"จิ่นผิง"
สือฮว่าโบกมือ ดวงตาสว่างขึ้น
เขาคือเพื่อนสนิทของเธอ ในที่สุดก็รอจนถึงวันนี้
หนานจิ่นผิงเงยหน้าขึ้นพูดบางอย่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเดินลงบันไดมาอย่างช้าๆ
ดวงอาทิตย์ข้างนอกอบอุ่นมากจนทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว บันไดยาวเหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด เธอเดินมาอย่างช้ามาก
ในที่สุดใบหน้าของเธอก็เผยออกแสงแดด สือฮว่าเหมือนจะสามารถมองเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังของเธอได้อย่างชัดเจน
พวกเธอกอดกันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า วันเวลาเหมือนได้กลับไปที่มหาลัย
สือฮว่าอยากจะบอกว่าความเสียใจ ความเกลียดชังและความชอบที่ติดอยู่กับตัวเธอได้สิ้นสุดลงแล้ว เสียงเชียร์ในอนาคตเหลืออยู่ในโลกที่กว้างใหญ่กว่า ใช้ชีวิตอย่างกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
แต่เธอก็ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรก็เห็นรถสีดำอีกคันจอดอยู่
หน้าต่างไม่ได้เปิดออก แต่เธอรู้ว่าโจวกุยช่านต้องนั่งอยู่ข้างใน ในที่สุดชายคนนั้นก็ทนไม่ไหว
แต่ก่อนเมื่อเห็นป้ายทะเบียนที่คุ้นเคย หนานจิ่นผิงต้องวิ่งเข้าไปหาโดยไม่ลังเลก่อนเคาะหน้าต่างยิ้มและพูดว่า "กุยช่าย คุณมารับฉันแล้วเหรอ?"
แต่ตอนนี้ แสงในดวงตาของเธอโดนเผาไหม้จนเป็นเถ้าถ่านไปนานแล้ว
สือมือโจวกุยช่านจับพวงมาลัยไว้แน่นจนข้อนิ้วเปลี่ยนเป็นสีขาว
ความเจ็บปวดที่หน้าอกลามไปถึงแขนขา ทำให้เลือดบนใบหน้าหายไป เขาสงบลงชั่วขณะและในที่สุดก็เปิดประตูรถด้วยปลายนิ้วที่สั่นระริก
ตอนหนานจิ่นผิงยอมอยู่ในเรือนจำ เขาเคยคิดจะยอมแพ้กับรักครั้งนี้ เขาทิ้งมันมาสามปี ตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้ายทุกวัน เพราะสายตาของเธอบอกเขาว่าเธอไม่ได้รักเขาจริงๆ ไม่ได้รักเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่ตอนที่เธอยอมติดคุก หนานจิ่นผิงที่รักเขาก็ได้ตายจากไปแล้ว
แต่ขณะนี้ เขาไม่สามารถควบคุมสายตาตัวเองได้ อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดูเธอ เหมือนคนที่รู้ว่าในน้ำมีพิษแต่ก็ยังจะดื่มมัน เขาไม่ได้ตั้งใจจะรักเธอ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็พยายามอย่างหนักที่จะดึงต้นรักออก แต่เมื่อเขาได้เจอกับเธออีกครั้ง ถึงเธอจะไม่ได้พูดอะไร ความรักที่ฝังอยู่ในใจของเขาก็เหมือนกลับฟื้นคืน...
เขาลงจากรถและเดินไปช้าๆ
พูดอะไรดี ยินดีต้อนรับกลับมา?
แต่ก่อนที่เขาจะพูดก็เห็นหนานจิ่นผิงขมวดคิ้วราวกับว่าเขาเป็นเชื้อโรค
"โจวกุยช่าน ฉันบอกว่าอยู่ให้ห่างจากฉันและอย่ายุ่งเกี่ยวกันอีกไง"
คำพูดเดียวทำให้เขาหยุดยืนอยู่ที่เดิมทันที
ความรังเกียจบนใบหน้าของเธอชัดเจนจนเขาไม่สามารถแม้แต่จะหลอกตัวเองได้
หลังจากที่หนานจิ่นผิงพูดจบก็มองไปทางสือฮว่า "เสี่ยวฮัวเอ๋อร์ เราไปกันเถอะ"
น้ำเสียงของเธอนุ่มนวลแถมยังยิ้ม
สือฮว่าพยักหน้าและทั้งสองก็ขึ้นรถ
รถออกตัวช้าๆ โจวกุยช่านยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม
เธอบอกเขาด้วยความรังเกียจว่าอย่ามาเกี่ยวกันอีก แต่เขายังจำได้ว่าเธอนั่งอยู่บนตักของเขา ด้านหลังคือหน้าต่างและมีแสงแดดส่องถึ งเธอยิ้มและบอกว่าเธอชอบเขามากที่สุด
หน้าอกเกิดเจ็บแปลบ เจ็บปวดมากจนต้องโน้มตัวลง อยากจะควักหัวใจออกมา
เขาคิดด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธอเกลียดเขา แต่มันก็เป็นความทรงจำเช่นกันไม่ใช่เหรอ?
