เพราะงั้นตอนนี้เธอไม่มีทางกำจัดเนื้อร้ายนี้ได้ ทำได้แค่พยายามอยู่ในเจียหัวไปสักพัก
"คุณสือ"
เสียงของหลินเฟิงเหมียนดังมาจากด้านหลังและรีบเดินขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว "วิดีโอนีนมีประโยชน์กับคุณไหมครับ?"
สือฮว่าเคยพูดวว่าวิดีโอนั่นมีความสำคัญมากกับเธอ
"อืม เรื่องของฉันได้แก้แล้ว ขอบคุณสำหรับวิดีโอนะคะ"
หลินเฟิงเหมียนยิ้ม "ฉันเป็นคนที่ควรจะขอบคุณสิ ถ้าคุณไม่มาฉันคงถูกบังคับให้ไปต่างประเทศแล้วล่ะ"
สือฮว่ามองเวลาก็เห็นว่าดึกแล้ว เธอควรจะกลับ
"คุณสือ ฉันชวนคุณไปทานข้าวได้ไหม?"
จู่ๆหลินเหิงเหมียนก็พูดขึ้นด้วยดวงตาที่อ่อนโยน
หลังจากเจอเรื่องแบบนี้มา เขาก็นิ่งมากขึ้นและมองคนรอบข้างได้ชัดเจนมากขึ้น
สือฮว่าที่ตอนแรกอยากจะกลับ แต่นึกอะไรขึ้นได้ก็พยักหน้า "ได้สิ"
หลินเฟิงเหมียนให้กงชิงจองร้านอาหารระดับไฮเอนด์ก่อนจะไปส่งด้วยตัวเอง
คนที่เข้าออกร้านอาหารแห่งนี้ได้ล้วนแต่เป็นคนที่มีอำนาจ หลายคนเป็นผู้นำทางธุรกิจ ดังนั้นเขาเลยจึงไม่นต้องปกปิด ข้างในไม่มีปาปารัสซี่
เขาทำหน้าที่สุภาพบุรุษดึงเก้าอี้เพื่อให้สือฮว่านั่งก่อนจะไปนั่งลงตรงข้ามเธอ
ทำเลนี้ได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ตรงหัวมุมจะสามารถเห็นร้านอาหารได้ทั้งหมด
สือฮว่าอยากจะสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในของเจียหัวจากหลินเฟิงเหมียน แต่เมื่อเธอกำลังจะพูด เธอเห็นฮ่อฉวนสือกับมู่หวั่นโจวนั่งอยู่ไม่ไกล
เธอทำหน้าไม่มีความสุข แต่ขณะนี้ใบหน้าก็ยังฉายแววเคือง แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม
มือเธอจับถ้วยไว้แน่น ดวงตามืดมน
หลินเฟิงเหมียนที่นั่งตรงข้ามกับเธอเห็นท่าทางของเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็นห่วง "คุณสือครับ ถ้าคุณไม่ชอบที่นี่ เราเปลี่ยนไปอีกที่ได้นะครับ"
สือฮว่าส่ายหัว ถ้าออกไปตอนนี้ต้องโดนฮ่อฉวนสือกับมู่หวั่นโจวเห็นแน่
นอกจากนี้นี่ก็เป็นโอกาสดี เป็นโอกาสดีในการทดสอบฮ่อฉวนสือ
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเลือกเบอร์ฮ่อฉวนสือก่อนจะกดโทรออกและจ้องไปที่ไกลๆ
ฮ่อฉวนสือเหมือนจะรับรู้ถึงสายเรียกเข้าก็หยิบโทรศัพท์ออกมา "มีอะไรเหรอ?"
ถ้าตั้งใจฟังก็จะได้ยินเสียงอ่อนโยนของเขา
"ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเหรอ?" สือฮว่าหรี่ตาลงอย่างระงับอารมณ์
"ข้างนอก"
"กับใคร?"
