บ่ายสอง...เป็นพักเวลาทานข้าวของพนักงานกะที่สอง นานารีบเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมจะชิ่งหนี แต่ทว่าอันโตนีโอ้ก็เดินออกจากลิฟต์มาพอดี!
“เรียบร้อยหรือยังครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงหวาน ทำเอาพนักงานที่อยู่ใกล้ๆ หันมามองกันอย่างสงสัย
“อืม!” นานาตอบสั้นๆ รีบเดินออกจากเคาน์เตอร์ตรงไปยังประตูทางออกด้านหน้าทันที อันโตนีโอ้มองตามหลังยิ้มๆ คิดว่าอีกฝ่ายคงจะอายเพื่อนร่วมงานจึงรีบเดินตามสาวเจ้าออกไป
“พระเจ้า! พวกเธอเห็นไหมว่าคุณอันโตนีโอ้ตามยายนั่นออกไปน่ะ” จินนี่เอ่ยถามเพื่อนร่วมงานอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“เห็นสิ! เมื่อตอนเช้าก็คุยกันที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วย เหลือเชื่อชะมัดเลยให้ตายสิ!” โปเซียเอ่ย
“หวังว่ายายนั่นคงไม่ได้อ่อยคุณอันโตนีโอ้ของฉันอยู่หรอกนะ!” บีน่าเอ่ยขึ้นอย่างเคืองๆ เพราะเธออุตส่าห์เฝ้ามองอันโตนีโอ้มานาน แถมยังอ่อยอีกฝ่ายทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ข่าวที่ได้ยินเมื่อเช้าทำเอาเธอไม่มีสมาธิทำงานเลย ‘มือขวาคนสนิทของคุณออร์แลนโด้ จีบพนักงานประชาสัมพันธ์ที่ล็อบบี’
“เธอมีคู่แข่งแล้วบีน่า” โปเซียบอกเพื่อนสาว เพราะเธอคิดว่าทั้งสองคนนั้นต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่ๆ
“ฉันโคตรเกลียดยัยนานาเลย เธออย่ายอมแพ้มันนะบีน่า” จินนี่เอ่ย
“ใช่ๆ เธอห้ามยอมมันนะบีน่า” โปเซียสนับสนุน
“ฉันไม่มีทางยอมมันหรอก คอยดูแล้วกัน!” บีน่าบอกอย่างมุ่งมั่น!
นานาที่เดินออกมาก่อนจนเกือบจะถึงที่จอดรถ ก็หยุดแล้วหันมามองร่างสูงที่เดินตามอย่างเคืองๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ออกมารอที่ข้างนอก เธอเพิ่งจะได้ข่าวว่ายัยบีน่าแอบเล็งอีตาบ้านี่มานาน แถมปกติบีน่าก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าเธออยู่แล้ว และจากที่สังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายเมื่อครู่ ก็ทำให้เธอไม่อยากจะมาทำงานที่นี่ต่อ ไม่ใช่เพราะเกรงกลัวบีน่า แต่เธอเบื่อกับปัญหาที่จะตามมาอีกไม่จบไม่สิ้น
“จะเอายังไง!” นานาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ หลังจากที่คนยิ้มหน้าระรื่นเดินเข้ามาใกล้ๆ
“แหม! ไม่ต้องใจร้อนหรอกเมียจ๋า ยังไงเราก็ได้เคลียร์กันแน่นอน”
“ฉันไม่ใช่เมียนายโว้ย! จะให้บอกอีกกี่ครั้งว่าไม่ใช่ๆ” นานาที่เก็บกดอารมณ์ไม่อยู่ ระเบิดเสียงด่าอีกฝ่ายทันที
“ผมก็บอกคุณแล้วไง! ว่าจะไปทานข้าวก่อนแล้วถึงจะคุย ขึ้นรถเดี๋ยวนี้! อย่าให้ต้องพูดซ้ำนะ” อันโตนีโอ้ตอบเสียงดังไม่แพ้กัน แถมยังขู่ สาวเจ้าให้รู้ว่าตัวเองก็กำลังไม่พอใจเช่นกัน
ชายหนุ่มเปิดประตูรถให้ แล้วเดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ จากนั้นก็กดสตาร์ตรถรอ แต่สาวเจ้าก็ยังไม่ยอมขยับเข้ามานั่งในรถ เขาจึงบีบแตรรถกระตุ้น
ปริ๊น!!!!!
