"ท่านอ๋อง โปรดใจเย็นเถิด การที่ท่านทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้ความเจ็บปวดบนใบหน้าทวีมากขึ้น" มนุษย์เราล้วนจะใส่ใจเรื่องของตัวเองเป็นอันดับแรก เมื่อได้ยินเฟิ่งชิงเฉินกล่าวเช่นนั้น ซู่ชินอ๋องก็รู้สึกว่าใบหน้าของตนเจ็บไปมากกว่าเมื่อครู่ ยังดีที่หวังจิ่นหลิงก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาช่วยพูดโน้มน้าวใจให้ซู่ชินอ๋องสงบสติลง
"ท่านอ๋อง โปรดนั่งรอสักครู่เถิด ชิงเฉินจะไปหยิบยามาเดี๋ยวนี้" เมื่อกล่าวจบก็ขยิบตาให้กับหวังจิ่นหลิง เมื่อได้รับการตอบกลับจากหวังจิ่นหลิงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินไม่รอให้ซู่ชินอ๋องเห็นด้วยก็รีบวิ่งออกไปทันที
บัดนี้ซู่ชินอ๋องช่างเจ็บปวดเหลือเกิน จึงได้ฟังสิ่งที่พวกเขาโน้มน้าว
รถม้าจอดอยู่ด้านในจวนอ๋อง ดังนั้นจึงสะดวกมาก เฟิ่งชิงเฉินวิ่งไปตลอดทางเพราะเกรงว่าหวังจิ่นหลิงไม่อาจเกลี้ยกล่อมซู่ชินอ๋องได้
นางกระโดดขึ้นไปบนรถม้าโดยไม่สนใจภาพพจน์ตนเอง ท่าทางอันไม่สง่างามและดูกระโดกกระเดก ถูกตี๋ตงหมิงที่วิ่งมาบริเวณนั้นพอดีเห็นเข้า เนื่องจากผู้ฝึกวิทยายุทธล้วนมีความสัมผัสที่ว่องไว เมื่อตี๋ตงหมิงได้ยินเสียง เขาจึงกระโดดขึ้นไปบนกำแพงและเห็นภาพตรงหน้า
แม่นางผู้นี้ช่างห้าวหาญเหลือเกิน ตี๋ตงหมิงปาดเหงื่อที่หน้าผากของเขาและชื่นชมหวังจิ่นหลิง แม่นางที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่รู้ว่าเขาชื่นชอบไปได้อย่างไร
แข็งแกร่งก็ยังไม่พอ แต่ในใจของแม่นางผู้นี้เห็นได้ชัดว่ามีเสด็จอาเก้าอยู่ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่มาที่จวนซู่ชินอ๋องหรอก
อาการปวดใบหน้า ตามการรักษาของแพทย์ตะวันตกคงใช้ได้เพียงยาคาร์บามาซีปีนในการบรรเทาอาการเจ็บปวดเท่านั้น หากต้องการรักษาจากต้นเหตุต้องรักษาจากแรงดันหลอดเลือดฝอย
เฟิ่งชิงเฉินกระโดดขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบกระเป๋ายาอัจฉริยะเพื่อนำยาแก้ปวดออกมา ตอนแรกตั้งใจจะหยิบไปหลายเม็ด แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเสด็จอาเก้าจะให้นางนำของไปให้อวี่เหวินหยวนฮั่ว จึงได้วางมันกลับไป
ดูจากสถานการณ์นี้แล้ว หากไม่มีเหตุมีผลล่ะก็ซู่ชินอ๋องคงจะไม่ปล่อยให้นางกลับจวนแน่
เฟิ่งชิงเฉินกำยาแก้ปวดเอาไว้แล้วกระโดดลงจากรถม้า
ตี๋ตงหมิงโชคดีเหลือเกินที่ได้เห็นท่าทางอันกระโดกกระเดกของเฟิ่งชิงเฉินอีกครั้ง
"ต้องยอมรับว่าทักษะของนางค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าสตรีทั่วไปที่เป็นคุณหนูในจวนใหญ่" ตี๋ตงหมิงกระโดดลงมาจากกำแพงแล้ววิ่งต่อ
เฟิ่งชิงเฉินรีบวิ่งกลับไปที่ห้องนั้นอีกครั้ง พบว่าอาการโกรธของซู่ชินอ๋องบรรเทาลงมากแล้ว นางแอบยกนิ้วโป้งให้แก่หวังจิ่นหลิงด้วยความชื่นชม
หวังจิ่นหลิง ชายหนุ่มผู้นี้มีความสามารถทำให้ผู้ที่กำลังโมโหสงบสติลงได้ดีทีเดียว
เฟิ่งชิงเฉินยื่นยาเม็ดไปให้แก่ซู่ชินอ๋องแล้วกล่าวว่า "ท่านอ๋อง จะให้หมอมาตรวจยาก่อนหรือไม่"
"นี่คือยาอะไร?" ซู่ชินอ๋องมองไปยังเม็ดยาสีขาวด้วยท่าทางสงสัย
"เป็นยาที่ชิงเฉินปรุงขึ้นมาเอง มีคุณสมบัติพิเศษในการระงับความเจ็บปวด ในวันนี้ได้เดินทางไปรักษาอาการให้ฮูหยินของหมอซุนมา ดังนั้นจึงได้ใส่เอาไว้ในกระเป๋าสองเม็ด เมื่อตอนกลางวันให้ซุนฮูหยินรับประทานไปแล้วหนึ่งเม็ด" ที่จริงแล้วเฟิ่งชิงเฉินกำลังโกหก
ยาที่ซุนฮูหยินใช้เป็นเพียงแค่ยาระงับความเจ็บปวดธรรมดา ในขณะที่ของซู่ชินอ๋องคือยาคาร์บามาซีปีน ซึ่งเป็นยาออกฤทธิ์ต่อประสาท ไม่ควรใช้หากไม่ได้รับการยืนยันจากแพทย์
