ฮ่อฉวนสือผลักอีกคนออกไปอย่างไร้ปราณีและคิดจะออกจากที่นี่ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
มู่หวั่นโจวก้ามตามไปกอดเขาไว้อย่างร้อนใจ "ฉันกินยาแล้ว คุณอยากจะไปจริงๆเหรอ ฉวนสือ ถ้าคุณจากไปแล้วฉันต้องทำยังไง อีกทั้งคุณก็คงไม่สะดวกที่จะอธิบายกับทางตระกูลมู่"
ทันทีที่ยาออกฤทธิ์ เธอก็เริ่มพูดติดๆขัดๆ สายตาพร่ามัว
สัมผัสได้ถึงอันตรายในดวงตาของฮ่อฉวนสือและเขาก็ทีละคำอย่างชัดเจน "หนานสือ"
หนานสือที่อยู่ตรงประตูเดินเข้ามาเองก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
"ไปหาผู้ชายมา"
หนานสือตกตะลึง มู่หวั่นโจวเป็นลูกสาวของบ้านตระกูลมู่ ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลมู่และตระกูลฮ่อก็ดีมาตลอด หากเกิดเรื่องกับมู่หวั่นโจว เกรงว่าท่านประธานก็ต้องลำบากแน่
"ยังไม่รีบไปอีก?"
เมื่อมู่หวั่นโจวได้ยินที่ฮ่อฉวนสือพูด ก็รู้สึกเพียงนิ่งค้างทั้งยังหน้าซีด
"ฉวนสือ คุณจะทำกับฉันแบบนี้จริงๆเหรอ?"
ตอนนี้เธอกินยาไปแล้ว แค่ชายคนนี้ยื่นมือออกมาอีกนิด พวกเขาก็มีเรื่องราวที่สวยงาม เธอหน้าตาสวย พื้นฐานตระกูลดีและมีการศึกษาสูง หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงจะแทบรั้งเธอไม่ไหว แต่ผู้ชายคนนี้กลับเมินเฉย
ไม่เพียงแค่เมินเฉยแต่เขายังเอาโอกาสนี้ให้คนอื่นอีกด้วย!
เธอรู้สึกกลัว จู่ๆก็เข้าใจว่าในใจผู้ชายคนนี้ไม่มีเธออยู่เลย ไม่แม้แต่นิดเดียว
แต่ผลของยาในร่างกายกลับแผลงฤทธิ์ ไม่ว่ายังไงเธอก็มีอะไรกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้
"ฉวนสือ ฉันขอร้อง ได้โปรดส่งฉันกลับบ้าน..."
เธอกำแขนเสื้อของเขาแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและเกือบจะไม่มีเสียง
ฮ่อฉวนสือกลับลูบมือของเธอนิ่งๆ "ฉันช่วยคุณ แต่เพราะคุณโกหกฉันว่าคุณมีสิ่งที่ฉันต้องการ ไม่แค่โกหก แต่ยังเกือบจะฆ่าฉัน มู่หวั่นโจว ฉันไม่ไล่ล่าคุณก็ดีแค่ไหนแล้ว"
มู่หวั่นโจวกลัวแล้วจริงๆ รองไห้จนตาบวมแดง แต่เพราะคุณสมบัติของยา คำพูดของเธอเลยกลายเป็นเสียงครวญครางแห่งความอัปยศแทน
"ฉวนสือ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉัน...ฉันก็กลัวที่จะตายในเงื้อมมือของคนพวกนั้น ฉันเลยต้องหลอกคุณ ฉันได้ยินมาว่าคุณให้คนไปหาสร้อยข้อมือ เลยบอกคุณไปแบบนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าการอยากให้คุณช่วย ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะกลายเป็นระเบิดที่เกือบจะฆ่าคุณ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ฉันผิดเอง ฉันขอร้องให้คุณส่งฉันกลับบ้าน ฉันไม่อยากอยู่กับผู้ชายคนอื่น ฉวนสือ ฉันขอร้อง..."