เธอไม่เคยลืมเขาเลย
บนรถที่ออกมา สือฮว่าหันมองไปที่ร่างที่โดดเดี่ยวและกระตุกมุมปากอย่างเย้ยหยัน
หนานจิ่นผิงมองไปที่ถงเหยียน ไม่มีความเป็นผู้หญิงในตัวผู้หญิงคนนี้เลย เธอดูเต็มไปด้วยความกล้าหาญ
"เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ เขาเป็นใคร?"
"บอดี้การ์ดของฉันน่ะ" สือฮว่าถอนหายใจ "เรื่องมันยาว เราไปหาที่กินข้าวกันเถอะ"
ถงหางได้ยินการสนทนาของพวกเธอก็รีบขับรถไปที่ร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด
หนานจิ่นผิงมองไปที่ถงหางและถงเหยียนอีกครั้ง คิ้วขมวดแน่น เหมือนว่าจะมีหลายอย่างเกิดขึ้นกับสือฮว่า
หลังจากอธิบายมาประมาณครึ่งชั่วโมง สือฮว่าก็ก้มหน้าและดื่มน้ำนิ่งๆ "เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ"
หนานจิ่นผิงมองเธออย่างทุกข์ใจ สือฮว่าขายชีวิตเพื่อคุณยายของตัวเอง
"ผู้ชายคนนั้นดีกับเธอไหม?"
ชีวิตจะไม่เศร้าเกินไปเหรือที่แม้แต่สามียังไม่ชอบเธอ?
ดีไหมงั้นเหรอ?
สือฮว่านึกถึงฮ่อฉวนสือ คิดตอนเขาช่วยเธอ คิ้วก็ตก "อืม ก็ดีกับฉันนะ แต่เขาชอบคนอื่นน่ะ"
หนานจิ่นผิงถอนหายใจ "เขาดีกับเธอก็ดีแล้ว ชีวิตสองปีเท่านั้น ถึงจะไม่ขายไปยังไงก็ต้องผ่านไปอยู่ดี เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ สัญญาฉันนะ ดีกับตัวเองหน่อย"
สือฮว่าเหลือบมองหนานจิ่นผิง เธอไม่ได้ใช้แป้งอะไร แต่ทั้งใบหน้ายังคงสดใส มีผู้ชายหลายคนที่หันมามองเธอ แต่เธอก็ยังไม่รู้ตัว ยกยิ้มเบาๆราวกับว่าไม่สนโลก ไม่มีอะไรมากระทบใจเธอได้
"จิ่นผิง เธอมีแผนว่าไงบ้าง?"
หนานจิ่นผิงหรี่ตาลง "ฉันอยากเข้าวงการบันเทิง แสดงละคร"
สือฮว่าผงะ เธอไม่ค่อยรู้จักวงการบันเทิง แต่การเป็นดาราไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ต้องพูดถึงว่าคนๆนี้ที่เพิ่งออกมาจากคุกมา ถ้ามีคนขุดอดีตนี้ออกมา ก็จะเป็นจุดด่างบนตัวเธอ ล้างให้ตายก็ไม่ออก
"เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ ฉันรู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไร แต่ฉันจะทำอะไรได้อีก ฉันไม่มีแม่แล้วก็ไม่รู้ว่าพ่อตัวเองคือใคร ฉันไม่ชอบพ่อแม่บุญธรรม นอกจากหน้าแบบนี้ก็ไม่มีอะไรเลย"
เธอล้มตัวลงนอนบนโซฟานุ่มทันที ผมลอนหยักศกก็ปกคลุมไปทั่วโซฟา
หนานจิ่นผิงนั้นสวย สือฮว่าไม่เคยสงสัยข้อนั้นเลย
"จิ่นผิง พูดมาซิ เหตุผลที่แท้จริงที่เธออยากเข้าวงการน่ะ"
เธอไม่ได้คิดว่าเขาจะแค่หาเงิน ถ้าแค่หาเงิน ใบหน้าแบบนี้ ไปหาลูกคนรวยก็ไม่มีปัญหาด้วยซ้ำ
หนานจิ่นผิงมองเพดานแล้วยิ้ม "ตอนแรกคนที่ทำให้แม่ท้องฉันอยู่ในวงการบันเทิง ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร รอฉันเข้าไปได้ก่อน คงจะรู้กัน"
หัวใจสือฮว่าสั่นสะท้าน "เธออยากแก้แค้น?"
