อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 33

R&R Casino...ออร์แลนโด้เดินตรงขึ้นไปยังห้องชั้นบนสุดที่แพททริกสันและแดเนียลใช้เป็นห้องทำงาน พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอคารอสนั่งจิบไวน์ และดูเอกสารบางอย่างอยู่

“ไง! มีอะไรน่าสนใจเหรอ? ถึงขนาดต้องขัดขวางคนจะทำลูกน่ะ”

“หึๆ ทำทั้งวันทั้งคืนไม่เบื่อบ้างเลยหรือไงวะ” คารอสแขวะก่อนจะส่งเอกสารให้เพื่อนรัก “นี่เอกสารที่ฉันคิดว่านายน่าจะสนใจ”

“ไม่เบื่อว่ะ” ออร์แลนโด้ตอบอย่างไม่สนใจ ก่อนเปิดเอกสารออกมาดูแล้วก็ต้องอึ้งเมื่อเห็น...

“พระเจ้า! นี่มันหุ้นบริษัทของพ่อมิกินี่!” ชายหนุ่มหน้าซีดเผือดไปทันใด‘บ้าจริง! นี่ถ้ามิกิรู้ว่าสมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อและแม่ ถูกป้าแท้ๆ เอามาละลาย ในบ่อนแบบนี้ เธอคงจะเสียใจแน่ๆ โชคดีที่เอามาขายแค่สี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคนอื่นได้ไป สี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็สามารถสั่นคลอนบริษัทได้เหมือนกัน’

ออร์แลนโด้กวาดสายตาอ่านรายละเอียดต่างๆ อย่างรวดเร็ว พลางนึกไปถึงเมื่อวันก่อน ที่ได้ฟังรายงานเรื่องของเธอ หลังจากที่อันโตนีโอ้ให้ไปสืบมา เขาก็รู้สึกหงุดหงิดจนแทบบ้า สั่งคนให้จับตาดูอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิด เพราะมีลางสังหรณ์ว่าทั้งแขไขและคาทอร์ต้องมีอะไรที่ร้ายกาจซ่อนอยู่

“มีข้อแลกเปลี่ยนนิดๆ แกเคยพูดกับพี่คิมไม่ใช่เหรอ เรื่องของมิกิ แล้วพี่คิมก็ตามสืบเรื่องนี้อยู่ แกลองปรึกษาพี่คิมสิ ว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง ฉันว่าถ้ากล้าเอาหุ้นสี่สิบเปอร์เซ็นต์มาขายแบบนี้ อีกหกสิบเปอร์เซ็นต์ที่เป็นของมิกิก็คงจะอีกไม่นาน”

“แกอยากได้อะไรแลกเปลี่ยนล่ะเพชร!” ออร์แลนโด้เอ่ยถาม

“ง่ายๆ แกโทร. ไปชวนพี่คิมมาคุยกันตอนนี้ แล้วฉันจะให้แกเซ็นชื่อเป็นผู้รับซื้อหุ้นแทน” คารอสเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“แกชอบน้องฟ้าเหรอวะ” ออร์แลนโด้มองเพื่อนรักอย่างขำๆ กึ่งสมเพชใจนิดๆ ‘โถๆ นี่มันคงไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงสินะ ถึงมาลงที่จุดนี้ได้’

“เออน่า...พูดมาก! โทร. เร็วกูใจร้อน เอ๊ย! ไม่ใช่ กูแค่อยากรู้ว่าพี่คิม รู้อะไรบ้าง” คารอสตีเนียนทั้งที่เปิดเผยอาการมาตั้งแต่แรก

“เอ้าๆ เห็นแก่ซีซ่าร์แล้วกัน จะได้มีแม่กับเขาซะที ฮ่าๆๆๆ” ออร์แลนโด้เย้า ก่อนจะกดมือถือโทร. หาคามิน

