เช้าวันรุ่งขึ้น ฮ่อฉวนสือก็ยังไม่กลับมา สือฮว่าก็ไม่ได้มีท่าทีจะออกไปไหนก็อยู่ในบ้านดูทีวีอย่างเบื่อหน่าย
เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงรู้สึกปั่นป่วนใจ คงจะเกี่ยวกับฝนเมื่อคืนล่ะมั้ง
หลังจากฝนตกเมื่อคืน ท้องฟ้าวันนี้ก็โปร่งเป็นพิเศษ
นึกถึงรอบๆวิลล่าที่ใหญ่ เธอก็ลุกขึ้นเดินไปรอบๆสวน
สวนนี้ได้รับการดูแลจากคนรับใช้อยู่ตลอด มองไปทางไหนก็สวยไปทุกที่
เธอนั่งบนชิงช้าแล้วอาบแดดอยู่สักพัก
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน จนร่างกายร้อนเธอก็จะกลับบ้าน พออยู่หน้าประตูก็บังเอิญเดินไปชนกับฮ่อฉวนสือ
ใบหน้าฮ่อฉวนสือยังคงเฉยเมย แต่พอเห็นเธอ สายตาก็ไหวเล็กน้อย
เขากำลังจะทักทายก็เห็นสือฮว่าเดินผ่านตัวเองไปแล้วเดินมุ่งไปทางบ้าน
เขาขมวดคิ้วแล้วเดินตามไป
สือฮว่าเกลีนดสายตาตัวเองที่ดีเกินไป เธอดันไปเห็นร่องรอยช้ำที่คอของฮ่อฉวนสือ เธอไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไร นั่นไม่ใช่รอยจูบหรือไงกัน?
ถึงมันจะถูกซ่อนไว้ด้วยปกเสื้อ แต่เธอก็เห็นมันได้อย่างชัดเจน
ใจเกิดความระคายเคืองที่อธิบายไม่ได้ ไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน พอกลับมาดันเอารอยจูบกับมาด้วย เธอมันก็แค่นายหญิงฮ่อในนามเท่านั้น
เธอนั่งบนโซฟา หยิบหนังสือพิมพ์ออกมาอ่าน
ฮ่อฉวนสือเดินมาข้างเธอแล้วถามเสียงเรียบ "อารมณ์ไม่ดีเหรอ?"
สือฮว่าไม่สนใจแล้วไม่สบตาเขาสักนิด
ฮ่อฉวนสือระงับความโกรธไว้ในใจ "หรือว่าย่าของฉันมาหาเรื่องเธองั้นเหรอ?"
สือฮว่าพลิกหน้ากระดาษเบาๆราวกับว่าเขาคืออากาศ
ฮ่อฉวนสือฉีกหนังสือพิมพ์ "สือฮว่า เธอหูหนวกหรือไง"
สือฮว่าเงยหน้ามองเขา "ฉันหวังว่าครั้งหน้าที่คุณกลับมาจะทำร่างกายให้สะอาดหน่อยนะ"
ฮ่อฉวนสือเม้มริมฝีปากทันที "หมายความว่ายังไง?"
ตั้งแต่เขากลับมาก็ไม่ไว้หน้าเขา แล้วยังจะสอนเขาอีก?
สือฮว่าหัวเราะเยาะ "คุณยังไม่เข้าใจที่ฉันสื่อหรือไงกัน? ตัวเองทำอะไรไว้น่าจะรู้ดีที่สุดนะ"
"สือฮว่า!!"
ฮ่อฉวนสือทนไม่ไหวกับการดูถูกเหยียดหยามของเธอ เขายืนขึ้นและพูดจาทิ่งแทง "ถึงฉันจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอไม่ใช่หรือไง? ใครให้สิทธิ์เธอมาสั่งสอนฉัน?"
