ฮว่ายวี๋ปวดหัว เจ็บหน้าอกเหมือนมีดคมแทงเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
คนที่ไม่รู้อดีตก็เหมือนตกลงไปในโคลน รอบด้านมืดไปหมด
พี่ฉีบอกว่าเธอหน้าตาสวยและมันง่ายที่จะอยู่ในแวดวงนี้ นักลงทุนพวกนั้นชอบเอาเปรียบผู้หญิง เธอยังเป็นดารา อนาคตต้องเจออะไรอีกมาก
หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา ก็มักจะเอนตัวพิงหน้าต่างแล้วเหม่อลอย คิดถึงก่อนหมดสติเธอเป็นคนแบบไหนแล้วทำไมเธอถึงตกอยู่ในสถานการณ์นี้
เธอไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นทุกย่างก้าวของเธอก็เหมือนกับการเหยียบปลายมีด
จนกระทั่งได้พบกับเขา ผู้ชายเย็นชาคนนี้
เธอพูดสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างควบคุมไม่ได้ พูดออกไปจนทำให้คนดูถูกเหยียดหยามได้
เขาต้องคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทยึดติดกับคนมีอำนาจแน่
ใช่ เขาต้องคิดอย่างนั้นแน่เลย
แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น แค่ครั้งแรกที่เธอเห็นเขา เหมือนถูกอะไรเข้าสิงไม่รู้
เขาเย็นชา สู่ส่งตั้งขนาดนั้น เธอต้องการเก็บเขาไว้
บรรยากาศเงียบงัน ฮวายวี๋จับหน้าอกของเธอ หอบเล็กน้อย "ขอโทษที"
ฮ่อฉวนสือจ้องใบหน้าของเธอและคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะมองไปที่ยวี่ป๋ายเยี่ยน
"ป้าของตระกูลฉีเคยบอกว่าเธอใช้แมลงมีพิษที่ร้ายที่สุด หลังจากที่ซือรั่วเฉินถูกกัดตอนแรก รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง"
ยวี่ป๋ายเยี่ยนหาวและขยี้ตาที่เปียกชื้น "ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางเป็นสือฮว่าได้ สือฮว่าไม่มีทางอายเวลาเจอผู้ชาย แล้วก็ยิ่งไม่มีทางพูดแบบนั้น อาหมิง เมื่อกี้ฉันแค่ล้อเล่น ไปกันเถอะ คิดก่อนว่าจะจัดการตระกูลมู่กันอย่างไร ปีนี้นายเอาแต่ยุ่งอยู่กับการตามหาสือฮว่าจนไม่ได้สนใจเรื่องที่จิงตูเลย พวกคนเฒ่าก็คิดว่านายเหนื่อยจนไม่อยากสู้แล้ว เลยทำอะไรเกินเลยตลอด"
ฮวายวี๋ยันกำแพง ตัวสั่นเล็กน้อย ภาพตรงหน้าก็เวียนไปมา
สือฮว่า...
ชื่อที่คุ้นเคย
"อาหมิง นายก็ควรพักผ่อนนะ ในระหว่างปีนี้นายไม่เจอใครเลยแล้วก็ไม่ได้สนใจพระจันทร์กับฟู่ซีชวนด้วย เรื่องตามหาสือฮว่าก็ให้คนอื่นไป นายไม่ต้องไปตามเองหรอก"
ฮวายวี๋นิ่งเงียบ ยังคงเสียใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไป เธอต้องโดนว่าแน่ ถึงพูดจาอย่างไร้ยางอายได้
เธอยันกำแพง หยิบร่มบนจากพื้นแล้วเดินลึกเข้าไปในตรอก
ฮ่อฉวนสือหันกลับมามองแผ่นหลังเธอ "ป๋ายเยี่ยน นายว่าเป็นเธอไหม?"
ยวี่ป๋ายเยี่ยนหัวเราะและขมวดคิ้ว "นายหลงหรือไง? สือฮว่าจะมีทางพูดว่าจะขึ้นรถกับนายไหมล่ะ?"