แต่ที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวเช่นนั้น เพื่อต้องการให้ซู่ชินอ๋องวางใจ
"เอาเถอะ ดูจากท่าทางแล้วเจ้าก็ไม่กล้าจะทำร้ายข้าหรอก" ซู่ชินอ๋องหยิบยาเม็ดขึ้นมาแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา อาจเป็นเพราะเขากินยาจนเป็นความเคยชินแล้ว ยังไม่ทันได้ลิ้มรสอย่าก็กลืนมันลงไปเสียสิ้น
"ยาเม็ดนี้สะดวกนัก" ซู่ชินอ๋องพยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว อีกทั้งได้ยินหวังจิ่นหลิงโน้มน้าวใจ ซู่ชินอ๋องก็ยิ่งรู้สึกชื่นชอบเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้น ตอนที่เขาโมโหนั้นมีไม่กี่คนที่สามารถสงบนิ่งกับอารมณ์ของเขาได้
เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะออกมาเบาๆ นางไม่ได้ใช้โอกาสนี้เอาอกเอาใจเขา ยานี้ไม่ได้ให้ผลทันที เฟิ่งชิงเฉินคาดว่าการที่มีความเจ็บปวดบนใบหน้า ใช้ทักษะฝังเข็มก็น่าจะพอช่วยได้บ้าง ตำแหน่งเหล่านั้นนางจำได้เพียงแต่นางฝังเข็มไม่เป็น
เมื่อพบว่าซู่ชินอ๋องสงบอารมณ์ลงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงได้เอ่ยปากแนะนำให้เขาเชิญหมอหลวงเข้ามาฝังเข็มให้
"เจ้าเป็นคนดีนัก" ซู่ชินอ๋องกล่าวออกมาอย่างเย็นชา ไม่แสดงให้เห็นถึงความโมโหหรือโกรธแต่อย่างใด
"ชิงเฉินเพียงหวังว่าท่านอ๋องจะมีความเจ็บปวดน้อยลง" เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าไม่ว่าซู่ชินอ๋องจะตกลงหรือไม่ก็ตาม นางก็ควรรักษาท่าทางอันสงบเอาไว้ ไม่ควรจะทำท่าทางโอ้อวดเนื่องจากตนหาสาเหตุในการเจ็บป่วยของซู่ชินอ๋องได้
"เป็นเพราะท่านอ๋องมีเทพเจ้าคอยคุ้มกัน ชิงเฉินไม่กล้ารับคุณงามความดีนี้หรอกเพคะ" เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
นางคิดไม่ถึงว่าผลของการฝังเข็มจะดีและรวดเร็วเพียงนี้
"ฮ่าๆๆ เจ้าอย่าได้ถ่อมตนไปเลย ข้าไม่ใช่คนที่ไม่รู้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด" หลังจากที่ความเจ็บปวดถูกบรรเทาลง ซู่ชินอ๋องก็ดูร่าเริงขึ้นมาก เขาเหลือบมองเห็นหมอหลวงที่นั่งตัวสั่นเทา ซู่ชินอ๋องก็ไม่ได้ทำท่าทางโหดเหี้ยมเหมือนกับจะกินอีกฝ่ายหนึ่งเข้าไปเช่นเมื่อครู่ เพียงเอ่ยถามด้วยความเยือกเย็นว่า "บัดนี้เจ้ามีสิ่งใดจะกล่าวอีกหรือไม่"
ตุ้บ……
หมอหลวงคุกเข่าลงไป "เป็นเพราะกระหม่อมมีความรู้ไม่มากพอ ขอท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย"
"ไว้ชีวิตเจ้าหรือ? ฟันของข้ามากมายขนาดนั้นที่ต้องสูญเสียไป เจ้าจะให้ข้าไว้ชีวิตเจ้าอย่างไร!" เมื่อนึกถึงฟันที่ถูกถอนไปจนเกือบสิ้น ซู่ชินอ๋องก็อดไม่ได้ที่อยากจะฆ่าพวกเขา แต่เมื่อนึกถึงการโน้มน้าวใจของหวังจิ่นหลิง ในที่สุดเขาก็ถอดใจ
"เฟิ่งชิงเฉิน เมื่อครู่ที่เจ้าอ้อนวอนร้องขอเพื่อพวกเขา ข้าเห็นแก่เจ้าที่สามารถหยุดอาการปวดฟันของข้าได้ ข้าจะให้โอกาสแก่เจ้าบอกวิธีจัดการพวกเขามา หากข้าพอใจจะไม่ฆ่าพวกเขา"
"เอ่อ……"
นี่มันช่างน่าอึดอัดใจเหลือเกิน เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหดหู่
ซู่ชินอ๋องผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ทำไมจึงทำให้นางเป็นคนเลวขึ้นมาเล่า?
แต่ไม่ว่าอย่างไร หมอหลวงเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้วก็จะโทษนาง
นางรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ได้ แต่ก็จะต้องถูกลงโทษ การลงโทษนี้ก็เพื่อทำให้ซู่ชินอ๋องผ่อนคลายความโกรธลง เช่นนั้นคงไม่ง่าย
หากนางไม่อาจช่วยชีวิตของอีกฝ่ายหนึ่งเอาไว้ได้ นั้นก็เท่ากับว่านางฆ่าพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...