มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 212

การที่ตระกูลจูถูกทำลายไม่เกี่ยวข้องกับเขา อีกทั้งถ้าหากไม่มีเขาหลัวซิวปรากฎตัวขึ้น นายท่านตระกูลจูและจูเสวียนกวงไม่มีใครมีชีวิตอยู่ต่อได้

หลัวซิวไม่ได้หวังว่านายท่านตระกูลจูจะซาบซึ้งในบุญคุณของตน เพราะถึงอย่างไรตนก็มีจุดประสงค์

แต่อีกฝ่ายกลับต้องการใช้เขาเป็นอาวุธ ทั้งยังข่มขู่ตน นี่เป็นสิ่งที่หลัวซิวไม่สามารถทนได้

นายท่านตระกูลจูหัวเราะเยือกเย็น กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่ากลับรู้สึกว่ามือขวาว่างเปล่า ม้วนภาพปริศนาหายไปแล้ว ในมือว่างเปล่า

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เห็นม้วนภาพปริศนาอยู่ในกำมือของหลัวซิว ถูกเขาเก็บเข้าไปในแหวนเก็บของ

หลังจากตระหนักห้วงยุทธ์กระบี่สังหาร หลัวซิวก้าวกระโดดออกมาจากขอบเขตของวิชากระบี่ บรรลุห้วงกระบี่ขั้นต่อไป

กระบี่ของเขาแข็งแกร่งกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม ความเร็วในการลงมือที่เท่ากัน ไม่ใช่สิ่งที่ในอดีตสามารถเทียบได้

ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายใกล้กันแบบนี้ ถ้าเขาลงมือ แม้กระทั่งสำนึกของปรมาจารย์ฝึกจิตก็ไม่สามารถไหวตัวทัน

มีเพียงคนที่ครอบครองห้วงยุทธ์ นักยุทธ์ฝึกตนจะมีสำนึกวิเศษที่หลักแหลมมากขึ้น ถึงจะเห็นการกระทำของเขา

ม้วนภาพปริศนาเปลี่ยนเจ้าของ คำพูดที่อยากจะพูดออกมาของนายท่านตระกูลจูติดอยู่ที่คอ ใบหน้าแก่ชราอดกลั้นจนแดงก่ำ

หลังจากนั้น หลัวซิวไม่อยากจะพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ทะยานขึ้นฟ้า แล้วหายไปจากเส้นขอบฟ้า

เดิมทีเขาตั้งใจว่าหลังจากได้รับตำแหน่งของซากโบราณ เขาจะให้ของเล็กน้อยกับนายท่านตระกูลจูและจูเสวียนกวง ถือเป็นการชดใช้ที่ตนเอาลูกแก้วดำไป

แต่นายท่านตระกูลจูกลับไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ข่มขู่เขาแบบนี้ หลัวซิวจึงชิงภาพปริศนามา แล้วหนีไป

จากแผนที่ในม้วนหนังอสูร ซากนั้น คือถ้ำตำหนักของผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ในสมัยโบราณ

รายละเอียดของผลการฝึกตนของผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์เป็นอย่างไร ไม่ได้บันทึกเอาไว้

ทางเข้าถ้ำตำหนักมีค่ายกลต้องห้ามอันแข็งแกร่ง ต้องมีลูกแก้วดำถึงจะเปิดได้ อีกทั้งด้านในยังมีกลไกมากมาย เป็นค่ายกลเชื่อมติดต่อกัน เมื่อสิบกว่าปีก่อนจูโหวพาคนเข้าไป สูญเสียคนไปจำนวนไม่น้อย ทว่าสุดท้ายก็ไม่สามารถเข้าไปในถ้ำตำหนักได้

ตำแหน่งซากถ้ำตำหนัก ตั้งอยู่ในทะเลทรายของเมืองไห่หยุน

หลัวซิวไม่ได้คิดจะไปตรวจดูซากถ้ำตำหนักที่เมืองไห่หยุนในตอนนี้ ลูกแก้วดำและภาพปริศนาอยู่ในมือตนแล้ว ถึงแม้จะมีคนรู้ว่าที่นั่นมีซาก ก็ไม่สามารถเข้าไปได้

หลังจากผ่านไปสามวัน หลัวซิวมาถึงเมืองกู่เจี้ยน

เมืองกู้เจี้ยน คือถิ่นของตระกูลเหยียน เดิมทีแดนนานาอสูรอยู่ในการครอบครองของตระกูลเหยียน

หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเหยียนเยว่เอ๋อร์ ไม่รู้ว่าเวลานี้สถานการณ์ของเธอจะเป็นยังไงบ้าง ผลการฝึกตนจะฟื้นฟูไปถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์แล้วหรือยัง

เมืองซานหยวน คือหนึ่งในเมืองทั่วไปของเมืองกู่เจี้ยน จากสัญลักษณ์นานาอสูรบนภาพปริศนา หลัวซิวมาถึงที่นี่

ภาพปริศนาจะชี้ตำแหน่งคร่าวๆเท่านั้น ส่วนตำแหน่งโดยละเอียด ต้องให้หลัวซิวหาเอง

ขอเพียงเข้าใกล้ทางเข้า หยกอสูรจันทราคู่ก็จะมีปฏิกิริยา ไม่ถึงขั้นไร้จุดหมาย

แก๊งนักกลั่นยา คือสถานที่ในทุกเมืองที่นักยุทธ์ฝึกตนมามากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

หลัวซิวสังหารผู้อาวุโสสำนักเฉินเฟิง ในแหวนเก็บของมีแค่วัสดุและหินพลังจิตบางส่วนเท่านั้น เขาเตรียมการก่อนที่จะเข้าไปในแดนนานาอสูร เปลี่ยนของเหล่านี้เป็นยาวิเศษ แล้วกลั่นยากลั่นจิต

"เอายาผนึกปราณหนึ่งขวด"

"เพื่อนคนนี้เก็บรวบรวมยากลั่นจิตขั้น4 จะกลั่นยากลั่นจิตขั้น4เหรอ?"

ขณะที่หลัวซิวกำลังจะออกไปจากแก๊งนักกลั่นยา มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังขึ้นมากะทันหัน

หลิวซิวหันกลับไป คนที่พูดคุยกับตนคือชายชราที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม บนหน้าอกติดตราสัญลักษณ์เอาไว้ ด้านบนเป็นรูปเตายาขนาดเล็กที่สลักด้วยความประณีต ด้านบนมีดาวสี่ดวง

เห็นชัดว่า ชายชราคนนี้ คือปรมาจารย์กลั่นยาระดับสี่ โดยรอบมีนักยุทธ์ฝึกตนบางส่วนมองมาที่เขา ล้วนเป็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความเคารพ

ปรมาจารย์กลั่นยาระดับ4 มีปริมาณทองคำเพียงพอที่จะเทียบเท่ากับราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่ง

เพราะถึงอย่างไรปรมาจารย์กลั่นยาโดยมากผลการฝึกตนล้วนบรรลุแดนราชายุทธ์ ทว่าความสามารถในการกลั่นยาใช้ว่าจะสามารถบรรลุระดับ5ได้

ด้านหลังชายชราคนนี้ มีหญิงสาวชุดสีม่วงยืนอยู่ มองดูแล้วน่าจะอายุประมาณยี่สิบ ใบหน้างดงาม ร่างอรชร อวบอิ่ม ติดตราสัญลักษณ์นักกลั่นยาเอาไว้เหมือนกัน ด้านบนมีดาวสองดวง

ผลการฝึกตนของผู้หญิงชุดม่วงคนนี้ คือพรสวรรค์ขั้น2 ก็สามารถกลายเป็นนักกลั่นยาขั้น2 เห็นได้ว่ามีพรสวรรค์ด้านการกลั่นยาที่สูงมาก

อย่างน้อย หลัวซิวถามตนเองว่าถ้าหากไม่ใช่กฎเดิมลูกแก้วความเป็นความตายที่ให้มา เขาไม่มีวันมีความสามารถในการกลั่นยาระดับนี้

"ท่านอาจารย์ เขาดูแล้วอายุยังน้อยกว่าฉัน" หญิงสาวชุดสีม่วงพูดขึ้นพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย

ที่เธอขมวดคิ้ว เป็นเพราะอาจารย์ของตนเรียกชายหนุ่มอายุสิบห้าว่า 'เพื่อน' โดยทั่วไปการเรียกแบบนี้ จะเรียกกับคนที่ความสามารถอยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้น

ผลการฝึกตนของหญิงชุดสีม่วงไม่สูง ดูผลการฝึกตนของหลัวซิวไม่ออก แต่ปรมาจารย์กลั่นยาระดับ4นั้นไม่เหมือนกัน เขาดูผลการฝึกตนของปรมาจารย์ฝึกจิตของหลัวซิวออก

"ปรมาจารย์ความคิดอะไรเหรอครับ" หลัวซิวประสานมือแล้วพูด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