แน่นอนว่ากงซุนเชียนจีไม่เชื่อว่าหลัวซิวจะมีระดับค่ายกลที่สูงขนาดนี้ ที่สงสัยก็เพราะว่า หลัวซิวสามารถสร้างค่ายกลธงได้รวดเร็วเช่นนี้ ยังไงก็ต้องมีธงค่ายพิเศษอย่างใดอยู่ในมือแน่นอน
ในตอนนี้ เขามีความต้องการที่จะลงมือทำ ถ้าเขาสามารถเอาสมบัติชิ้นนี้มาได้ ความแข็งแกร่งจะสูงขึ้นอีกระดับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่แน่อาจจะสามารถเข้าใจความลึกลับอันลึกซึ้งของค่ายกลได้ และยกระดับทักษะค่ายกลของตน หรือแม้แต่ระดับขั้น!
“ห้วงยุทธ์อัสนี เหยียบมังกรทะลุฟ้า!”
ที่กลางอากาศ เหลยเว่ยหลงกู้ร้องด้วยความโกรธา อำนาจรอบร่างของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และรัศมีของสายฟ้าหลอมรวมกันกลายเป็นรูปมังกร คำรามและพุ่งตรงไปที่หลัวซิว
ในเวลาเดียวกัน พลังแห่งตัวสำนึกของเขาหลอมรวมกับพลังของห้วงยุทธ์ กลายเป็นสายฟ้า โจมตีไปที่ตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว
นี่ไม่ใช่วิชาลับโจมตีวิญญาณอะไร แต่ตัวสำนึกที่หลอมรวมเป็นห้วงยุทธ์ของราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่ง สามารถโจมตีให้ได้ผลลัพธ์เท่าเทียมกับวิชาโจมตีวิญญาณ
“ประลองครั้งสุดท้ายสินะ?”
นำเสียงเยือกเย็นของหลัวซิวลอยออกมาจากเปลวเพลิงมรณะ ทันใดนั้น เปลวเพลิงรอบตัวเขาก็เริ่มลุกลาม แปรเปลี่ยนเป็นวิชาพลังมังกรแท้ และกลายเป็นมังกรไฟสีดำ
ส่วนตัวสำนึกห้วงยุทธ์ที่หลอมรวมกันเป็นสายฟ้า ยังไม่ทันทีจะได้เข้าใกล้ตัวหลัวซิว ดาบสังหารห้วงยุทธ์และตัวสำนึกของห้วงยุทธ์แห่งความตาย ก็ถูกโจมตีจนปราชัยไปในทันที
ระดับตัวสำนึกของเหลยเว่ยหลง ถึงแม้จะสูงกว่าหลัวซิวถึงสองแดน แต่ที่เขาครอบครองอยู่คือห้วงยุทธ์สอง อีกทั้งยังเชี่ยวชาญวิชาโจมตีวิญญาณ,ในขณะที่ใช้ตัวสำนึก ยังห่างชั้นกว่าเหลยเว่ยหลงอย่างมาก
ปัง!
มังกรอัสนีกับมังกรเพลิงดำชนเข้าด้วยกัน ภูตอัคคีกลืนกินสีน้ำตาลแดงค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้น ในพริบตา ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด พื้นที่นั้นก็เต็มไปด้วยร่องรอยการเผาไหม้
เกิดการระเบิดรุนแรงในอากาศ ทุกคนด้านล่างเห็นร่างหนึ่งพุ่งออกมา และเลือดก็พุ่งออกจากปากของเขา
เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ทุกคนก็ตระหนักได้ว่า ร่างนี้กระอักเลือดตีลังกากลับหัวกลับหาง นั่นก็คือหลัวซิว
ฝั่งคนจากสำนักเหลยหวู่ เผยสีหน้าและรอยยิ้มแห่งความสุขออกมา
แต่คนทางหอหย่งชาง ก็จิตใจขุ่นมัวขึ้นมาทันที
“เขายังเด็กเกินไป ต่อให้ฝึกตนได้รวดเร็วสักเพียงใด พรสวรรค์จะมากมายสักเพียงใด แต่อายุเท่านี้ ขะสามารถเอาชนะราชายุทธ์คนหนึ่งที่ฝึกตนมาแล้วนับร้อยปีได้อย่างไร?”
ทั้งสองกองทัพที่เผชิญหน้ากันอยู่นั้น สีหน้าและอารมณ์ของทุกคนซับซ้อนมาก แม้จะพ่ายแพ้ ในสายตาของทุกๆ คน หลัวซิวคนนี้ก็พ่ายแพ้อย่างสมศักดิ์ศรีเช่นกัน เพราะอายุเพียงสิบเจ็ดปี มีผลการฝึกตนของแดนฝึกจิตขั้นแปด ท้าชนกับผู้แข็งแกร่งแห่งแดนราชายุทธ์ขั้นสี่!