ด้านคามินที่เพิ่งกลับจากทำงาน กำลังจะไปหาข้าวทานก็พอดีกับที่ออร์แลนโด้โทร. มาชวน เลยขับรถตรงมายังกาสิโน สองหนุ่มเองก็รีบสั่งอาหารและเปิดไวน์รอเอาไว้เช่นกัน

ยี่สิบนาทีต่อมา...คามินจอดรถตรงด้านหน้ากาสิโน ซึ่งมีโดโนเวล มายืนรอรับอยู่ และนำทางพาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดที่สองหนุ่มกำลังรอ

“ไงอลัน! เพชร! สบายดีนะ” คามินทักสองหนุ่มอย่างยิ้มแย้ม

“สวัสดีครับพี่คิม/สวัสดีครับ” ทั้งสองเอ่ยทักทายขึ้นพร้อมๆ กัน

“พอดีเลยครับพี่คิม พนักงานเสิร์ฟเพิ่งยกอาหารมาเมื่อครู่ครับ!” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้คามินอย่างเอาใจ

ด้านคารอสก็รีบรินไวน์ให้พี่เมีย เอ๊ย! พี่คิม อย่างเอาใจด้วยเช่นกัน

“มีอะไรกันหรือเปล่า? อลัน! เพชร!” คามินถามอย่างแปลกใจ

“พี่คิมทานข้าวก่อนเถอะครับ” ออร์แลนโด้รีบตักอาหารให้

“ใช่ครับ” คารอสสมทบ ทั้งที่จริงนั้นอยากจะเอ่ยถามถึงบางคนใจจะขาด

“งั้นพี่ขอทานก่อนแล้วกันนะ พอดีหิวข้าวมากเพิ่งเลิกงาน” คามิน ตักอาหารทานอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีสองหนุ่มคอยบริการให้อย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งทานเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น

“เอาละ เริ่มได้เลย!”

“เอ่อพอดีผมอยากจะทราบเรื่อง...”

“พี่คิมครับ! น้องฟ้าสบายดีไหมครับ” คารอสถามอย่างใจร้อน

“ก็สบายดีนะ” คามินแอบขำในใจกับท่าทางของอีกฝ่าย

“เหรอครับ! แล้วน้องฟ้าจะมาเที่ยวอังกฤษอีกเมื่อไหร่ครับ” คารอสยังคงถามเรื่องของฟ้ารดาต่ออย่างสนใจ

ออร์แลนโด้ได้ฟังแล้วถึงกับกลอกตาอย่างเซ็งๆ ‘ตกลงมึงจะโทร. ตามกูออกมาทำไมวะ!’

“อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวถ้าฟ้าโทร. มาพี่จะถามให้นะ” คามินยิ้มเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายชอบน้องสาวของตน

“เอ่อ... แล้ว...” คารอสกำลังจะถามต่อ

“เฮ้ย! แกจะถามเรื่องน้องฟ้าทั้งคืนเลยไหม? กูจะได้กลับไปนอน!” ออร์แลนโด้ประชดอย่างทนไม่ไหว เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักไม่มีท่าทีว่าจะหยุดถาม

“แหม! แกก็พูดเกินไปอลัน” คารอสตอบอย่างรู้สึกเขินๆ

“เอ้าๆ เข้าเรื่องซะที มีอะไรเหรออลัน” คามินเอ่ยยิ้มๆ

“วันก่อนผมให้พีเคตามสืบเรื่องทางบ้านของมิกิ เลยรู้มาว่าป้าของมิกิ ถือหุ้นสี่สิบเปอร์เซ็นต์ในบริษัท รองจากพ่อของเธอที่ถือหุ้นทั้งหมดหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ที่แปลกคือ...ก่อนพ่อกับแม่ของมิกิจะเสียชีวิตสี่วัน ท่านได้โอนหุ้นและทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นชื่อของมิกิ แล้วแขไขก็ทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกดูแลแทนทั้งหมด เพราะมิกิยังเรียนอยู่ ใช่ไหมครับ”ออร์แลนโด้ร่ายยาว