หนานจิ่นผิงลุกขึ้นและหยิบหมอน "จะเป็นงั้นได้ยังไง แค่ทำให้เขาพังพินาศก็พอ อาชญากรที่กลายเป็นดาราใหญ่น่ะ เธอว่ามันตลกดีไหมล่ะ"
"เธอมีเบาะแสหรือยัง?"
หนานจิ่นผิงส่ายหัวและถอนหายใจ "รู้แค่ว่าเขาอยู่ในแวดวงนี้ ต้องลากตัวเขาได้ไม่ช้าก็เร็ว"
สือฮว่าพยักหน้า เธอบอกไว้แล้วว่าเธอจะสนับสนุนไม่ว่าเขาจะทำอะไร
เธอมองไปบนท้องฟ้า ตอนนี้ก็ดึกแล้ว
"ฉันกลับก่อนนะ จะให้ฉันช่วยอะไรก็บอกฉันนะ"
หนานจิ่นผิงลุกขึ้น โอบแขนรอบคอเธอ "เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ ฉันเป็นหนี้เธอมากเกินไปจนคือไม่หมดแล้ว เรื่องต่อจากนี้ฉันคนเดียวก็พอ เส้นทางที่จะโด่งดังน่ะง่ายมาก ฉันกลัวแค่ว่ารอบตัวไม่มีญาติที่ไหนแล้ว แล้วฉันก็ไม่ได้มีความรักด้วย ความอบอุ่นอย่างเดียวที่มีคือเธอ ไม่ว่าวันหลังเธอจะเห็นข่าวอะไร โปรดจำไว้ว่าหนานจิ่นผิงยังเป็นคนที่เธอรู้จักเสมอและไม่เคยมีวันเปลี่ยน"
สือฮว่ายื่นมือออกมาตบหลังเธอเบาๆ "ฉันเชื่อเธอนะ"
หนานจิ่นผิงยิ้มและทรุดตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง "ถ้าอย่างนั้นเธอต้องจำสิ่งที่เธอพูดไว้นะ รีบกลับเถอะ อย่าให้สามีรอเลย"
สือฮว่าไม่ได้โง่ เมื่อรู้ว่าหนานจิ่นผิงกำลังเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ จนทำให้เธอโด่งดังได้เลย
เธอสันนิษฐานไว้มากมาย แต่เมื่อเธอเห็นข่าวออกมาจริงๆ เธอก็อดกระตุกมุมปากไม่ได้
—— เผยภาพบนเตียงของนักแสดงชาย!
—— นักแสดงชายเกี้ยวผู้หญิงกลางดึก!
—— เปิดเผยตัวแฟนสาวลับๆ!
การค้นหายอดนิยมเต็มไปด้วยข่าวดัง มีการอ่านมากกว่า 100 ล้านครั้งและโพสต์ซ้ำมากกว่าหนึ่งล้านครั้ง
ภาพที่หลุดออกมานั้นเป็นฉากที่หนานจิ่นผิงกำลังจูบกับผู้ชายคนหนึ่ง สถานที่คือในโรงแรม และเตียงนอนก็ยังคงรกอยู่ ใครๆก็ดูออกว่าเมื่อคืนพวกเขาทำอะไรกัน
สือฮว่าเข้าใจสิ่งที่หนานจิ่นผิงพูด "ไม่ว่าวันหลังเธอจะเห็นข่าวอะไร โปรดจำไว้ว่าหนานจิ่นผิงยังเป็นคนที่เธอรู้จักเสมอและไม่เคยมีวันเปลี่ยน"
เธอยิ้ม ลงมือครั้งแรกก็เป็นข่าวด่วน หนานจิ่นผิง เธอไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้