มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 303

แต่สิ่งที่ทำให้เหยียนชูซิวคาดไม่ถึงก็คือ หลัวซิวยังคงบ้าคลั่งพุ่งเข้ามาใส่ตนต่อโดยไม่สนใจบาดแผลของตัวเอง

เหยียนชูซิวยังไม่ทันที่จะได้ใช้ยา มือซ้ายของเขาบีบยาพระแสง ส่วนมือขวาผนึกรวมพลังจิตแท้ ก่อให้เกิดเป็นโล่ไฟปรากฏขึ้น

ทว่าโล่ไฟนี้กลับรับมือได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะถูกปราณกระบี่ภูติอัคคีของหลัวซิวดูดกลืนเข้าไป

“นี่มันไม่ใช่ภูติอัคคีธรรมดา นี่มัน......”

สีหน้าของเหยียนชูซิวแปรเปลี่ยน เขายังไม่ทันจะกล่าวจบประโยคกลับถูกปราณกระบี่ภูติอัคคีโจมตี ร่างกายของเขาทั้งตัวถูกภูตอัคคีกลืนกินแผดเผา

“ไม่!”

เหยียนชูซิวตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พลังจิตแท้ Attr ไฟในร่างกายถูกดูดกลืนอย่างต่อเนื่อง การฝึกตนของเขาก็ลดลงก็ลดลงอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน

เขามองหลัวซิวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ภูติอัคคีฟ้าดินที่เป็นสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ หลัวซิวกลับหามาครอบครองได้? และถึงแม้ว่าเขาจะหาได้ แล้วเขาควบคุมมันได้อย่างไร

ทว่าตอนนี้เหยียนชูซิวกลับพูดอะไรไม่ออก ภายใต้การเผาผลาญของภูติอัคคีกลืนกิน พลังจิตแท้ธาตุไฟของเขานอกจากจะไม่สามารถป้องกันมันได้แล้ว แต่ยังกลายเป็นของบำรุงให้กับภูติอัคคีกลืนกินไปอีกด้วย

ภายในระยะเวลาสั้นๆ ร่างกายของเขาก็ละลายกลายเถ้าธุลี หากไม่ใช่หลัวซิวที่เป็นคนควบคุม แม้แต่นักยุทธ์หรือแหวนเก็บของของเขาก็จะถูกภูติอัคคีกลืนกินเผาผลาญไปจนไม่เหลือเช่นกัน

พลังจิตแท้ของหลัวซิวเองก็ถูกใช้ไปหมดเช่นกัน ร่างของเขาที่ขมุกขมัวตัวอ่อนตัวพับลงกับพื้น พลังชีวิตหลุดลอยไปไกล

เขานอนแผ่ลงบนพื้น จึงเห็นบรรยากาศที่ยังคงบิดเบี้ยวจากแรงระเบิดตัวเองของเย่ซวนที่ยังไม่สงบลง ในใจของเขาจึงเกิดความรู้สึกสลดใจบางอย่างที่บรรยายด้วยคำพูดไม่ถูก

เย่หยุนตายไปแล้ว เพราะความแค้นที่เป็นบ่อเกิดของความมุ่งมั่น ทำให้แม้ว่าตัวจะตายไปแล้ว แต่วิญญาณที่เคียดแค้นยังคงพยายามที่จะยกระดับพลังของตัวเองอยู่ในแดนปริศนา

ทว่าตอนนี้ เย่ซวนก็ตายไปแล้ว ความแค้นยิ่งใหญ่ที่ผู้ชายคนหนึ่งแบกเอาไว้สามสิบกว่าปี สุดท้ายก็ได้ระเบิดออกในช่วงสุดท้ายของชีวิต

บางทีช่วงที่เขาระเบิดตัวเองนั้น เย่ซวนอาจจะไม่ได้คิดว่าตนจะสามารถฆ่าเหยียนซูซิวได้ แต่อาจเพียงคิดว่าหากตัวเองยอมตาย เหยียนชูซิวจะต้องชดใช้อะไรให้เขาได้บ้าง

หากเขารู้ว่าการระเบิดตัวเองของเขา ทำให้หลัวซิวฉวยจังหวะนั้นสังหารเหยียนชูซิวได้ บางทีนี่อาจจะทำให้เขานอนตายตาหลับได้

ทว่าเขาไม่สามารถนอนตายตาหลับได้ตลอดไป เพราะการระเบิดยาเทพจิต ทำให้วิญญาณแตกสลาย ไม่สามารถกลับไปเกิดใหม่ได้อีก การที่เขาไม่ได้กลับมาเกิดทำให้เขาไร้ชะตาที่จะกลับไปเวียนว่ายตายเกิดได้

สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มรางเลือนขึ้นเรื่อยๆ บาดแผลตามร่างกายร้ายแรงเกินไป ไม่นานนักหลัวซิวก็เข้าสู่สภาวะหมดสติ

สำหรับเขตการปกครองโตว้ไห่ ความขัดแย้งของสามกลุ่มอำนาจใหญ่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมแห่งการแก่งแย่งชิงดี

เจ้าสำนักเหลยหวู่ เจ้าตระกูลกงซุน เจ้าของหอหย่งชาง ผู้ควบคุมกลุ่มอำนาจทั้งสามได้หมดอำนาจลง แม้แต่ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ของตระกูลเหยียนที่มาจากเมืองกู่เจี้ยนก็ตายไปแล้วเช่นกัน