ภาษานั้นเวลาแสดงความรักนั้นอ่อนแอมาก แต่พอแสดงความเจ็บปวดมันก็คมชัดมากเหมือนกัน
สือฮว่ารู้สึกราวกับหัวใจถูกแทง เธอขมวดคิ้วและยื่นมือออกมาลูบ "ขอโทษแล้วกัน ฉันพูดมากเอง"
เห็นท่าทางของเธอ ฮ่อฉวนสือก็รู้สึกหงุดหงิดทันที ใจเจ็บไปหมด แต่ก็ไม่สามารถพูดขอโทษไปได้ ทำได้แค่หันหลับแล้วขึ้นไปชั้นสอง
กลับเข้ามาในห้อง เขายกมือขึ้นถอดเสื้อนอกแล้วโยนทิ้งไว้ด้านข้างแล้วถอดเสื้อเชิ้ตก็เผยให้เห็นหน้าอกเต่งตึง
หน้าอกของเขาเต็มไปด้วยรอยช้ำ เขาก้มมองก็เม้นริมฝีปากแน่นขึ้น
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกมา พอผ่านทางเดิน สายตาของเขาก็มองลงไปที่ชั้นล่าง
สือฮว่าไม่อยู่แล้วแล้วก็ไม่รู้ว่าไปไหนด้วย
เขายิ่งหงุดหงิดและรีบเข้าห้องหนังสือตัวเองทันที
สือฮว่าออกจากบ้านมาถึงโรงพยาบาลแล้ว อยู่ในวิลล่าก็รู้สึกแน่นหน้าอกเปล่าๆ ออกมาก็ดีขึ้นเยอะ
"คุณสือ คุณยายท่านจะตื่นเร็วๆนี้แล้ว สถานการณ์ของเธอดีมาก คุณไม่ต้องกังวลนะครับ"
ทันทีที่เธอมาถึง หมอก็พูดด้วยรอยยิ้ม
สือฮว่ากระตุกริมฝีปาก "ขอบคุณนะคะ"
เธอนั่งอยู่หน้าเตียงคนไข้ ยื่นมือออกไปจับมือของคุณยายแล้วถอนหายใจหนัก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการของคุณยายหรือผู้ชายบางคน
อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณยายสักพัก เธอก็ยังไม่อยากกลับบ้าน
จนกระทั่งตอนเย็น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นและมาจากหนานสือ
"คุณสือครับ ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วคุณอยู่ที่ไหนเหรอครับ ให้ผมไปรับไหมครับ?"
หนานสือพูดอย่างระมัดระวังและมองผู้ชายที่นั่งข้างๆเขา
ออร่าเขานั้นน่ากลัวและทั้งวิลล่าก็อยู่ในความกดอากาศที่ต่ำ
"ไม่ต้องหรอก ฉันกินข้าวข้างนอกแล้วน่ะ"
สือฮว่านั่งอยู่ใต้รูปปั้นพ่นน้ำในจัตุรัส จู่ๆก็รู้สึกตัวเองเศร้ามาก นอกจากบ้านตระกูลฮ่อแล้ว ในจิงตูเธอก็ไม่มีเพื่อคนอื่น เธอก็เลยโดดเดี่ยว
ถ้าออกจากบ้านตระกูลฮ่อ เธอก็คงไม่มีที่ไปสักที่
"แต่ตอนนี้เย็นมากแล้วนะครับ ผู้หญิงคนเดียวอยู่ข้างนอกไม่ปลอดภัยนะครับ"
หนานสือยังคงเกลี้ยกล่อมต่อ แต่กลับพบว่าสายโทรศัพท์ถูกวางไปแล้ว
เขามองฮ่อฉวนสืออย่างลังเลด้วยสีหน้าเศร้าโศก
"อืม ได้รับการช่วยเหลือน่ะ แต่ผลจากการรักษากูรุนแรงมาก ถ้าเธออกมาเธอคิดว่าจะทำยังไง?"
สือฮว่าไม่เกลี้ยกล่อมให้เธอปล่อยวางความเกลียดชังนี้แน่ ไม่มีใครรู้ว่าหนานจิ่นผิงเจออะไรมาบ้าง ดังนั้นก็ไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะให้เธอปล่อยวางเรื่องทั้งหมด
"เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ เธอยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ"
หนานจิ่นผิงยิ้มและยื่นมือมาลูบหัวเธอ "เธอเป็นคนเดียวที่ฉันรู้สึกเสียใจบนโลกนี้ ทั้งชีวิตนี้คงตอนเทนเธอได้ไม่หมด"
"ครอบครัวเธอ..."