สือฮว่าไม่ยอมแพ้และยังคงถามคำถามต่อ
"คนๆหนึ่ง"
พอได้ยินฮ่อฉวนสือพูดแบบนั้น สือฮว่าก็อยากจะรีบเข้าไปเปิดเผยเขาทันที
แต่เธอก็อดทน ยังไงก็เป็นสามีภรรยาแค่ในนาม อีกคนจะอยู่กับใครก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
"อ้อ ฉันแค่จะโทรมาบอกว่า คืนนี้ฉันทานข้าวข้างนอกน่ะ"
เธอพูดอย่างใจเย็น พยายามเมินเฉยต่อความรู้สึกที่ไม่สบายในใจ
"โอเค ระวังตัวด้วยล่ะ"
สือฮว่าวางสายโทรศัพท์ ใบหน้าก็ดิ่งลง แม้แต่หลินเฟิงเหมียนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ยังรู้สึกได้
หลินเฟิ
หลินเฟิงเหมียนมองตามสายตาของเธออยากจะเห็นว่าเป็นใคร แต่สือฮว่าก็พูดขึ้นอีกครั้ง "หลินเฟิงเหมียน บอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในเจียหัวทีสิ"
หลินเฟิงเหมียนระงับความสงสัยไว้ในใจและพยักหน้าช้าๆ "ฉันอยู่ในบริษัทมานานก็เลยรู้สถานการณ์ของเจียหัวบ้าง จริงๆแล้วมีศิลปินที่ยอดเยี่ยมมากมายในบริษัท แต่เฉินถังก็เอาที่หน้าตาดีไปอยู่กับพวกผู้บริหาร ถ้าไม่ทำตามก็จะถูกซ่อนตัวไว้ บางคนสูญเสียชีวิตวัยรุ่นไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะศิลปินหญิงบางคน คุณสือ คุณก็รู้ว่าปกติแล้วศิลปินหญิงจะใช้เวลาช่วงสาวๆทำงานกัน พอแก่ตัวลงก็ไม่สามารถทำอะไรในวงการนี้ได้ อายุ 18 ถึง 25 ปี เป็นยุคทองของ ซึ่งมีจำนวนมากที่โดนกีดขวาง และสัญญาของพวกเธอก็โดนทางบริษัทกดเอาไว้ด้วย แต่ก็ไม่กล้ายกเลิกสัญญากัน เพราะเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงพวกเขาจะต้องเผชิญกับการละเมิดสัญญาที่สูงเกิน"
สือฮว่าขมวดคิ้ว ภายในของเจียหัวมันร้ายแรงถึงขนาดนี้แล้วเหรอ?
"แล้วทำไมคุณ..."
หลินเฟิงเหมียนก็หน้าตาดี ทำไมเขาถึงไม่โดนผูกมัดไปด้วย
หลินเฟิงเหมียนยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันเดบิวต์เร็ว ก่อนที่จะเข้าเจียหัว ก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ฉันมีฐานแฟนคลับเพราะงั้นทางบริษัทเลยไม่กล้าทำอะไร คุณสือน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของศิลปินหญิง ความเป็นจริงพวกเขาไม่สามารถทนต่อการอยู่กับแขกได้ เลยฆ่าตัวตาย ประชาชนต่างคิดว่าพวกเขาเป็นโรคซึมเศร้า แต่จริงๆแล้วคนในรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถทนต่อการทรมานของพวกคนระดับสูงได้"
ในฐานะผู้หญิง สือฮว่าไม่สามารถทนฟังเรื่องนี้ได้ก่อนจะถอนหายใจ "ทำไมทุกคนไม่เปิดเผยล่ะ?"
"คนเบื้องบนของเฉินถังคอยปกปิด และทุกครั้งที่มีคนมาตรวจสอบ ทักษะเขาก็ดีมากจนไม่มีใครทำอะไรได้ เจียหัวได้รับการสนับสนุนจากตี้เซิ่ง ว่ากันว่าท่านประธานไม่ได้ชอบอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์มาก เลยไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย ยังไงฉันก็หวังว่าวันหนึ่งเขาจะนึกถึงเจียหัวและกำจัดเนื้อร้ายอย่างเฉินถังไปได้"
สือฮว่าเข้าใจได้ถึงความอดทนของหลินเฟิงเหมียน ถึงเขาจะโด่งดังในวงการ แต่ก็ยังมีคนจากเบื้องบนให้ท้ายเฉินถัง เทียบกับผู้บริหารระดับสูงตี้เซิ่ง ดาราตัวเล็กๆจะไปเทียบอะไรได้ คงจะโดนกีดขวางได้ตลอด
"ฉันเข้าใจแล้ว"
สือฮว่าจิบกาแฟ ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของเจียหัวจะแย่กว่าที่คิด
"ผมเข้าใจแล้วครับท่านประธานรู้"
ทั้งสองคุยกันในรถ แต่ด้านนอกกลับมีเสียงปืน ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กัน
ฮ่อฉวนสือก้มลงมองเอกสารจนกระทั่งสิบห้านาทีต่อมา ประตูรถถูกเปิดออกก ลุ่มชายในชุดสูทสีดำก็พูดด้วยความเคารพ "จัดการเรียบร้อยแล้วครับ"
ฮ่อฉวนสือพยักหน้า "หนานสือ ดึกแล้ว กลับกันเถอะ"
หนานสือรีบเหยียบคันเร่งขับไปทางเฉียนสุ่ยวาน
มู่หวั่นโจวที่เพิ่งแยกกับฮ่อฉวนสือ ตอนนี้สถานการณ์ก็ไม่ดีนัก ถ้าเธอไม่พาบอดี้การ์ดมาด้วย คืนนี้คงไม่ได้กลับบ้านไม่ได้แน่
เธอที่ได้รับการปกป้อง ริมฝีปากสั่นด้วยความตกใจ "คนพวกนี้เป็นใครกัน?"