“เป็นบ้าหรือไงนะ! ไอ้ร็อตไวเลอร์นี่!” นานาสบถด่า ก่อนจะรีบเข้าไปนั่งในรถด้วยใบหน้าบึ้งตึง พร้อมกับปิดประตูเสียงดังอย่างไม่พอใจ
‘หึ! ด่าเราว่าไอ้ร็อตไวเลอร์สินะ เดี๋ยวเถอะยายพิตบูลล์ กลัวใครจะรู้ว่าออกมากับเขาหรือไงถึงได้อารมณ์เสียขนาดนี้ อ๊ะ! หรือว่ายัยนี่จะแอบชอบใครอยู่ ถึงทำท่าทางอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาตอนไปรับที่หน้าเคาน์เตอร์’ อันโตนีโอ้คิดเลยผ่าน...จากสิ่งที่นานาคิดไปไกล จนกลายเป็นความหึงหวงเข้ามาแทนที่ กระชากรถออกไปอย่างแรงจนพนักงานในบริเวณนั้นต่างหันมามองกันอย่างตกใจ
ยี่สิบนาทีต่อมา... 1929 Condo
คนที่เอาแต่เงียบมาตลอดทางรู้สึกว่าทางที่อีกฝ่ายขับรถพามามันคุ้นๆ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถาม จนกระทั่งรถแล่นเข้ามาจอดที่ด้านหน้าคอนโดฯ นานาจึงหันมามองเขาอย่างงงๆ เพิ่งรู้สึกตัว! ว่าเธอมาอยู่หน้าถ้ำเสือเข้าให้แล้ว
“นี่นายพาฉันมาที่คอนโดฯ ของนายทำไมฮะ!”
“ก็มาทานข้าวไง” อันโตนีโอ้ตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ทานข้าวบ้าอะไรที่นี่ล่ะ” นานาโวยวายอีกครั้งอย่างโมโห
“นี่อย่าเรื่องมาก จะลงมาดีๆ หรือจะให้ลากลงมา” อันโตนีโอ้หันไปต่อว่า พร้อมกับเปิดประตูให้อีกฝ่าย
“ฉันไม่ลง!” นานาเอ่ยเสียงแข็ง จ้องมองเขาด้วยสายตาขวางๆ
“โอเค! ไม่ลงก็ได้ ตามใจนะ! แต่ถ้าผมขึ้นไปบนรถอีกครั้ง ผมไม่รับรองว่าอะไรจะเกิดขึ้น จริงๆ แล้วเซ็กซ์ในรถก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ว่าไหมนานา!” อันโตนีโอ้ทำท่าจะเข้าไปในรถอีกครั้ง
“ยะ...อย่าขึ้นมานะ ไปคุยที่ล็อบบีได้ไหม” นานาตอบเสียงสั่นๆ หลังจากที่เจออันโตนีโอ้หักหาญน้ำใจไปคราวก่อน ถึงกับกลัวอีกฝ่ายขึ้นมาจับใจ ‘ไอ้บ้านี่ยิ่งหื่นๆ อยู่ด้วย เกิดทำอย่างว่าขึ้นมาจริงๆ เธอไม่อายแย่เหรอ?’
“ไม่! ที่ห้องของผมเท่านั้น โอกาสสุดท้ายนะ เลือกมา!” อันโตนีโอ้ยืนยันเสียงแข็ง
“แล้วทำไมต้องคุยบนห้องนายล่ะ คุยข้างล่างไม่ได้หรือไง”
“นี่คุณ! ตอนแรกผมก็กะจะคุยดีๆ หรอกนะ แต่ตอนนี้เริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมานิดๆ แล้ว และเวลาที่ผมอารมณ์เสียนี่ ผมก็อยากจะระบายออกกับเรือนร่างของใครสักคน แล้วคุณคือคนที่อยู่ใกล้ผมที่สุดตอนนี้” อันโตนีโอ้เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเขาไม่อยากจะเจรจาต่อรองใดๆ อีกแล้ว พร้อมกับทำท่าทางที่นานาเห็นแล้วถึงกับใจคอสั่นขึ้นมาทันใด!
