ซูยวี๋รู้ตัวว่าคิดผิด ถ้าเป็นตามปกติ เธอจะไม่คุยกับหลินเฟิงเหมียนด้วยเสียงต่ำแบบนี้ ตอนทั้งสองเริ่มคบกัน ก็เป็นหลินเฟิงเหมียนที่คอยทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอพอใจ
ใบหน้าของเธอกลับไปน่าสมเพชอีกครั้ง เอื้อมมือไปคว้าแขนเสื้อของหลินเฟิงเหมียน "เฟิงเหมียน ฉันรู้ว่าฉันทำผิดกับคุณ แต่ตอนนี้มันสำคัญที่ว่าฉันจะเข้าคุกหรือไม่ ถือว่าฉันขอร้องคุณได้ไหม คุณบอกกับตำรวจทีว่าคืนนั้นฉันอยู่กับคุณจริงๆ"
หลินเฟิงเหมียนกระตุกคิ้วด้วยความรังเกียจ เห็นใบหน้าผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาก็สงสัยว่าเขาชอบอะไรเธอกันแน่?
"ตอนแรกฉันขอร้องให้เธออธิบายกับสื่อ แต่เธอตอบฉันว่ายังไงล่ะ?"
ซูยวี๋ตัวอ่อนทันที แน่นอนว่าเธอรู้ว่าตอบอีกฝ่ายไปยังไง เธอบอกว่าเธอจะไม่มีวันชี้แจงนอกเสียจากเขาจะเอาเงินห้าสิบล้านมา
หลินเฟิงเหมียนมองการเล่นละครจนพอแล้วเม้มปากแน่น "จะให้ฉันเป็นพยานให้เธอก็ได้ แต่เงื่อนไขเดิม เธอก็คิดดีๆก็แล้วกัน"
ถึงซูยวี๋อยากจะเอาเงินห้าสิบล้านของเฉินถัง แต่ถ้าติดคุก เอาห้าสิบล้านมาจะมีประโยชน์อะไร ไม่ใช่ข้อต่อรองสำหรับหลี่เคอร่านนังนั่นด้วย!
"ฉันตกลง! ฉันตกลงได้ทุกอย่าง! เดี๋ยวฉันจะขอให้ตำรวจบันทึกวิดีโอให้ เพื่อชี้แจงความรุนแรงของคุณ เฟิงเหมียน คุณอย่าหลอกฉันนะ ถ้าฉันชี้แจงแล้วคุณต้องเป็นพยานให้ฉันนะ"
หลินเฟิงเหมียนถอนหายใจที่ประสบความสำเร็จ "โอเค"
ความเป็นจริงถ้าซูยวี๋มีความรู้ทางกฎหมายขึ้นมาหน่อย พวกกลอุบายนี้ก็ไม่มีประโยชน์กับเธอ แต่ความรู้ด้านกฎหมายของเธอยังอ่อนเกินไป ใจคิดว่าเธอจะต้องเข้าคุกก็กลัวเกินจะคิดอะไรได้ จนรีบตอบรับเงื่อนไขหลินเฟิงเหมียนทันที
นี่เป็นสือฮว่าที่คิดวิธีมาจัดการกับเธอ ไม่อยากติดคุกก็ต้องชี้แจงเรื่องความรุนแรง
คนรวยอย่างจางฟู่หมิงตายไปแล้ว แต่เขาไม่ได้ตายในวันที่ 20 พฤศจิกายน เธอจงใจให้ตำรวจบอกเวลานี้ เพราะเวลานี้มีเพียงหลินเฟิงเหมียนเท่านั้นที่เป็นพยานให้เธอได้ ตอนนี้ซูยวี๋ได้ถือหลินเฟิงเหมียนเป็นคนสุดท้ายที่ช่วยได้ และคงไม่กล้าเล่นตุกติก
ตำรวจเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างรู้ นี่เป็นแค่การเล่นละครตบตา จุดประสงค์ก็เพื่อให้ซูยวี๋ชี้แจงเรื่องของหลินเฟิงเหมียนดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินคำขอของซูยวี๋ในการถ่ายทอดสดเลยไม่ปฏิเสธ
ในไม่ช้า ทางสถานีก็เปิดการถ่ายทอดสด เนื่องจากมีคนให้ความสนใจกับเรื่องนี้เยอะ ห้องถ่ายทอดสดก็แทบจะทำงานไม่ได้เหมือนปกติ
ความปรารถนาที่จะรอดของซูยวี๋มีมากเลยไม่กล้าคิดเป็นอื่น
"คุณซู คุณแจ้งว่าหลินเฟิงเหมียนใช้ความรุนแรงกับคุณ เรื่องนี้เป็นความจริงไหมคะ?"
ซูยวี๋มองไปที่กล้อง พูดด้วยน้ำเสียงที่เสียใจ "เป็นการโกหกค่ะ หลินเฟิงเหมียนรักฉันมาก ตอนเราคบกัน เขาเชื่อฟังฉันมาก ฉันหลอกให้เขามาเล่นละครกับฉัน ให้เขารับบทเป็นผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงแล้วใช้โอกาสนั่นบันทึกวิดีโอ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดกับหลินเฟิงเหมียน ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกค่ะ"
"ตามที่คุณซูพูด การพบกันระหว่างคุณกับหลินเฟิงเหมียนไม่ใช่เรื่องบริสุทธิ์ใช่ไหมคะ? ตอนแรกคุณทำเพื่อเงินใช่ไหมคะ?"
หลินเฟิงเหมียนกับสือฮว่าโดนเชิญไปอีกห้อง ห้องสอบสวนที่ซูยวี๋อยู่มีกล้องวงจรปิด อยู่นี่เราก็ยังสามารถเห็นทุกอย่างในห้องนั้นได้
การถ่ายทอดสดดึงดูดคนจำนวนมากจนดังไปทั่วบนอินเทอร์เน็ต
"ฉันก็ว่าเจ้าชายหลินโดนให้ร้าย! เจอผู้หญิงแบบนี้ช่างโชคร้ายจริงๆ!"
"ความคิดน่ากลัวสุดๆ ผู้หญิงคนนี้ปลอมตัวเก่งมากนะ เล่นงานเจ้าชายหลินจะหัวหมุนไปหมด!"
"นั่นพิสูจน์ได้ว่าหลินเฟิงเหมียนบริสุทธิ์ ถ้าฉันจำไม่ผิด นี่เป็นความสัมพันธ์เดียวที่เขาเปิดเผย ถือเป็นรักแรกพบ ตอนรักก็รักอย่างจริงใจ ใครจะไปคิดว่าทั้งหมดนี้คือกับดัก"
ความคิดเห็นของผู้คนบนอินเทอร์เน็ตตรงกันข้าม แต่หลี่เคอหร่านที่เห็นการถ่ายทอดสดนี้หัวใจก็แน่นขึ้น
เธอรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกับสิ่งที่ตำรวจถามเกี่ยวกับซูยวี๋ เธอจัดการให้ทั้งสองคนเจอกันในตอนแรก ซูยวี๋คงไม่ฉุดเธอลงไปด้วยใช่ไหม?
ยัยบ้านี่!
ซูยวี๋ที่คิดอย่างนั้น เธอมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับหลี่เคอหร่านมาตั้งแต่ยังเด็ก ตอนนี้เธอโดนวิพากษ์วิจารณ์จากทุกคนแล้วหลี่เคอหร่านจะอยู่สบายไปได้ยังไง!
"การเจอของฉันกับหลินเฟิงเหมียนเป็นหลี่เคอหร่านที่จัดการค่ะ หลี่เคอหร่านเป็นพี่ฉัน เธอกุมฉันเอาไว้ ตอนนั้นฉันต้องการติดต่อกับหลินเฟิงเหมียน อยากจะแบล็กเมล์เงินก้อนหนึ่ง หลี่เคอหร่านเป็นเพื่อนกับหลินเฟิงเหมียน หลังจากเราตกลงกันก็ให้เธอพาหลินเฟิงเหมียนออกมา ฉันแกล้งทำเป็นโดนหลินเฟิงเหมียนชนจนเขารู้สึกผิด เลยไปเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลบ่อยๆค่ะ"
ดาราเข้ามาเกี่ยวอีกคน ห้องถ่ายทอดสดแทบจะคลั่งและติดขัดไปชั่วขณะ
"พี่น้องคู่นี้น่าทึ่งจริงๆ!"
"ใจร้ายใจดำ คนหนึ่งก็เพื่อนหลินเฟิงเหมียน อีกคนก็แฟนเขา ฉันเดาว่าชีวิตนี้เขาคงไม่กล้ารักใครแล้ว"
"เจ็บแทนเจ้าชายหลิน โดนคนที่ตัวเองคอยห่วงใยทรยศ"
ใบหน้าหลินเฟิงเหมียนซีดไปหมด ทำไมเขาคิดไม่ได้ว่าหลี่เคอหร่านกับซูยวี๋เป็นพี่น้องกันแท้ๆ หลี่เคอหร่านไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขา แถมยังวางแผนให้ทั้งคู่มาเจอกัน เขาโดนปั่นหัวโดยไม่รู้ตัวเข้าให้แล้ว
เขาลดสายตาลง หัวใจเหมือนโดนฉีกขาดและริมฝีปากก็ซีด
กงชิงยืนอยู่ข้างหลังเขา เห็นเนื้อหาบนจอกล้องก็ก่นด่าทันที "นังผู้หญิงชั่ว! ชั่วทั้งคู่! พี่หลิน ที่พี่ยังคงทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องหลี่เคอหร่าน เขาวางแผนอย่างนี้ยังต้องปกป้องอะไรอีก!"