“ใช่! พี่จำได้ว่าตอนนั้นอยากจะจับมิกิแต่งงานด้วยขนาดไหน ไม่ใช่เพราะคิดกับมิกิเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่เป็นเพราะสนิทกันมาแต่เด็ก เลยอยากจะทำให้เธอรอดพ้นจากฝ่ายนั้น การตายของพ่อและแม่มิกิมีข้อสงสัยมากมาย แต่หาหลักฐานอะไรไม่ได้เลยสักชิ้น บางครั้งการที่รู้อยู่เต็มอก...แต่ทำอะไรไม่ได้น่ะ มันเจ็บนะ! ยิ่งตัวเองเป็นผู้รักษากฎหมายด้วยแล้ว บางครั้งก็อยากจะแหกกฎทุกข้อที่มีให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ!”

“เพชรเพิ่งได้ใบโอนขายหุ้นสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของแขไขมาครับ ผมทราบว่าแขไขติดการพนัน แล้วช่วงนี้ก็เสียหนักมาก อีกฝ่ายคงจะอยากถอนทุนคืน” ออร์แลนโด้บอก

“ถ้าถึงขั้นโอนขายสี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ตัวเองมีแล้วละก็ แสดงว่าเงินในบัญชีหมดแล้ว งั้นก็ต้องระวังมิกิให้ดีๆ นะอลัน เพราะรายต่อไปคือมิกิอย่างแน่นอน คนอย่างคุณแขไขรักใครไม่เป็นหรอก เชื่อสิ!” คามินเอ่ยเตือน เพราะเป็นห่วงมิกิดุจดังน้องสาวแท้ๆ ตัวเขาเป็นตำรวจสากล ด้วยอาชีพไม่สามารถกล่าวหาใครโดยไร้ซึ่งหลักฐาน เพราะมันผิดต่อจรรยาบรรณต่อหน้าที่ แต่ในใจลึกๆ เขาเชื่อเหลือเกินว่าพ่อกับแม่ของมิกิถูกฆาตกรรมอำพรางให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ

“ครับ เดี๋ยวผมจะต้องให้มือดีตามประกบมิกิทุกฝีก้าว จริงๆ ตอนนี้ผมก็พยายามเบี่ยงเบนให้เธออยู่แต่ในห้อง ถ้าจะออกไปข้างนอก อย่างไปเที่ยวเล่นหรือซื้อของผมจะไปด้วย” ออร์แลนโด้บอกเจตนาของตัวเอง

“ดีๆ ช่วยกันดู เดี๋ยวพี่จะให้ลูกน้องช่วยสอดส่องแขไขกับสามีให้อีกแรงแล้วกัน!” คามินสนับสนุน

“งั้นเดี๋ยวฉันจะให้เด็กช่วยดูให้อีกแรงนะอลัน” คารอสเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งฟังอย่างเงียบๆ มานาน เพราะตนก็มีสายสืบที่ทำงานแทรกซึมไปแทบทุกที่ด้วยเช่นกัน

ทั้งสามนั่งดื่มและคุยกันในหลายๆ เรื่อง อย่างเรื่องรถบ้าง เรื่องเรือสำราญที่คารอสกับออร์แลนโด้ทุ่มทุนสร้างด้วยกัน และอีกหลายๆ อย่าง จนล่วงเลยเวลามาถึงเจ็ดโมงเช้าของวันใหม่ ออร์แลนโด้ก็ขอตัวกลับก่อน ทิ้งให้คารอสกับคามินดื่มและคุยกันต่อ