ผู้ที่เข้าร่วมศึกราชายุทธ์ครั้งนี้ คงเหลือเพียงหลัวซิว เด็กหนุ่มอายุ 17 ปีที่อยู่ในแดนฝึกจิตขั้น 8 เท่านั้น ที่ยังคงมีชีวิตอยู่รอด

ทุกสายตาหันไปมองที่หลัวซิวเป็นหนึ่งเดียว คนจำนวนมากต่างเริ่มมีความคิดที่จะเอาชีวิตของเขา

“หนุ่มคนนี้ฆ่าราชายุทธ์ตระกูลเหยียน หากเอาหัวของเขาไปให้ตระกูลเหยียนคงได้ตกรางวัลไม่ต่ำกว่าสองแสนแน่”

คนกลุ่มหนึ่งเริ่มอดใจไม่ไหวจนก้าวเท้าเข้ามาด้วยสายตาเปล่งประกาย

ทว่าในตอนนั้นเองกลับปรากฏเงาร่างของคนคนหนึ่งขึ้นข้างกายของหลัวซิว เป็นผู้อาวุโสจอนผมขาวคนหนึ่ง เขาสวมใส่ชุดผ้าฝ้ายสีฟ้าสวยงามหรูหรา เขาเพียงยืนนิ่งๆ แต่กลับมีความน่าเกรงขามแผ่ซ่านออกมาจากเขาไปทั่วบริเวณ

ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้จักหัวหน้าแก๊งเสิ่นผู้ปกครองเขตการปกครองโตว้ไห่แห่งนี้ คนจำนวนมากได้ยินเพียงชื่อ แต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ ของเขามาก่อน

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!......

หอหย่งชางเองก็ไม่ต่างอะไรกับมังกรที่ไร้หัว เหยียนยิงต๋าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าของหอก็ถือโอกาสนี้ยึดตำแหน่ง และพยายามรวบรวมพรรคพวกจนกลายเป็นกลุ่มอำนาจที่ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเขตการปกครองโตว้ไห่

สถานการณ์โลกภายนอกก็วุ่นวายโกลาหล เกิดการสู้รบขึ้นเป็นนิจ เป็นการแก่งแย่งทรัพยากรและอำนาจ และถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดในโลกแห่งนักยุทธ์

และในช่วงเวลานี้เองที่หลัวซิวรักษาตัวอยู่ที่องค์กรนักล่ายุทธ์

เมื่อเขาตื่นขึ้นมาจากหลังจากหมดสติไป เวลาก็ผ่านไปสามวันแล้ว เส้นปราณภายในร่างก็เริ่มปริออก จุดตันเถียนชี่ไห่ได้รับความเสียหาย ตัวหยั่งรู้ของเทพจิตได้รับผลกระทบเช่นกัน การบาดเจ็บเช่นนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็คงพิการไปแล้วทั้งนั้น

และนี่เองเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า การระเบิดตัวเองของผู้แข็งงแกร่งราชายุทธ์ อานุภาพของมันมีความน่าหวาดหวั่นเช่นไร

หากแดนร่างเนื้อของเขายังไม่ถึงระดับร่างยุทธ์ระดับราชา เกรงว่าแม้แต่ผู้เป็นอมตะยังไม่สามารถช่วยได้ และก็คงจะสิ้นใจคาที่ไปนานแล้ว

และแม้ว่าจะใช้ผู้เป็นอมตะแล้วก็ตาม แต่หากบาดแผลร้ายแรงเกินไป อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนถึงจะฟื้นฟูร่างกลับมาได้

โดยเฉพาะการซ่อมแซมจุดตันเถียน ตัวหยั่งรู้ รวมทั้งเส้นลมปราณที่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ทุกกระบวนการเหล่านี้ล้วนต้องสิ้นเปลืองเวลาอย่างมากทั้งสิ้น

วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพหมุนวนอยู่ในชี่ไห่ พลังชีวิตกระจายไปทั่วร่างช่วยในการฟื้นฟูบาดแผล

เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว หลัวซิวจึงใช้ยาเสวียนจือหนึ่งเม็ด นี่คือยาล้ำค่าที่ใช้ในการฟื้นฟูจุดตัดเถียน แต่เพื่อให้สามารถเร่งระยะเวลาการรักษาตัวของบาดแผลให้เร็วขึ้น แม้ว่าเขาจะเสียดายขนาดไหนก็จำเป็นต้องกินมันเข้าไป

ส่วนยาวิญญาณหยินหยางที่สามารถฟื้นฟูตัวหยั่งรู้รวมทั้งยาเทพจิตได้นั้น หลัวซิวกลับไม่สามารถทำใจใช้มันได้ เพียงเพราะว่าที่เขากลั่นยาตัวนี้ออกมาก็เพราะต้องการทิ้งเอาไว้ให้เหยียนเยว่เอ๋อร์

“หนุ่มน้อย รู้หรือยังว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”

หัวหน้าแก๊งเสิ่นหยวนหนานเข้ามาในห้อง ใบหน้ามีอายุของเขานิ่งเย็นราวสายน้ำ น้ำเสียงของเขาแฝงความหมายตำหนิ ทว่าสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