"หยุดพูดเถอะ ฉันไม่มองคนให้ดีเอง"
เสียงของหลินเฟิงเหมียนแหบแห้งและนั่งลงบนเก้าอี้
ในกล้อง ซูยวี๋ยังคงตอบคำพูดของตำรวจจนกระทั่งการถ่ายทอดสดจบลง เธอก็รู้สึกถอนหายใจ "เจ้าหน้าที่ตำรวจคะ ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการตายของจางฟู่หมิงจริงๆนะคะ หลินเฟิงเหมียนเป็นพยานได้ คืนนั้นฉันอยู่กับเขาจริงๆนะคะ"
"เรารู้ชัดแล้ว อีกเดี๋ยวคุณซูบันทึกคำสารภาพเสร็จก็กลับได้ คุณมีประวัติอาชญากรรมดังนั้นออกไปแล้วจำไว้ว่าอย่าทำผิดอีก"
เธอหยิบโทรศัพท์ไปให้ แต่หลิวจิงซูกลับไม่มองมันด้วยซ้ำ
สือฮว่าขมวดคิ้ว ท่าทีที่ทำแบบนี้ก็รำคาญเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นผู้อาวุโส
บังเอิญที่ถางหรงเดินเข้ามา พอเห็นเธอก็ขมวดคิ้ว "เธอมาทำอะไรที่นี่?"
สือฮว่าสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเอาโทรศัพท์กลับมาและเอาวิดีโอไปตรงหน้าถางหรง "คุณหญิงถางคะ ฉันเจอหลักฐานแล้วค่ะ นี่คือวิดีโอที่ท่านหญิงโดนผลัก คนเป็นผลักคือสือหยวน ไม่ใช่ฉันค่ะ"
ถางหรงคลิกวิดีโอดู ใบหน้าก็มืดมน ที่แท้ก็คือสือหยวน
หลิวจิงซูที่นอนอยู่บนเตียงก็พูดขึ้นอีกครั้ง "เธอกับสือหยวนก็เป็นคนของตระกูลสือ จะเขาทำหรือเธอทำมันต่างกันหรือไง?"
สงสัยอยากจะให้เป็นความผิดของเธอ
แต่ที่สือฮว่าไม่คิดคือถางหรงพูดแทนเธอ "แม่คะ พูดแบบนั้นไม่ได้นะคะ ความสัมพันธ์ระหว่างสือฮว่ากับตระกูลสือก็ไม่ดี เรื่องนี้ฉันรู้ดีค่ะ ที่แม่โดนผลักตกฉันโกรธมากแต่เราจะหาใครก็ได้มาระบายความโกรธไม่ได้นะคะ"
ถางหรงเหลือบมองสือฮว่า "ครั้งก่อนที่ฉันพูดว่าถ้าเธอไม่ได้ทำ ฉันจะขอโทษเธอ"
สือฮว่ารีบพูด "ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณหญิงถาง ขอบคุณนะคะ"
จริงๆแล้วที่ถางหรงพูดขอบคุณเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ ยังไงก็เป็นการขอโทษรุ่นหลัง คำพูดของสือฮว่าทำให้เธอก้าวลงจากตำแหน่งได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ดวงตาเธอฉายแววถึงความพอใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า แต่มู่หวั่นโจวที่อยู่ข้างๆสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เธอไม่สามารถเปลี่ยนท่าทีของถางหรงที่มีต่อสือฮว่าได้!
"หลักฐานก็เจอแล้ว ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะคะ"
สือฮว่าไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ไม่ต้องพูดถึงที่ที่มีมู่หวั่นโจวอยู่
พอหลิวจิงซูได้ยินก็โมโหทันที "เธอจะไม่สนใจชีวิตฉันจะเป็นตายร้ายดีเลยหรือไงกัน แม้แต่หน้าตากังวลยังไม่มีให้เห็น"
สือฮว่าหรี่ตาลง "ท่านหญิงคะ ฉันอยู่ที่นี่มันมีแต่จะทำให้ท่านรู้สึกขยะแขยงมากขึ้น ทั้งท่านและฉันต่างก็รู้ว่าความสัมพันธ์นี้ไม่สามารถเปลี่ยนได้"
หลิวจิงซูโกรธจนหยิบหมอนขึ้นมาจะโยนกลับโดนมู่หวั่นโจวห้ามไว้ "คุณย่าคะ อย่าโกรธสิคะ ร่างกายเพิ่งจะดีเองนะคะ หมอก็บอกว่าจะไม่โกรธไม่ได้"
หลิวจิงซูเลือดขึ้นหน้าและค่อยๆวางหมอนลง "ถ้าเธอได้ครึ่งของมู่หวั่นโจว ฉันจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่มาจากตระกูลอะไร ขึ้นหน้าขึ้นตาไม่ได้จริงๆ"
ดวงตาของมู่หวั่นโจวเป็นประกายอย่างมีชัยและลูบหลังเธอเบาๆ "คุณย่าคะ โทษคุณสือไม่ได้นะคะ สภาพแวดล้อมการเติบโตของเธอแตกต่างจากเรานะคะ ไม่สามารถเอาเงื่อนไขของเราไปกำหนดเธอได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้