"คนที่ไม่รู้อดีต พูดอะไรไม่ได้ สิ่งที่เธอพูดคือสิ่งที่ใจเธอปรารถนามากที่สุด"
ฮวายวี๋เดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องค้ำกำแพงเพื่อพัก อยากจะร้องไห้อย่างอธิบายไม่ถูก อ่อนแอเสียจริง
เธอวางร่มไว้ข้างๆ หายใจเข้าเล็กน้อยก่อนนั่งยองๆ ทันใดนั้นก็มีเงาทอดลงมาตรงหน้า
เธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นชายคนนั้นมองลงมา "เธอชื่ออะไร?"
เขาถามชื่อเธอเหรอ?
หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความยินดี ราวกับว่าดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิกำลังเบ่งบาน
"ฮวายวี๋"
"ฮวายวี๋?"
เขาย่อตัวลง บีบคางของเธอ และทวนซ้ำ "ฮวายวี๋?"
ฮวายี๋พยักหน้าและเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก
เธอเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน ร่างกายนี้อ่อนแอจริงๆ แค่กลัวนิดหน่อย วิ่งไม่กี่ก้าวก็ไม่มีแรงจะลุกแล้ว
เธอคิดอย่างนั้น และอ้อมกอดอันอบอุ่นก็เข้ามา
เธอตกตะลึง ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
"ฉันนึกได้ว่า ฮวายวี๋คือผู้หญิงแสดงละครเรื่องล่าสุดใช่ไหม?"
ฮวายวี๋ที่ถูกเขากอดก็พยักหน้าอย่างอึ้งๆ
ฮวายวี๋หลุบตาลง อันที่จริงเขาก็คงเหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆ แค่ซ่อนไว้ลึกก็เท่านั้น
เขาถูกใจหน้าตาเธอ? พี่เคยบอกว่าผิวของเธอดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา บวกกับร่างกายที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้คนรู้สึกอยากปกป้องอยู่
เธอกำลังคิด ทันใดนั้นก็มีปากกาและกระดาษเปล่าอยู่ตรงหน้าเธอ "เซ็นชื่อสิ ฉันชอบละครที่เธอแสดงมาก"
ฮวายวี๋ผงะและเงยหน้ามองเขา
เขาเป็นแฟนคลับของเธอจริงๆเหรอ?
ท่านประธานผู้สง่างามของตี้เซิ่งเป็นแฟนคลับเธอเนี่ยนะ
เธอคิดว่าช่างน่าขันแล้วจึงหยิบปากกากับกระดาษมา "โอเค"
เธอเขียนชื่อของเธอลงไปบนนั้นแล้วส่งให้เขา
ฮ่อฉวนสือมองตัวหนังสือสองตัวก็พับเก็บไว้อย่างระมัดระวัง "ฉันจะพาเธอกลับบ้านก่อน พรุ่งนี้จะมีใบสัญญาส่งถึงเธอ"
ฮวายวี๋พยักหน้า ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ และใบหน้าก็แดงขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ใบหน้าของเธอก็ถูกอีกคนจับไว้ ชายคนนั้นมองเธออย่างแน่วแน่ "ทำไมหน้าเธอถึงแดงขนาดนี้ เป็นไข้เหรอ?"
ฮวายวี๋รีบหลบสายตา "หลังจากป่วยก็หน้าแดงง่ายน่ะ"
"ป่วยเป็นโรคอะไร?"
"ฉันเองก็ไม่รู้ ตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้แล้ว มีแค่พี่ฉีที่อยู่เคียงข้างฉัน"
ฮ่อฉวนสือมองเธอด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน
ไม่นานรถก็มาหยุดที่ประตูชุมชน พี่ฉีรออยู่ข้างนอกอย่างใจจดใจจ่อ เธอตื่นขึ้นก็เห็นว่าฮวายวี๋หายตัวไป แถมโทรไปก็ไม่รับโทรศัพท์
จู่ๆ ก็มีรถคันหรูมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอรู้ดีว่ารถคันหรูนั้นมีมูลค่านับสิบล้าน
ชุมชนนี้เป็นชุมชนธรรมดา ไม่มีทางที่รถหรูคันนี้จะมาปรากฏตัวได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้