“โอเค! ฉันเข้าใจแล้ว แต่ต้องสัญญามาก่อนว่าจะไม่ทำอะไรฉันอีก”
“สัญญาก็ได้ ลงมาซะทีสิ! ผมหิวแล้ว” อันโตนีโอ้รับคำเพื่อตัดรำคาญ
“ห้ามทำผิดสัญญาเด็ดขาดนะ!” เธอเอ่ยย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ครับคุณนานา เชิญเสด็จซะทีเถอะครับ ก่อนที่ผมจะโมโหหิวแล้วหน้ามืด เผลอจับคุณกินแทนข้าวในรถนี่ซะก่อน!” อันโตนีโอ้กลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเร่งอีกฝ่ายแกมขู่สมทบอีกครั้ง
“ไอ้หื่นเอ๊ย!” นานาเผลอสบถด่าออกมาเบาๆ อย่างห้ามไม่ได้ ก่อนจะรีบถือกระเป๋าลงรถไป ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำอย่างที่ขู่เธอจริงๆ
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ!” อันโตนีโอ้ที่กำลังจะหันหลังเดินได้ยินแว่วๆ เหมือนกับว่าอีกฝ่ายกำลังด่าตน
“เอ่อ...ฉัน...ฉันว่าหน้าคุณเหมือนคนยังไม่ตื่นนอนเลย” นานาตกใจที่อันโตนีโอ้หันกลับมาถาม จึงรีบกลบเกลื่อนแทบไม่ทัน ‘ไอ้บ้านี่หูดีชะมัด!’
“ใช่! ก็ผมยังไม่ได้นอนน่ะสิ” อันโตนีโอ้ตอบพลางคิดในใจ ‘ยัยนี่รู้ได้ไงวะ หรือว่า...ลึกๆ จะแอบสนใจเราอยู่ นี่แหละนะที่เขาบอกว่าผู้หญิงมักจะปากไม่ตรงกับใจ’ เขาส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะเดินไปดึงมือของสาวเจ้า ให้ออกเดิน
“นี่ไม่ต้องจับมือเลยนะ ต่างคนต่างเดินสิ” นานาต่อว่าหลังจากที่ถูกอันโตนีโอ้ดึงมือไปกุมไว้ พร้อมกับพยายามดึงมือกลับ แต่ก็ไม่เป็นผล
“ทำไม! ต้องอยู่รอให้นายอนุญาตให้กลับก่อนหรือไง ฉันถึงจะกลับได้” นานาต่อว่าอีกฝ่ายกลับอย่างกวนๆ
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องที่คุณจะกลับบ้าน แต่...เลิกทำเหมือนไม่ได้สนใจตัวผมสักทีเถอะ ขอร้อง!” อันโตนีโอ้เอ่ยด้วยท่าทีสบายๆ
“นี่นายพูดบ้าอะไรเนี่ย!” นานาโวยวายเสียงดังอย่างเริ่มจะทนไม่ไหว
“ก็เรื่องที่คุณอ่อยผมยังไงล่ะ อย่ามาทำเนียนเลยนานา ยอมรับมาซะเถอะ ผมรอฟังคุณสารภาพอยู่นะ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดี และนั่นทำให้นานาแทบจะกรีดร้องกับความมึนของเขาที่เอาแต่พูดจาไม่รู้เรื่อง
“นี่นายต้องกินยาหลังอาหาร แล้วยังไม่ได้กินใช่ไหมฮะ! ฉันเริ่มจะหมดความอดทนกับนายแล้วนะ”
“สิ่งเดียวที่ผมจะต้องทานตอนนี้ คือของหวานที่เสิร์ฟบนเตียงน่ะนานา คุณจะทานกับผมไหมล่ะ” อันโตนีโอ้หยอกอย่างอารมณ์ดี ที่เห็น หญิงสาวเริ่มจะทนไม่ไหวขึ้นมา
“ถ้ายังพูดกันแบบนี้ฉันจะกลับละ เชิญนายบ้าไปคนเดียวเถอะ” นานาหันไปคว้ากระเป๋า เตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวสินานา! คุณทิ้งนี่ไว้ให้ผม มันอยู่ใต้หมอนที่ผมหนุนวันนั้น แบบนี้ไม่เรียกว่าอ่อยให้ตามหา แล้วเขาเรียกว่าอะไรล่ะหืม! คนดี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง แล้วหยิบแพนตี้ลายลูกไม้สีแดงออกมาชูให้สาวตรงหน้าดู