หลังจากที่ออร์แลนโด้กลับไป คารอสก็เอ่ยถามเรื่องของฟ้ารดาต่ออีกหลายเรื่อง จนคามินแอบขำในใจ พลางคิดว่าสองหนุ่มเพื่อนซี้ที่ดูจากภาพลักษณ์แล้วนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คารอสดูเป็นผู้ชายสุภาพอบอุ่น อ่อนโยน แต่เขาคิดว่าลึกๆ คารอสเป็นเสือซ่อนเล็บ ที่ชอบอำพรางตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ภายใต้หน้าตาที่หล่อเหลา และหากคารอสเป็นซี้กับไอ้เจ้าชายน้ำแข็งได้ ก็ต้องมีส่วนที่คล้ายกันอย่างแน่นอน ส่วนออร์แลนโด้นั้นออกจะขวานผ่าซาก ตรงๆ แต่จริงใจไม่อ้อมค้อม เวลาโกรธก็คงจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

แต่ที่แปลกก็คือ...เมื่อกี้ถ้าเขาไม่เมาและฟังไม่ผิดไป เขาได้ยินมันบอกว่า... ‘เช้าแล้ว! ผมขอตัวกลับก่อนนะครับพี่คิม ต้องรีบไปทำอาหารเช้าให้มิกิทาน’ ฮึ่ย! เถื่อนๆ แบบนี้เนี่ยนะ? ทำกับข้าวเป็น แค่คิด เขายังขนลุกไม่หายเลย

Scala Villa…ด้านพ่อบ้านดีเด่นกลับมาถึงสกาล่าก็เกือบจะแปดโมง พอกดลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นบนที่เป็นที่พัก ก็รีบเปิดประตูตรงไปยังห้องนอน

พอเขามาก็เห็นแพรณารานอนหลับกับอรองอยู่บนเตียง ออร์แลนโด้เผลอยิ้มกว้างออกมา มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เมื่อก่อน...ห้องนอนของเขามีไว้แค่หลับนอนกับเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่พอมีเธอเข้ามา กลับทำให้ห้องของเขาเปลี่ยนไป และชีวิตนี้...เขาไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนมาเติมเต็มอีก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ...นอนอยู่บนเตียงตรงหน้านี้แล้ว

จุ๊บ! ออร์แลนโด้ก้มลงหอมแก้มคนที่หลับอยู่เบาๆ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปอาบน้ำ

ยี่สิบนาทีต่อมา... เสียงหัวเราะคิกคักของแพรณาราที่ดังแว่วมาเป็นพักๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบอาบน้ำและแต่งตัวออกจากห้องน้ำเร็วกว่าปกติ! พอออกมาก็เห็นสาวเจ้ากำลังเล่นกับอรองอยู่บนเตียง

“ตื่นแล้วเหรอคะ” ออร์แลนโด้เอ่ยถามเสียงหวาน

“ค่ะ พี่อลันกลับมาตอนไหนคะ มิกิไม่เห็นรู้เลย” แพรณาราเอ่ยถามขณะเล่นกับอรองอย่างสนุกสนาน เพราะเจ้าลูกหมาตัวน้อยกระโดดขึ้นจะจูบปากเธอ แต่ไม่ถึงจึงล้มลงบนที่นอนกลิ้งไปมาอย่างน่าขบขัน

“เพิ่งกลับมาค่ะ มิกิจะทานอะไรคะเช้านี้” ออร์แลนโด้เอาใจเมีย

“มิกิอยากทานมาม่าต้มยำแบบนี้ค่ะ” แพรณาราเอ่ยก่อนจะรีบหยิบมือถือที่ข้างเตียงมาเปิดรูปในไลนที่ฟ้ารดาส่งมาให้อีกฝ่ายดู

“เดี๋ยวพี่ทำให้ทานค่ะ ไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลย” ออร์แลนโด้เอ่ยหลังจากที่รับมือถือมาดูรูปผ่านๆ ตา

ห้านาทีต่อมา... แพรณารานั่งรอที่โต๊ะในห้องครัวกับอรอง มองดูออร์แลนโด้ทำมาม่าต้มยำ ที่มีหมูเด้ง ไข่ไก่ ปลาหมึก ปูอัด กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ อัดแน่นอยู่ชามใบใหญ่

‘ไอ้บ้ากามนี่กล้าเอามือของเธอไปจับตรงนั้นของตัวเอง พระเจ้า! เธอยังรู้สึกถึงความอุ่นของมันอยู่เลย’ นานาสบถในใจอย่างโมโห