สือฮว่าเอ่ยปาก หนานจิ่นผิงมีคนในครอบครัว แต่พอฟังน้ำเสียงของเธอดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจคนในครอบครัวเลย
ใบหน้าหนานจิ่นผิงมีแต่ความถากถาง "ฉันไม่ใช่ลูกของพวกเขา แม่ฉันหลังจากถูกพวกผู้ชายข่มเหง เลยมีฉัน เพราะงั้นการที่ฉันเกิดมาก็เหมือนบาปนั่นแหล่ะ หลายปีมานี้พวกเขาทุบตี ด่าว่าฉัน ฉันทนมานานแล้ว ฉันนึกว่าโจวกุยช่านจะเป็นทางรอดของฉัน แต่เขากลับผลักฉันลงไปในเหวลึก แต่ก็ไม่เป็นไร จากนี้ นอกจากเธอ ฉันก็จะไม่เชื่อใครอีก"
หัวใจสือฮว่ากระตุก เจ็บจนหายใจไม่ออก
"จิ่นผิง เกิดอะไรขึ้นกันแน่..."
ทั้งหมดนี้มันห่างไกลจากที่เธอรู้อีก ตอนแรกมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หนานจิ่นผิงเม้มริมฝีปากและพูดอย่างใจเย็น "ตอนแรกแม่ฉันชอบนายนายตระกูลโจว ซึ่งเป็นพ่อของโจวกุยช่าน แต่ผู้หญิงอีกคนก็ชอบเขาเหมือนกัน เธอไม่พอใจเลยส่งพวกผู้ชายมา..."
พอหนานจิ่นผิงพูดถึงตรงนี้ก็หยุด "พอแม่มีฉัน นายน้อยโจวก็รังเกียจที่เธอเคยโดนมาก่อน พวกเขาเลิกกัน ผู้หญิงคนนั้นก็มีลูก พวกเขาแต่งงานกัน แต่หลังจากแต่งงานไปแล้วผู้ชายคนนั้นก็ปล่อยแม่ฉันไม่ได้ ทำไม่ดีต่อเธอจนเธอคลุ้มคลั่งในระหว่างตั้งครรภ์แล้วถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลจิตเวทย์ โจวกุยช่านขาดความรักจากแม่ตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากรู้เรื่องทั้งหมด ก็ไม่พอใจครอบครัวฉัน แต่แม่ของฉันเสียชีวิตไปนานแล้ว เขาเลยส่งต่อความเกลียดชังมาที่ฉัน"
สือฮว่ารู้สึกคลื่นไส้ "ที่โจวกุยช่านทำมันก็น่าสะอิดสะเอียนมากนะ เหมือนแม่เขาไม่มีผิด"
"เขาไม่รู้เรื่องนั้น ในใจเขานั้นแม่ของเขาก็เหมือนผ้าสะอาด ตอนนี้ที่รู้เรื่องนั้นมีแค่ฉัน เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ เธอว่าฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ?"
สือฮว่าจับมือเธอไว้ ใบหน้าเย็นชา "จิ่นผิง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ฉันก็สนับสนุนเธอนะ"
หนานจิ่นผิงยิ้ม มือเธอไม่ได้อบอุ่นแบบนี้มานานมากแล้ว ในเรือนจำทั้งหนาวทั้งชื้น เธอป่วยบ่อยจนร่างกายเหมือนแย่ลงมาก
"เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ ฉันจะไม่ปล่อยโจวกุยช่านไปแน่ เขายังปล่อยวางจากฉันไม่ได้ สำหรับฉันเขาเป็นแค่ฆาตกรที่ฆ่าแม่ของฉัน นี่คือที่จะต่อรองให้ฉันสามารถชนะได้"
เธอไม่เคยปฏิเสธว่าหลงใหลโจวกุยช่าน แต่เธอสาบานว่าเธอจะเปลี่ยนความหลงใหลนี้ให้กลายเป็นมีดที่ทิ่งแทงเขา
มนุษย์น่ะนะ ตอนที่ว่างน่ะมักจะเป็นคนเจ้าเล่ห์และเปราะบางที่สุด ตอนดิ้นรนจะมีสติดีและแข็งแกร่ง แล้วเธอก็มีทั้งสติและเข้มแข็งมานานหลายวันหลายคืน
สือฮว่าไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงกุมมือเธอแน่นขึ้น
"เวลาเข้าเยี่ยมหมดแล้ว"
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรงประตูเรียกแล้วเข้ามาดึงหนานจิ่นผิง
หนานจิ่นผิงลุกขึ้นกัดริมฝีปาก "เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ เธอกลับไปเถอะ เดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันแล้ว"
สือฮว่าไม่ตอบ เธอกลัวว่าน้ำตาจะร่วงทันทีที่เธอเปิดปาก ทำได้เพียงแค่กลั้นความเสียใจและเฝ้าดูหนานจิ่นผิงถูกตำรวจพาตัวไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้