหลังเหล็ก3ตัวไม่มีลายเส้นชีวิต พวกมันเกิดมาจากการรวบรวมพลังจิต

นี่เป็นเพราะสาเหตุจากค่ายกล จึงไม่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตจริง ๆ ออกมาได้อย่างสมบูรณ์

สาเหตุที่หลัวซิวขมวดคิ้วเป็นเพราะว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่อาจใช้ความสามารถในการทำลายเส้นชีวิตที่ตนเองมีอยู่ได้

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรหมาป่าหลังเหล็ก3ตัว หลัวซิวกลับไม่รู้สึกประหม่า แต่กลับรู้สึกตื่นเต้น

เขาเลียริมฝีปาก จากนั้นจึงตั้งท่าต่อสู้ แล้วพูดกับตัวเองว่า : “ถึงแม้จะมีขีดจำกัดก็ไม่เป็นไร เช่นนี้จึงจะสามารถดึงเอาความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตนเองออกมาได้ !”

“ฟิ้ว !”

ตอนนี้เอง อสูรหมาป่าหลังเหล็ก3ตัวได้พุ่งตรงเข้ามาหาเขาด้วยพลังที่มหาศาล

ถึงแม้ค่ายกลจะไม่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้ แต่ก็สามารถลอกเลียนนิสัยและวิธีการในการโจมตีของอสุรกายตัวนี้ได้

“เข้ามาเลย !”

หลัวซิวขยับฝีเท้าเล็กน้อย เข้าใช้ท่าร่างก้าวสั้นระดับแดนบรรลุผลตามสัญชาตญาณ ในการหลีกเลี่ยงการโจมตีจากอสูรหมาป่าหลังเหล็ก2ตัว

“หมัดเสือพิฆาตจากหมัดเสือมังกร !” การเคลื่อนไหวบนมือของเขาก็ไม่ได้หยุดลงแต่อย่างใด ปราณในเคลื่อนไหวมายังหมัดทั้งสองข้าง และชกเข้าไปที่ท้องของอสูรหมาป่าหลังเหล็กตัวที่สาม

อสูรหมาป่าเองก็รู้จักการหลีกเลี่ยงจุดสำคัญของตนเองในขณะต่อสู้ อสูรหมาป่าตัวนี้โน้มตัวลง แล้วใช้จุดที่แข็งที่สุดคือหลังของมันในการป้องกันการโจมตีขอหลัวซิว

“ตุบ !”

อสูรหมาป่าตัวนี้ถูกหมัดของหลัวซิวชกจนลอยกระเด็นออกไปไกล จากนั้นร่างกายของมันจึงระเบิดกายเป็นแสงสีขาวอยู่กลางอากาศ

ถึงแม้จะได้ชื่อว่าหลังเหล็ก ถึงแม้จะมีหลังเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ดูจะเป็นแค่คำเปรียบเปรยเท่านั้น หมัดเสือมังกรระดับแดนบรรลุผลของหลัวซิว สามารถทัดเทียมได้กับการใช้พลังทั้งหมดของผู้ฝึกยุทธ์ระดับการกลั่นร่างขั้น7 ประกอบกับพลังทำลายล้างของปราณแห่งความตาย นี่จึงทำให้เขาสามารถจัดการกับศัตรูได้ในหมัดเดียว

แต่หลัวซิวเองก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน เนื่องจากการกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้กระดูกหมัดด้านขวาของเขาดูเหมือนจะหัก และรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง

ตอนนี้เอง อสูรหมาป่าหลังเหล็กอีก2ตัวก็จู่โจมเข้ามาอีกครั้งอย่างรุนแรงโดยไม่เกรงกลัว

“ปราณแห่งความเป็น !”

ปราณเป็นตายสองระดับเคลื่อนไหวอยู่ภายในร่างกาย และหลั่งไหลเข้าสู่บริเวณหมัด จากนั้นจึงซ่อมแซมลายเส้นชีวิต และทำให้กระดูกที่หักกลับมาหายดีเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

หลัวซิวใช่ท่าร่างก้าวสั้นในการหลีกเลี่ยงการโจมตีจากอสูรหมาป่าหลังเหล็กสองตัวอย่างสบาย ๆ

“ท่ามังกรทะยาน !”

“แต่เจ้าหนู เจ้าเองก็อย่าทระนงตนและมั่นใจในตัวเองให้มากนักนะ ไม่ต้องพูดถึงเขตการปกครองหยุนหลงทั้งหมดหรอก เพียงแค่ในเมืองชิงหยุนแห่งนี้ การกลั่นร่างขั้นห้านั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา หนทางที่เจ้าต้องเดินยังอีกยาวไกลนัก” ชายชราชุดขาวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ข้าจะจำคำสอนของผู้อาวุโสครับ” หลัวซิวกล่าว

“เอาล่ะ เจ้าสามารถไปรับตราสัญลักษณ์นักล่าอสูรที่ห้องโถงใหญ่ได้แล้ว” ชายชราชุดขาวเขียนชื่อลงบนใบสมัครเข้ารับการทดสอบของหลัวซิว จากนั้นจึงยื่นใบสมัครกลับคืนให้หลัวซิว

“จวงหนานเทียน......” เมื่อหลัวซิวเห็นชื่อที่เขียนอยู่ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นชื่อของชายชราชุดขาว

......

“ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนั้นคงจะไม่ผ่านการทดสอบแล้วนะ !”

“ฮ่าฮ่า ไม่แน่ว่าอาจจะตายอยู่ข้างในแล้วก็ได้”

“ต่อให้ไม่ตาย การสูญเสียแขนขาก็เป็นเรื่องธรรมดาในการทดสอบ”

ภายในห้องโถงใหญ่ ทั้งสองฝ่ายกำลังเผชิญหน้ากัน ฝ่ายของโกวหูจื่อ สีหน้าต่างเต็มไปด้วยความมั่นใจกับชัยชนะ

ในทางกลับกัน ฝั่งของโจวหลงกลับมีสีหน้าหมองหม่น เมื่อครู่พวกเขาวางเดิมพันเรื่องการทดสอบของหลัวซิวเป็นเงินถึงหนึ่งพันตำลึง !

หนึ่งพันตำลึงสำหรับนักยุทธ์แดนชี่ไห่แล้ว ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยเลย อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหากว่าครึ่งเดือนเพื่อให้ได้มา

แต่สิ่งที่โจวหลงให้ความสำคัญไม่ใช่เงินทองแต่คือศักดิ์ศรี ในบรรดานักล่าอสูรเมืองชิงหยุน เขาเองก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงไม่น้อย

“โกวหูจื่อ เจ้าอย่าเพิ่งรีบดีใจไปหน่อยเลย หากเจ้าหนุ่มนั่นผ่านการทดสอบจริง ๆ ข้าจะคอยดูซิว่าเจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน !” โจวหลงตะคอกเสียงดังออกมา

“ข้าขอยืนยันคำเดิม หากเขาผ่านการทดสอบ ข้า โกวหูจื่อ จะขอโน้มหัวของตัวเองลงมาให้เขาเตะเป็นลูกบอล !” โกวหูจื่อตะโกนออกมาอย่างไม่ยอมแพ้

“มาแล้ว ออกมาแล้ว !”

ตอนนี้เอง มีคนชี้ไปที่ทางออกของสนามทดสอบ ทุกคนหันมองไป และเห็นหลัวซิวเดินถือใบสมัครมุ่งหน้ามายังโต๊ะรับรอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