“กรี๊ดดดดด เอาคืนมานะไอ้โรคจิต!” นานาส่งเสียงกรีดร้องอย่างตกใจ หลังจากเห็นของที่อีกฝ่ายล้วงออกมาโชว์ต่อหน้า จึงทิ้งกระเป๋าแล้วกระโจนเข้าไปแย่งแพนตี้ตัวโปรดของเธอคืน
“แหม! ระลึกชาติได้เลยนะนานา ฮ่าๆๆ” อันโตนีโอ้หัวเราะชอบใจที่เห็นสาวเจ้าทำหน้าเหวอ
“เอาคืนมาเลยนะ ไอ้ร็อตไวเลอร์โรคจิต!” นานาพยายามแย่งคืน แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะอีกฝ่ายสูงกว่าเธอเยอะ เลยได้แต่กระโดดเหยงๆ ในขณะที่อันโตนีโอ้ชูขึ้นสูงแล้วสลับมือไปมาอย่างสนุก
“อ๊ะๆ พูดกับผัวไม่เพราะเลย ขอโทษมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” อันโตนีโอ้เชื่อว่าสาวเจ้าคงกำลังอายจนแทบจะสติแตก ‘ตลกชะมัด! ยัยนี่อายจนหน้าแดงเลย’
“ไอ้บ้า! ฉันทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย! จะคืนให้ดีๆ ไหมฮะ” นานาที่ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งโมโห ถามเสียงปนหอบ หลังกระโดดแย่งแพนตี้ตัวโปรดไปมาจนเหนื่อย
“โอเคๆ คืนก็ได้ แต่ว่า...มาล้วงเอาเองนะ!” อันโตนีโอ้ดึงขอบกางเกงด้านหน้าของตัวเอง แล้วหย่อนแพนตี้สีแดงของนานาลงไป ก่อนจะขยำๆ ตรงเป้าไปมาสองสามที ราวกับต้องการคลุกเคล้าให้กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน
“กรี๊ดดดดด อย่าอยู่เลยไอ้ร็อตไวเลอร์โรคจิต!” หญิงสาวกรีดร้อง และเข้าไปทุบตีอีกฝ่ายอย่างโมโห ไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรทุเรศๆ แบบนี้ ‘ไอ้บ้านี่เป็นสังคังหรือไงนะ ถึงได้ขยำซะขนาดนั้น’
“มันจะได้คุ้นเคยกันยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ” เขาบอกเสร็จก็รวบนานาขึ้นแล้วอุ้มเข้าไปในห้องนอนอย่างมีจุดมุ่งหมาย
“กรี๊ดดดด นี่นายพาฉันมาในห้องนอนทำไมฮะ” นานาต่อว่าพร้อมกับดิ้นไปมา แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะอันโตนีโอ้รวบเอาไว้แน่น
“ก็มากินของหวานไงจ๊ะแม่สาวน้อย!” คนหื่นเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาแพรวพราวไปให้นานา ทำเอาคนที่ถูกเรียกว่าแม่สาวน้อยขนลุกซู่ไปทั้งตัวอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน อื้อ...” เธอถูกคนหื่นจูบปิดปากทันทีอันโตนีโอ้วางนานาลงบนเตียง แล้วตามขึ้นไปทาบทับ และจุดไฟปรารถนาขึ้นทันที หญิงสาวขัดขืนได้สักพักก็คล้อยตาม และตกเป็นของเขาอีกครั้ง! ไม่สิ! ครั้งแล้วครั้งเล่าต่างหาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