ขณะนี้มู่หวั่นโจวไม่มีศักดิ์ศรีและสติก็เริ่มพร่ามัว
ฮ่อฉวนสือเดินออกจากห้องด้วยสายตามืดมน "โทรหากงมู่ป๋าย เขาน่าจะดีใจที่ได้มา"
หนานสือที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าอย่างรวดเร็วและรีบบอกกงมู่ป๋าย
ในจิงตูจะมีใครบ้างไม่รู้ว่ากงมู่ป๋ายชอบมู่หวั่นโจว และคงไม่มีวันเปลี่ยน เรื่องแบบนี้คงจะยินดีมาก
กงมูป๋านที่ไม่ได้ออกไปไหน สูบบุหรี่อยู่ชั้นล่างของโรงพยาบาลอยู่ตลอด เขาเจ็บใจ หดหู่ ชายชาตรีที่ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำ
พอได้รับสายจากหนานสือ เขาก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนแบบไม่คิดชีวิต เห็นใบหน้าเฉยเมยของฮ่อฉวนสือเขาก็ยกมือจะเข้าไปต่อย
ฮ่อฉวนสือคว้ากำปั้นของเขาด้วยมือเดียว ทั้งคิ้วขมวดล "ถ้ายังไม่เข้าไปอีก เธออาจตาย"
ยานั่นเป็นกงมู่ป๋ายที่หามา เป็นเขาหุ้นบาร์ ยาที่เขาเอามาเป็นแค่ของเด็กเล่นกัน พอได้ยินมู่หวั่นโจวทนไม่ได้ เขาก็เปิดประตูเข้าไปอย่างไม่ลังเล ฮ่อฉวนสือก็เดินจากไป
"หวั่นโจว หวั่นโจวเธอเป็นยังไงบ้าง ฉันจะเรียกหมอให้ ไม่ต้องกลัวนะ"
เมื่อเห็นมู่หวั่นโจวนอนนิ่งกับพื้น กงมู่ป๋ายก็ตกใจจะลุกไปกดกริ่ง แต่กลับโดนมู่หวั่นโจวจับแขนเสื้อไว้
"เขาให้คุณมาเหรอ?"
ใบหน้าของมู่หวั่นโจวดูประชดแถมยังหอบหนัก
กงมู่ป๋ายรู้ว่าเธอลำบากก็ค่อยๆลดตาลง "ฉันมองเธอแบบนี้ไม่ได้ หวั่นโจว เธอรีบได้สติเถอะ ถ้าเขาชอบเธอสักหน่อย เขาอาจจะชอบเธอ หรือมีโอกาสที่จะชอบเธอ ฉันก็ไม่ชวนเธอทำแบบนี้ เธอเป็นความภาคภูมิใจ ทำไมต้องทำร้ายตัวเองขนาดนี้ด้วย"
มู่หวั่นโจวเกลียด เกลียดจนดวงตามีร่องรอยแดงก่ำ
เธอมองไปที่กงมู่ป๋าย มุมปากกระตุกโค้ง "มู่ป๋าย คุณรักฉันมากใช่ไหม?"
"ใช่ ฉันรักเธอ หวั่นโจว"
"จะจืดจางไหม?"
"ไม่! ฉันจะรักเธอตลอดไป!"
กงมู่ป๋ายอีกนิดจะสาบานกับฟ้า แต่ทันทีที่เขายกมือขึ้นเขาก็ถูกเหวี่ยงลง
"โอเค ฉันเชื่อคุณ มู่ป๋าย ฉันจะให้ตัวเองกับคุณ วันหลังคุณให้ชีวิตคุณกับฉันนะ ได้ไหม?"
ในหัวของกงมู่ป๋ายตะลึงไปในทันทีและหายใจถี่ขึ้น
"หวั่นโจว เธอพูดจริงเหรอ?"
สติสุดท้ายของมู่หวั่นโจวหายไปก่อนกดจูบเขาอย่างอ้อยอิ่ง
กงมู่ป๋ายรีบดึงผ้าห่มบนเตียงมาคลุมเธอไว้ อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ฉวนสือ ฉันรักคุณ อย่าหยุด"
มู่หวั่นโจวเหมือนจะสูญเสียสติไปแล้ว เรียกสิ่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุด แต่กงมู่ป๋ายกระตุกยิ้มอย่างขมขื่นแล้วกอดเธอไว้แน่น
สือฮว่าที่เดินมาถึงหน้าประตูห้องก็ได้ยินประโยคนี้พอดี
เธอที่อยากจะเคาะประตูก็หยุดทันที พวกเขากำลัง...
