จางฟ่างมีสีหน้าเคร่งขรึม กวาดสายตามองไปรอบๆ และพูดเสียงหนักแน่นว่า
“ดูชัดเจนแล้วหรือยัง? คำพูดเหล่านี้เป็นการใส่ร้ายท่านอ๋องทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ เวลานี้ท่านอ๋องได้พิสูจน์ให้พวกข้าทั้งหลายเห็นแล้ว! ถ้ายังมีใครกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ข้าก็จะใช้กฎทหารจัดการมัน!”
ทุกคนพากันเงียบกริบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ค่อยๆหายไป
คงจะฟังเข้าใจกันแล้ว
เวลานี้มีคนจำนวนไม่น้อยยิ่งอยู่ยิ่งเคารพยกย่องหลี่จุ่นมากขึ้น รู้สึกว่าแค่เรื่องเชือดไก่หลี่จุ่นก็ทำได้คล่องแคล่วว่องไว แม้แต่กุนซือก็ยังต้องพ่ายแพ้ต่อเขา
ฉะนั้นท่านอ๋องคนนี้จะไม่เก่งกาจได้ไง?
ถ้าแบบนี้ยังไม่เรียกว่าเก่งกาจ แล้วแบบไหนถึงจะเรียกได้ว่าเก่งกาจล่ะ?
เมื่อเห็นจางฟ่างยืนขึ้นมา หลี่จุ่นก็รับรู้ได้ว่าตนเองจะแสดงต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ในใจรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ว่า วันนี้ได้ขนาดนี้ก็พึงพอใจแล้ว!
เป้าหมายในการมาครั้งนี้สำเร็จแล้ว!
เขารีบประสานมือจากนั้นก็พูดว่า “ขอบคุณแม่ทัพทั้งสองอย่างมาก ที่เปิดโอกาสนี้ให้ข้า ทำให้ข้าสามารถชี้แจงคำครหนาเหล่านี้ได้! ข้ารู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง ”
“ท่านอ๋องพูดเกินไปแล้ว!” จางฟ่างพูดขึ้นฉับหลัน
หลังจากนั้น สองฝ่ามืออันใหญ่โบกไปมาและกล่าวว่า “ทหาร ส่งท่านอ๋องกลับจวน!”
“ขอรับ”
มีทหารสองคนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะนำหลี่จุ่นและอาหยวนกลับไป
หลี่จุ่นรู้ว่าถ้าตัวเองขืนยังอยู่ต่อที่นี่ คงจะได้รับการต้อนรับที่ไม่ดี เขาเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้อย่างดี จึงได้รีบขอตัวกลับไปก่อน
แต่ว่าผ่านทางเรื่องนี้ ต่อไปตนเองก็จะสามารถเข้าออกค่ายทหารได้อย่างอิสระ ไม่ต้องถูกจับจ้องอีกแล้ว
จะว่าไปแล้ว วันนี้มีข่าวดีเกิดขึ้นถึงสองเรื่อง
ทหารสองคนได้ส่งเขาออกจากสนามประลอง และให้พวกเขาเดินทางกลับไปเอง
อาหยวนจึงได้ถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจว่า
อาหยวนฟังเข้าใจแล้ว ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ฟังเข้าใจแล้ว ทันใดนั้นก็หรี่ตาลง และพูดขึ้นเหมือนเข้าใจเรื่องราวอีกหลายอย่างว่า
“ยกตัวอย่างเช่น ถ้าข้าน้อยได้พูดกับท่านอ๋องล่วงหน้าว่า ยามอันตรายข้าน้อยจะไม่ไปช่วยเหลือท่านอีก ในใจท่านอ๋องก็จะรู้สึกผิดหวัง เพราะคิดว่าถ้าวันหลังเกิดเรื่องอันตรายขึ้นมาข้าน้อยก็จะไม่ไปช่วยท่านแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์อันตรายขึ้นมา ข้าน้อยก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือท่านอ๋อง ในใจของท่านอ๋องก็จะเกิดความรู้สึกเช่นนั้น ความแตกต่างของอารมณ์ก่อนและหลัง ทำให้เกิดความพึงพอใจ รู้สึกว่าข้าน้อยช่างดีเหลือเกิน ท่านอ๋อง ข้าเข้าใจเช่นนี้ถูกหรือไม่?”
“…ใช่แล้ว แต่ว่าอาหยวน ทำไมเจ้าถึงยกตัวอย่างเรื่องเช่นนี้ล่ะ? ข้าฟังแล้วรู้สึกใจหาย...”
หลี่จุ่นเงียบไปชั่วครู่
อาหยวนยิ้มขึ้นมาอย่างซุกซนและพูดว่า “ไม่มีอะไร แค่เป็นยกตัวอย่างเฉยๆ เรื่องที่ท่านอ๋องพูดมาข้าน้อยเข้าใจแล้ว เป็นเช่นนี้นี่เอง ท่านอ๋อง ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!”
ประโยคสุดท้ายของอาหยวน พูดด้วยหน้าตาจริงจังสุดขีด
เธอรู้สึกว่าหลี่จุ่นเก่งมาก ไม่ใช่เพราะว่าเขาเชือดไก่หรือต่อสู้กับผู้อื่นเท่านั้น แต่เป็นเพราะหลี่จุ่นมีความรอบรู้หลายเรื่อง!
เหมือนจะรู้ไปหมดทุกอย่าง
ทั้งเรื่องเต้าหู้ สุราหลงไถ เขาเป็นคนคิดขึ้นมาเองทั้งนั้น อีกทั้งยังแต่งกลอนได้…ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...