“นี่แม่คุณ! ที่ตบเนี่ยกลบเกลื่อนความชอบอยู่หรือเปล่าฮะ ทีเมื่อคืนละทั้งจับทั้งคลำทั้งล้วงทั้งดูดสารพัด หึ! พอตื่นมาทำเป็นรับไม่ได้” อันโตนีโอ้ ต่อว่าก่อนจะส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อีกฝ่าย ราวกับสามีกำลังตัดพ้อภรรยา

“กรี๊ดดดด ไม่! ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ๆ” นานาแก้ต่างให้ตัวเองเสียงดังอย่างไม่ยอมรับคำกล่าวหา

“ทำ! คุณอ่อยผมสารพัด แล้วก็ยั่วผมด้วยนานา” อันโตนีโอ้กลอกตาอย่างเซ็งๆ กับท่าทางสะดีดสะดิ้งของสาวเจ้า

“ไม่นะ! ฉันจะอ่อยนายได้ยังไง! ฉะ...ฉันอ่อยผู้ชายโต๊ะข้างๆ ต่างหาก”

“อย่ามาเถียง! ถ้าคุณไม่ได้อ่อยผม แล้วเมื่อคืนเราจะมีอะไรกันได้ยังไงล่ะ หึ! เห็นแบบนี้ผมก็ไม่ได้ง่ายนะขอบอก!” อันโตนีโอ้สวนกลับอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว

“ไม่จริง! นายเข้าใจผิดหรือเปล่า ฉันไม่ได้...ไม่ได้จะ...” นานาพยายามจะให้เหตุผล แต่อันโตนีโอ้ก็ยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากไว้ซะก่อน

“เห็นมะ! คนเรานี่แปลกนะ เวลาอยากได้ มีอารมณ์ก็เป็นอีกแบบพอได้เสร็จแล้ว...เบาตัวแล้ว ก็ทำเป็นจำอะไรไม่ได้ เฮ้อ...ดีนะที่อัดคลิปไว้น่ะจะฟังไหมล่ะ? จะเปิดให้ฟัง จะได้เลิกทำตัวราวกับคนไม่เคยซะที”

นานาได้แต่อ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง ราวกับคนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งพ่วงท้ายด้วยรางวัลแจ็กพอตใหญ่ เป็นหมาสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่หล่อเหลาหนุ่มแน่น แถมยังกัดกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน

“นะ...นายทำแบบนี้ได้ยังไง ไอ้ร็อตไวเลอร์ปากเสีย ฉันยังบริสุทธิ์อยู่นะ ฮือๆๆ” นานาที่อึ้งไปสิบวินาที พอได้สติก็ร้องไห้ด่าทอ เมื่อรู้ว่าสูญเสียสิ่งสำคัญให้คนตรงหน้าไปแล้ว

อันโตนีโอ้มองดูคนที่ยกมือขึ้นกุมใบหน้าร้องไห้ จนลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้เห็นถึงความสั่นไหวของดอกบัวงามที่เขาทั้งดอมดมและดูดกลืนมาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อคืน พลัน! ความรู้สึกหิวกระหายก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง!

“กะ...ก็รู้ว่าบริสุทธิ์ ก็ทำเองกับมือ” ชายหนุ่มยอมรับ พลางดึงสาวเจ้าเข้ามากอดปลอบและลูบหลังให้เบาๆ อย่างรู้สึกหื่น เอ๊ย! รู้สึกผิด

“ไอ้คนเลว! ฮือๆๆ” นานาเงยหน้าขึ้นมาด่าอย่างเจ็บแค้นใจ พร้อมกับร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม

“ชู่ว์ๆ ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องดีใจขนาดนี้ก็ได้ อ๊ากก” อันโตนีโอ้ที่ต้องการจะแหย่ให้สาวเจ้าหยุดร้อง แต่กลับโดนกัดเข้าที่แขนจนจมเขี้ยว