ทันทีที่ความคิดนี้ออกมา ข้างในก็มีเสียงของชายหญิงกำลังพัวพันออกมา เธอเหมือนรู้สึกเหมือนเป็นเสียงฟ้าผ่า
"ฉวนสือ ฉันรักคุณ รักคุณเสมอ..."
คำพูดที่ชวนหน้าแดงและใจเต้นของมู่หวั่นโจวยังคงดังมาจากข้างในและยังมีเสียงคำตอบที่คลุมเครือของชายคนนั้น เสียงต่ำจนได้ยินไม่ชัด
ฮ่อซือหนานนั่งอยู่ข้างๆไม่ขยับไปไหน ไข้สูงเป็นเพราะพี่กับมู่หวั่นโจวเหรอ?
เขารู้ว่าคงไม่ใช่พี่เขาที่มีอะไรกับมู่หวั่นโจว เสียงนั่นเข้าคุ้นเคยดี นั่นคือกงมู่ป๋าย แต่ว่าเขาไม่ได้บอกสือฮว่าและปล่อยให้สือฮว่าเข้าใจผิด
ผู้หญิงคนนี้ดูเย็นชา ที่แท้ก็ชอบซ่อนทุกอย่างไว้ในใจ
เขายื่นมือออกไปหยิบทิชชู่ด้านข้างมาเช็ดเหงื่อของเธอ หากแต่ก่อนเขาคิดทบทวนพฤติกรรมของเธอ เขาก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับเธอ
"นายน้อยฮ่อ คุณผู้หญิงคนนี้ไข้ขึ้นสูงอาจเกิดจากความวิตกกังวล หลังจากกินยาไปแล้วไข้ก็จะลดลง อาจต้องมีคนคอยเฝ้าดู นี่เป็นยากิน วันละสามครั้งครับ"
หมอวางยาลงและจากไปอย่างเงียบๆ
ห้องนั่งเล่นกลับมาเหลือเพียงสือฮว่าที่หมดสติและฮ่อซือหนานที่ยังตื่นอยู่เท่านั้น
ฮ่อซือหนานหยิบบุหรี่ออกมา กำลังจะจุดไฟ แต่เมื่อเขาเห็นเธอ เขาก็ค่อยๆวางมันลง
เขายกมือ อยากจะทัดผมให้เธอ กลับมีชายคนหนึ่งเดินลงบันไดมาอย่างช้าๆ
ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าสีดำ ดวงตาของเขาก็สบเข้ากับเขา
"นี่คือผู้หญิงของฮ่อฉวนสือ คุณควรใส่ใจกับตัวตนของคุณ"
ฮ่อซือหนานชักมือกลับ กระตุกยิ้มมุมปาก "ตัวตนเหรอ? ฉันสนใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"นายน้อย คุณต้องยั้งคิด ถึงคุณจะอยากได้ผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่เวลา"
ฮ่อซือหนานลดสายตาลงและมองไปที่สือฮว่า "ฉันไม่อยากทำลายเธอ"
"ผู้หญิงมักไม่ได้เรื่อง!"
ชายคนนั้นโกรธและชักปืนออกจากเอวของเขาและเล็งไปที่ขมับของสือฮว่า "ถ้าผู้หญิงคนนี้ทำให้จิตใจของคุณวุ่นวาย งั้นก็เก็บไว้ไม่ได้!"
บรรยากาศตึงเครียด แต่นอกประตูกลับมีเสียงของคนรับใช้ เป็นฮ่อฉวนสือที่มา
ฮ่อซือหนานมองไปที่ชายในชุดดำอย่างรวดเร็ว "ไปซ่อน"
ชายชุดดำเก็บปืนแล้วเดินขึ้นชั้นสอง
ทันทีที่เขาจากไป ประตูก็ถูกฮ่อฉวนสือเปิดออก
ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งมาจากนรก บรรยากาศมืดมิดรอบตัวเขาราวกับผู้ส่งสารจากนรกที่ถือเคียวแห่งความตายอย่างไรอย่างนั้น
ฮ่อซือหนานยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและชี้ไปที่สือฮว่า "มาหาเธอเหรอ?"
ฮ่อฉวนสือไม่ได้ตอบเขา แต่เดินตรงไปที่สือฮว่าแล้วอุ้มเธอขึ้นไว้ในอ้อมแขน
"พี่ ดูเหมือนเธอจะเป็นจุดอ่อนของพี่นะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้