บอดี้การ์ดส่ายหัว เขาเขาเองก็ไม่รู้ จู่ๆก็ถูกโจมตี ในสถานที่อย่างจิงตู อีกฝ่ายยังใช้ปืนอย่างเปิดเผย
"คุณมู่ครับ คุณไปก่อนเถอะครับ ทางนี้เราจะจัดการเอง"
หน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องมู่หวั่นโจว ถ้ามู่หวั่นโจวตาย พวกเขาก็ไม่รอด
มู่หวั่นโจวไม่สนความเป็นความตายของพวกเขาก่อนรีบไปทางโรงแรม
พวกนั้นเข้ามาอย่างดุเดือด เธอต้องไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือของอีกฝ่าย!
ทันทีที่กงมู่ป๋ายลงมา ก็เห็นมู่หวั่นโจวที่กำลังลำบากใจ
หลังจากที่มู่หวั่นโจวเห็นเขา ดวงตาก็เป็นประกายโดยลืมไปว่าเธอเคยปฏิบัติต่อคนๆนี้ยังไงมาก่อน เธอเหมือนคนจมน้ำที่คว้าฟางเส้นสุดท้าย "มู่ป๋าย ช่วยฉันด้วย มีคนไล่ฆ่าฉัน"
แขนเสื้อกงมู่ป๋ายโดนเธอดึงเอาไว้ เห็นหน้าเล็กๆที่เป็นกังวลของเธอก็กระตุกยิ้มมุมปาก "คุณมู่คงจะจำผิดคนแล้วนะครับ"
น้ำตาของมู่หวั่นโจวกำลังจะร่วงหล่น ในฐานะลูกสาวของตระกูลมู่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเผชิญกับภัยคุกคาม แต่ครั้งนี้ต่างออกไปคนพวกนั้นมีท่าทีดุร้าย หากเธอตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา คงไม่มีชีวิตรอดถึงพรุ่งนี้แน่!
"มู่ป๋าย เมื่อก่อนคุณไม่ได้ชอบฉันมากเหรอ? ฉันสัญญา ว่าถ้าคุณช่วยฉันครั้งนี้ ฉันจะคบกับคุณ ดีไหม?"
ท่าทีของเธออ่อนน้อม เธอโทรแจ้งตำรวจแล้ว แต่ดูเหมือนตำรวจจะโดนขวาง คืนนี้คนพวกนั้นจะจับตัวเธอ
กงมู่ป๋ายคว้าข้อมือของเธอแล้วเดินไปที่ห้องเมื่อกี้
หัวใจที่สูงส่งของมู่หวั่นโจวลดลงทันที สุดท้ายผู้ชายคนนี้ก็ห่วงใยเธอจริงๆ
นัยน์ตาของเธออ่อนโยน อยากจะพูดอะไรที่แสดงความรักใคร่ แต่ทันทีที่ประตูเปิดออก เธอก็เห็นฉากในห้องนั้นทันที
ข้างในมีคนของกงมู่ป๋าย หลายคนเธอเคยเจอมาก่อน ดูเหมือนว่ามู่ป๋ายกำลังแย่งชิงสิทธิ์ในการสืบทอดตระกูลกง ข้างหน้ามีแต่คนสนิทของเขา
มู่หวั่นโจวรู้มาโดยตลอด ถึงกงมู่ป๋ายจะหยิ่งยโส แต่เขาได้ฝึกฝนกองกำลังไว้จำนวนมากอย่างลับๆ ฮ่อฉวนสือก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เลยเลือกที่จะปล่อยเขาไป ให้เขาสู้เพื่อตำแหน่งหัวหน้าตระกูล แถมยังรับคำสั่งจากสือฮว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้