ณ ริมชายแดนแคว้นหลางเดิม
ซั่งกวนเฮ่าพาลูกน้องมีสีหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนล้าปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางแสงตะวันที่กำลังตกดิน
แสงตะวันที่ส่องลงมาทำให้เห็นเงาที่ทอดยาวของทั้งสามคน
ด้วยพื้นที่ร้างไร้ผู้คน เมื่อมองจากด้านหลังแล้วจึงดูเหมือนเทพเจ้าที่เดินทางกลับมาจากยุคโบราณกาลก็ไม่ปาน
ทั้งสามคนเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงของแคว้นหลางโดยไม่หยุดหย่อน ครั้นเมื่อถึงยามรัตติกาลก็มาถึงถนนใหญ่ของเขตพระราชฐาน
ทว่า กลับมองไม่เห็นว่ามีคนอยู่ที่นี่
ราวกับว่าทั้งเมืองได้ร้างไปจนหมดเสียแล้ว
“ใต้เท้า เกิดอะไรขึ้นกับที่นี่กันแน่ ? เหตุใดจึงไม่มีใครอยู่เลยเล่า ?”
ลูกน้องของซั่งกวนเฮ่าอดถามออกมาไม่ได้ ทั้งสามคนพากันมองเขตพระราชฐานที่ว่างเปล่า ในใจก็เกิดความรู้สึกวาบหวิวขึ้นมา
ซั่งกวนเฮ่าส่ายหน้าด้วยเขาเองก็ยังอยู่ในอาการมึนงง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
แคว้นหลางเล่า ?
ผู้คนหายไปไหนกันหมด ?
ทั้งสามคนพากันเดินไปก็พบว่าไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว
ต่อมาพวกเขาจึงค่อยพบโรงเตี๊ยมร้างเพื่อพักผ่อนสักคืน
ซั่งกวนเฮ่าจึงเอ่ยขึ้น “ข้าสังเกตมาตลอดทาง ที่นี่ไม่มีร่องรอยการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย แม้แต่สิ่งของที่ครบถ้วนสมบูรณ์สักชิ้นก็ไม่มี ดูเหมือนว่าจะย้ายที่ตั้งแคว้นไปเสียแล้ว... พวกเขาทิ้งเมืองนี้ไปแล้วละ”
“ทิ้งเมืองหรือ ?” ผู้ติดตามทั้งสองคนต่างพากันตกตะลึง
เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่ ?
ซั่งกวนเฮ่าเอ่ยต่อไป “ดูเหมือนว่าช่วงที่พวกเราจากที่นี่ไปจะเกิดเรื่องขึ้นไม่น้อยเลย”
“ใต้เท้า ข้าจำได้ว่าแคว้นหลางมีที่ตั้งของสมาคมเทียนตี้เรา”
“ไปดูกันเถิดว่ายังมีคนอยู่หรือไม่” ซั่งกวนเฮ่าได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยปากขึ้นมา
“ขอรับ !”
ว่าแล้วหนึ่งในสามคนก็รีบออกเดินทางไปหาทันที ทว่าไปได้ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมส่ายหัว
“ใต้เท้า ที่นี่ไม่มีคนอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าคนของเราก็ย้ายออกไปแล้วเช่นกัน”ห
ซั่งกวนเฮ่าได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้นมา
“เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าเราเข้าไปที่ราชวงศ์อู่กันเถิด”
แล้วค่ำคืนนั้นก็ผ่านไปโดยไร้ซึ่งเสียงพูดคุยใด ๆ อีก
เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนกินเสบียงแห้งเล็กน้อยพอประทังก่อนจะรีบออกเดินทางต่อ
สองวันให้หลัง
ทั้งสามคนไปถึงบริเวณใกล้กับจวนชายแดนตะวันตก แต่กลับพบว่าจวนชายแดนตะวันตกได้กลายเป็นที่ราบไปเสียแล้ว ราวกับว่าถูกอะไรบางอย่างที่น่ากลัวถล่มทั้งจวนเสียจนราบเป็นหน้ากลอง !
ตำหนักที่ใหญ่โตรโหฐานแห่งนั้น บัดนี้กลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง !
ซั่งกวนเฮ่าวิเคราะห์อย่างใจเย็นพลางเอ่ยขึ้น
ทว่า...
พวกเขาเดินผ่านข้ามเขา ครั้นเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่เขาชิงเฟิงก็ถูกทหารม้ากลุ่มหนึ่งเข้าล้อม จากนั้นทั้งสามคนก็ถูกจับตัวมัดแขนขาแล้วพาขึ้นไปบนเขา
……
หน่วยสอดแนมคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปยังกระโจมกลางกองทัพ
ผู้บัญชาการทัพพันธมิตรอันดับหนึ่ง ผู้เคยเป็นเจิ้นเป่ยอ๋องแห่งราชวงศ์อู่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขาขมวดคิ้วฟังรายงานศึก สีหน้าดูเคร่งเครียดอยู่ไม่น้อย
ข่าวรายงานว่า จวนชายแดนตะวันตกถูกระเบิดจนราบคาบ เหยียนอ๋องและกองทัพสองแสนนายถอยร่นไปตั้งหลักที่เหยียนโจว ทัพศัตรูตามเข้าไปประชิดจนกลายเป็นศึกปะทะกันที่เหยียนโจว
ยื้อยุดฉุดดึงกันอยู่เช่นนั้น
นอกจากนี้ กองทัพของมหาจักรพรรดิและทัพของศัตรูยังปะทะกันที่ทางเหนือของเหยียนโจว ทั้งสองฝ่ายยังไม่เริ่มรบกัน แต่ก็พร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ
ข่าวทั้งสองนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีก็คือทัพจงหยวนไม่ได้มีอะไรเสียหาย ทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม
แต่ข้อเสียคือการปะทะกันระหว่างทัพจงหยวนและทัพศัตรู ความปลอดภัยของมหาจักรพรรดิยากคากเดา อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ
หากเกิดอะไรขึ้นกับมหาจักรพรรดิขึ้นมา เช่นนั้นคงเป็นมหาภัยพิบัติของจงหยวนเป็นแน่ !
เมื่อเจิ้นเป่ยอ๋องคิดดูแล้ว ดวงตาของเขาก็หรี่ลงก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น
“ถ่ายทอดคำสั่งข้าลงไป ให้แม่ทัพหวังเซิ่งนำกองทัพหนึ่งแสนนายรีบรุดไปยังเมืองหลินซุ่น ตัดทางหนีทีไล่ของทัพศัตรูที่เหยียนโจว !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...