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ร่างหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า ทำให้สายตาที่แสดงความตกตะลึงทุกคู่นั้นกลับมารวมกันเป็นตาเดียว
เจ้าของร้างที่ว่านั้น ที่แท้ก็คือเจ้าสำนักเหลยหวู่ ‘เหลยเว่ยหลง’!
ปั้ง!
ร่างของเหลยเว่ยหลงหล่นลงบนเวทีประลองยุทธ์ที่รกร้างนั้นอย่างแรง ฝุ่นกระจายขึ้นกลางอากาศ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ร่างกายไร้ซึ่งคลื่นชีวิตและลมหายใจ
“ตายหรือ?”
ฉากตรงหน้านั้น ราวกับสายฟ้าในวันแดดจัดฟาดลงตรงกลางใจของชาวสำนักเหลยหวู่นักยุทธ์ทุกคน
“เจ้าสำนัก!”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งแห่งสำนักเหลยหวู่รีบกระโจนเข้ามา เขายืนอยู่ข้างตัวเหลยเว่ยหลง สายตาจับจ้องไปที่จุดตันเถียน มีร่องรอยของการเผาไหม้ จุดตันเถียนวิชาชี่ไห่ ถูกเจาะและเผาไหม้กลายเป็นความว่างเปล่า
แต่บางคนที่ไม่ได้จงรักภักดีกับสำนักเหลยหวู่มากขนาดนั้น ก็เห็นได้ชัดว่าเมื่อเหลยเว่ยหลงตายไป สำนักเหลยหวู่ก็เหลือแค่ชื่อเท่านั้น ทุกคนต่างก็พากันทิ้งป้ายบัญชาการของสำนักเหลยหวู่ หมุนตัวและเดินออกไป
หลินโยว่เทียนโบกมือ นักยุทธ์แห่งหอหย่งชางก็เดินขึ้นหน้า ล้อมคนของสำนักสำนักเหลยหวู่เอาไว้
“ข้าในนามของหอหย่งชาง เป็นสถานที่ที่พวกเจ้าคิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไปอย่างนั้นหรือ?”
หลินโยว่เทียนแผ่อำนาจราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่ง นอกจากผู้อาวุโสสองคนแห่งสำนักเหลยหวู่ที่มีผลการฝึกตนระดับราชายุทธ์ ส่วนนักยุทธ์คนอื่น ๆ นั้นส่วนมากมีสรหน้าซีดเซียว ถูกพลังนั้นกดเสียจนแทบหายใจไม่ออก
หลินโยว่เทียนก็ไม่ได้ทำตัวยิ่งผยองแต่อย่างใด แต่กลับเบนสายตาไปทาง หลัวซิวแทน “ท่านชายหลัว ท่านคิดว่าควรจัดการกับเจ้าพวกนี้อย่างไร?”
เขารู้ดี หากไม่ใช่การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลัวซิว วันนี้หอหย่งชางก็คงไม่เหลืออยู่อีกต่อไป
และหลัวซิวสามารถฆ่าเหลยเว่ยหลงได้ พลังขนาดนี้ก็สามารถทำให้หลินโยว่เทียนยกให้หลัวซิว เป็นผู้แข็งแกร่งที่มีเก่งกาจกว่าตนเองแล้ว
“ฆ่า!” หลัวซิวพูดเสียงเรียบ
หากเป็นตัวเขาเอง หลัวซิวเองไม่ได้กลัวการแก้แค้น แต่จำเป็นต้องฆ่า เพื่อไม่ให้คนอื่นได้รับผลกระทบ
แต่เบื้องหลังของเขา ยังมีญาติสนิทมิตรสหาย เมื่อคิดถึงความปลอดภัยของคนรอบตัว ถ้าเขาเป็นศัตรูกับคนอื่น เขาทำได้แค่ถอนรากถอนโคลน ไม่ให้ต้องทุกข์ทรมานจากปัญหาที่จะเกิดในวันหน้า
แม้ว่าจะค่อนข้างโหดร้ายและเลือดเย็น แต่บนโลกที่ให้ค่ากับนักยุทธ์ผู้แข็งแกร่ง ถ้าไม่มีหัวใจที่แข็งกระด้างและเด็ดขาด ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้เลย
จิตใจมีเมตตาได้ แต่อย่าใจอ่อนเหมือนผู้หญิง นี่แหละคือสิ่งสำคัญที่สุดแห่งการเอาชีวิตรอดในโลกนี้!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...