ในเวลาเดียวกัน ห่างออกไปหลายล้านไมล์ในเทือกเขาเหิงหยุน ผู้อาวุโสหกของตระกูลหยู ที่ดูแลห้องโถงบรรพบุรุษสีหน้าของเปลี่ยนไปในทันที!
เพราะตะเกียงวิญญาณที่วางไว้ที่ด้านบนสุดในห้องโถงบรรพบุรษ วูบ ดับลงไป!
และเจ้าของตะเกียงวิญญาณนี้คืออาจารย์ของตระกูลหยู หยูเชียนฮั่ว!
ตะเกียงวิญญาณมี 2 แบบ แบบแรกคือตะเกียงวิญญาณโบราณ ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไป จะทิ้งเส้นใยเทพจิตไว้บนตะเกียงวิญญาณ ทันทีที่ร่างกายเสียชีวิต ตะเกียงวิญญาณจะปกป้องเส้นใยเทพจิตนี้ไว้ ยังมีความหวังเกิดใหม่อีกครั้ง
วิธีลับในการกลั่นตะเกียงวิญญาณโบราณนี้หายสาบสูญไปนานแล้ว จะได้มาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโชค น้อยคนนักที่จะมีผู้ขายสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตแบบนี้
นอกจากนี้ยังมีตะเกียงวิญญาณชนิดหนึ่ง เฉพาะปรมาจารย์นักค่ายกลขั้น 7 เท่านั้นที่สามารถกลั่นสมบัติค่ายกลได้ เส้นใยตราวิญญาณที่ประทับอยู่ในตะเกียงวิญญาณ ตะเกียงวิญญาณก็จะสว่างขึ้นเหมือนจุดเทียน ทันทีที่เปลวเทียนดับ แปลว่า เจ้าของตะเกียงวิญญาณ ล่วงลับแล้ว!
ฝานไท่เต๋อและเจ้าตำหนักจื่อในตอนนั้น ได้รับตะเกียงวิญญาณโบราณโดยบังเอิญ และแม้ว่าตระกูลหยูจะแข็งแกร่งกว่า แต่ก็ไม่มีโชคเช่นนั้น แม้แต่อาจารย์มกุฎยุทธ์ก็ใช้ตะเกียงวิญญาณธรรมดา
“อาจารย์ล่วงลับไปแล้ว...”
ผู้อาวุโสหกของตระกูลหยู รู้สึกว่าริมฝีปากของตนสั่นไม่หยุด พูดติดขัด
“เร็ว...ส่งคนไปแจ้งผู้ก่อตั้งตระกูลหยู!”
ตอนนี้ ในบรรดาผู้อาวุโสของตระกูลหยู เหลือเพียงเขาและผู้อาวุโสใหญ่เท่านั้น และผู้อาวุโสใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสติอยู่ อาจารย์ล่วงลับ ท่านผู้นั้นเป็นหัวหน้าหลักคนเดียวในทั่วทั้งตระกูลหยูแล้ว
เนื่องจากอาจารย์ล่วงลับตระกูลหยูอยู่ในความโกลหลวุ่นวาย ผู้คนต่างก็ตื่นตระหนก หลัวซิปิดกั้นรักษาบาดแผลของตน
อยู่ในหอคอยกลางของแดนปริศนา
อีกด้านหนึ่ง บนยอดเขาเทียนเหอแห่งสำนักฉางเหอ การต่อสู้ครั้งใหญ่ กำลังจะเกิดขึ้น
“หลี่ฉางเหอ หากเจ้าไม่ต้องการทำลายรากฐานนับพันปีของสำนักฉางเหอ แนะนำให้เจ้าเลิกต่อต้านจะดีที่สุด”
ป๋ายหลี่หยวนหลงยิ้มอย่างเฉยเมย จากนั้นยกมือขึ้นเหวี่ยงออก รังสีของแสงก็พุ่งออกมาจากวงแหวนเก็บของ มีทั้งหมดหลายร้อยแสง ตกลงไปในทิศทางที่ไม่เหมือนกัน
“สหายยุทธ์ป๋ายหลี่ ทั้งหมดนี้ พึ่งเจ้าแล้วนะ!” หลี่เสวียนหยางคารวะ
“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวล แค่ไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎยุทธ์ที่ควบคุมด้วยตนเอง มันก็ไม่ยากที่จะทำลายค่ายกลคุ้มเขาระดับ 7 ” ป๋ายหลี่หยวนหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ค่ายกลที่มีคนควบคุม เรียกว่าค่ายผุดชีวี ค่ายกลที่ไม่มีคนควบคุมคือ ค่ายมรณะ
ค่ายกลเหมือนกัน ค่ายมรณะจะทำลายลงไปได้ง่ายกว่าค่ายผุดชีวี
แม้ว่าจะเป็นค่ายผุดชีวี ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ควบคุม ความแข็งแกร่งของผลการฝึกฝนเป็นยังไง ค่ายพิทักษ์เขาระดับ 7 มกุฎยุทธ์เป็นผู้ควบคุม กับจักรพรรดิยุทธ์เป็นผู้ควบคุมความแตกต่างจะห่างกันมากเช่นกัน
เพราะรู้ว่าอาจารย์มกุฎยุทธ์ของสำนักฉางเหอได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถมาเป็นผู้ควบคุมค่ายพิทักษ์เขาได้ ป๋ายหลี่หยวนหลงจึงกล้าพูดว่าเขามีความมั่นใจอย่างยิ่งที่จะทำลายค่ายกลใหญ่นี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...