“ฉันเสียใจ! ฉันเสียใจ! ได้ยินไหม ฮือๆๆ” นานาร้องไห้ต่อว่าอย่างโมโหที่อีกฝ่ายยังทำเป็นเล่น ทั้งที่เธอกำลังเสียใจ

“โอเค! คุณเสียใจ แล้วไงล่ะ? มันก็ย้อนเวลาเอาไอ้เยื่อบางๆ นั่นกลับมาไม่ได้อยู่ดี เอางี้แล้วกัน ผมจะรับผิดชอบคุณเอง” อันโตนีโอ้พูดในสิ่งที่ตัวเขาคิดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากที่สอยซิงพิตบูลล์ไปก็ตั้งใจว่าจะรับผิดชอบ...จึงสอยต่ออีกหลายครั้ง โดยไม่ได้ป้องกัน

“แต่ฉันไม่ได้ชอบนาย ฮือๆๆ” นานาท้วงก่อนจะซบหน้าร้องไห้ลงกับอกกว้างของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว

“ผมว่า...ลึกๆ คุณชอบผมนะ ดูอย่างเมื่อคืนสิ!”

“ไอ้บ้า! ฮือๆๆ” หญิงสาวสบถด่าพร้อมกับทุบที่อกหนาไปสองสามทีอย่างโมโห

“โอ๊ย!!” อันโตนีโอ้แกล้งร้องขึ้นราวกับเจ็บปวด

“นายอย่าพูดถึงเรื่องเมื่อคืนได้ไหม! อย่าบอกให้ใครรู้! ได้โปรด...” นานาอ้อนวอนทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรไปมั่ง

“ผมไม่บอกใครหรอก รับรอง!” อันโตนีโอ้รับปากอย่างหนักแน่นพร้อมกับลูบหลังต่อเบาๆ

“งั้นก็ดี! ต่อไปนี้เราไม่รู้จักกันนะ ห้ามทัก ห้ามตีซี้ แล้วก็ห้ามพูดถึง เรื่องเมื่อคืนนี้อีกตลอดชีวิตเลยนะ!” นานารวบรัดพร้อมกับดันตัวออก และเงยหน้าขึ้นมองจ้องตาอีกฝ่ายอย่างต้องการคำยืนยันที่หนักแน่น!

“ไม่! ทำไมทำเหมือนจะตีจากผัวของตัวเองแบบนี้ล่ะ” อันโตนีโอ้ตกใจกับสิ่งที่สาวเจ้าขอ ‘ให้ตายสิ! สงสัยยัยพิตบูลล์ต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ ที่คิดจะชิ่งหนีเขา หึ! ดูทำหน้าเข้าสิ!’

“อย่ามาทำเหมือนนายเสียตัวสิ ฉันต่างหากที่เสียใจและเสียตัว ฉันจะไม่โทษนายไม่โทษใครนอกจากตัวเองที่เมาแล้วขาดสติ ทีนี้นายก็ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน! ปล่อย!” นานาบอกพร้อมกับสะบัดแขนของอีกฝ่ายออก

“ฝันไปซะละยายพิตบูลล์! หึ! อุตส่าห์แสดงความรับผิดชอบ ยังจะมาเล่นตัวอีก งั้นมาทำความรู้จักกันใหม่เผื่อว่าจะคุยกันง่ายขึ้น มานี่เลย!” อันโตนีโอ้โมโหจนหน้ามืดที่สาวเจ้าจะตีจาก ‘หน็อย! เสียทั้งตัวเสียทั้งใจงั้นเหรอ? ’

“ไม่นะ! ปล่อยฉันนะ อะ...อื้อ...” นานาโวยวายได้เพียงครู่ ก็ถูกชายหนุ่มจูบกระชากวิญญาณ ตามด้วยการโซเดมาคอมกินตับไปอย่างต่อเนื่องถึงสามยก จนต่างฝ่ายต่างหลับคาอกกันไปอย่างหมดแรง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