องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 514

จี้จงชิงปรากฏตัวพร้อมกับจงจื่อหนิง ทั้งสองขี่ม้าขึ้นมาอยู่ตรงหน้าทัพใหญ่

ยามนี้ ทั้งสองกำลังมองพวกพันเซิ่งอยู่ ความเลื่อมใสมีอยู่ทั่วใบหน้า

เดิมนึกว่าทัพของแคว้นเยียนจะไปด่านเฮยเฟิง บุกโจมตีทัพหลี่จุ่นที่จะกลับทางใต้เลย

แต่คิดไม่ถึงว่ากองทัพนี้จะกล้ามาหาพวกเขาที่มีกำลังพลอยู่สามพัน ไม่สิ น่าจะเป็นสี่หมื่นต่างหาก

นี่มิใช่เข้าสู่กับดักรนหาที่ตายเองหรือ

ตอนที่จี้จงชิงได้รับข่าวจากหน่วยสอดแนมหัวเราะทันที ยินดีปรีดาไม่ต้องเปลืองแรงจริงแท้

มาหาถึงที่เอง เขาไม่ต้องไปไหนอีก

“ใครคือผู้บัญชาการทัพของเจ้า มาคุยกันหน่อยสิ!”

จงจื่อหนิงขี่ม้าถือทวน ใบหน้าเย็นเฉียบ ตะโกนไปทางทัพเยียนที่ถูกล้อม

แม้พันเซิ่งจะตกใจไม่น้อย แต่อย่างไรก็เป็นแม่ทัพคนหนึ่ง และเคยเผชิญเหตุสำคัญมาประมาณหนึ่งแล้ว

เขาสงบใจอย่างรวดเร็ว เดินหน้ากำหมัดเอ่ย

“ข้าพันเซิ่ง ไม่ทราบท่านคือใครหรือ”

“พันเซิ่งหรือ”

จงจื่อหนิงทำหน้างุนงง จี้จงชิงที่อยู่ด้านข้างกลับวาบความประหลาดใจเล็กน้อยผ่านดวงตา

จี้จงชิงเอ่ย “เจ้าก็คือแม่ทัพพันเซิ่งลูกน้องของซือหม่าชิงอวิ๋นหรือ”

จี้จงชิงเคยศึกษาแม่ทัพของแคว้นเยียนอย่างละเอียดมาก่อน ย่อมคุ้นเคยกับพันเซิ่งที่มีชื่อเสียงเล็กน้อยผู้นี้เป็นธรรมดา

หนึ่งในลูกน้องมือดีของซือหม่าชิงอวิ๋น และยังอาจกล่าวได้ว่าเป็นแม่ทัพใหญ่อันดับหนึ่งของซือหม่าชิงอวิ๋นก็ได้ด้วย

ในอดีตเคยมีคนหยิบยกเขาวิพากษ์วิจารณ์ร่วมกับหวังเซิ่งแม่ทัพใหญ่ราชวงศ์อู่ที่ปัจจุบันรักษาการณ์อยู่ด่านเฟิงเป่ย บอกว่าอนาคตทั้งสองต้องได้นำทัพในแดนหนึ่งแน่นอน

คะแนนสูงเช่นนี้ จี้จงชิงต้องให้ความสนใจอย่างยิ่งอยู่แล้ว

แต่คิดไม่ถึง พันเซิ่งผู้นี้กลับมาหาที่ตายเอง ช่างชวนให้คนรู้สึกตกใจเหลือเกินจริง ๆ

พันเซิ่งคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะรู้จักเขา ตกใจนิดหน่อยเหมือนกัน จากนั้นก็มองจี้จงชิงด้วยแววตาแข็งเกร็ง แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีสายฟ้าวาบเข้ามาในหัว เขาชี้จี้จงชิงและพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“เจ้าก็คืออัครมหาเสนาบดีแห่งราชวงศ์อู่จี้จงชิง!”

ครั้นได้ยิน จี้จงชิงก็ทึ่งไปเล็กน้อยเหมือนกัน จากนั้นก็พยักน้อย ๆ หน้ายิ้มเอ่ย

“ฮ่า ๆ ๆ ถูกแม่ทัพพันรู้ได้ ช่างเป็นเกียรติของข้านัก”

จี้จงชิงจริง ๆ ด้วย!

พันเซิ่งใบหน้าเปลี่ยนสี!

พันเซิ่งอึ้งและแอบโล่งอก

ตายดีมิสู้อยู่อย่างอัปยศนะ

ถึงจะเป็นนักโทษ แต่ก็ยังดีกว่าถูกคนบั่นคอ

พันเซิ่งเป็นแม่ทัพนามหนึ่ง ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้างในสนามรบ หากเป็นเพียงคนคร่ำครึ

แน่นอน ถ้าใช้กำลังให้เขาก้มหัวนั่นต้องไม่ได้แน่ เพราะยังหยิ่งในศักดิ์ศรีบางส่วน คนผู้นี้เป็นพวกกินไม้อ่อนไม่กินไม้แข็ง

ยามนี้จี้จงชิงจึงพูดนิ่ม เช่นนั้นเขาก็ต้องหลงไม้นี้อยู่แล้ว

จี้จงชิงพูดต่อ

“แต่ในเมื่อเวลานี้ข้าจับแม่ทัพพันได้แล้ว ชีวิตของแม่ทัพพันย่อมอยู่ในมือข้า ดังนั้นข้าขอถามแม่ทัพพันสักหน่อย ทัพเยียนลงใต้ครานี้ มีเพียงทัพของแม่ทัพพันหรือไม่ อีกเรื่อง การที่แม่ทัพพันเคลื่อนพลครานี้ ก็เพื่อสกัดโจมตีทัพที่ขึ้นเหนือไปและกลับลงใต้ของข้าใช่หรือไม่”

พันเซิ่งก็เป็นพวกรู้จักดูสถานการณ์เหมือนกัน มาถึงขั้นนี้แล้ว ปากแข็งไปก็ไม่มีประโยชน์ จี้จงชิงผู้นี้รู้หมดแล้ว

พันเซิ่งพยักหน้าพลางกัดฟันตอบ “ถูกต้อง จุดประสงค์การเคลื่อนทัพคราวนี้ของข้าผู้แซ่พัน...ก็คือทัพใหญ่ที่จะลงใต้ของพวกเจ้านั่นแหละ”

“ฮ่า ๆ ๆ! เจ้ากลับพูดมาได้ไม่ละอาย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดคราวนี้จึงแพ้”

จี้จงชิงยังไม่ทันพูด จงจื่อหนิงก็หัวเราะถามพันเซิ่งแบบเหน็บแนม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน