องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 606

เมื่อทั้งสองคนกินข้าวเสร็จแล้ว

อาหยวนเก็บข้าวของเสร็จพอดี ขณะที่กำลังกอดรัดกับหลี่จุ่นอยู่นั้นเอง บรรยากาศกำลังเริ่มแปลกไป แต่แล้วก็มีเสียงรายงานดังขึ้นจากนอกกระโจม

“ท่านจอมทัพ แม่ทัพหวังเซิ่งขอเข้าพบขอรับ !”

เมื่ออาหยวนได้ยินเสียงก็รีบลุกขึ้นทันที ใบหน้านั้นแดงฝาดไปทั่ว

หวังเซิ่งกลับมาแล้วหรือ ?

หลี่จุ่นยังอยู่ในอารมณ์ก็จริง แต่การที่หวังเซิ่งกลับมาแล้วมาหาตนเอง นั่นก็แปลว่าต้องมีธุระเป็นแน่ เขาจึงเอ่ยตอบรับทันที

“ให้แม่ทัพหวังเข้ามาได้”

หวังเซิ่งผู้สวมใส่เกราะทองก้าวเข้ามาในกระโจม ร่างสูงใหญ่ทำมือคำนับ

“ข้าน้อยคารวะท่านจอมทัพ !”

“แม่ทัพหวังกลับมาแล้ว ลำบากท่านแล้วละนะ” หลี่จุ่นพยักหน้าแล้วจึงเอ่ยถาม “แม่ทัพหวังมีเรื่องจะมารายงานหรือ”

หวังเซิ่งพยักหน้ารับ

“ท่านจอมทัพ ก่อนนี้ที่ข้าให้หน่วยมือระเบิดไล่ตามศัตรูไป สังหารทัพศัตรูที่หุบเขาหัวเสือและด่านเฮยเฟิงไปสี่หมื่นกว่านายขอรับ !”

หืม ?

หลี่จุ่นถึงกับตกตะลึงไปในชั่วครู่

อาหยวนเองก็ตกใจไม่แพ้กัน

สี่หมื่นนายหรือ ?

บ้าไปแล้ว !

“เดี๋ยว... เดี๋ยวก่อน... ท่านแม่ทัพหวัง ท่านให้หน่วยมือระเบิดทำการจู่โจมระเบิดทัพศัตรูไปมากน้อยเพียงใดนะ ?” หลี่จุ่นที่เอ่ยมาจนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกตกตะลึงอยู่ไม่คลาย

เหตุใดจึงระเบิดคนตายไปมากอีกถึงเพียงนี้....

หวังเซิ่งพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงขรึม

“ใช่ขอรับท่านจอมทัพ ! เหล่าหน่วยมือระเบิดซุ่มโจมตีที่หุบเขาหัวเสือ ระเบิดศัตรูตายไปหกเจ็ดพันคน จากนั้นผู้บังคับกองพันหยางก็พาคนไปซ่อนในด่านเฮยเฟิง อาศัยจังหวะที่ศัตรูหย่อนการป้องกัน ระเบิดล้อมรอบ ทำให้ทัพศัตรูตายไปสามหมื่นห้าพันคน บาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วนขอรับ !”

“แม่ทัพเฮยเถี่ยถูของฝ่ายศัตรูนั้นบาดเจ็บหนัก ทัพเฟิงเฉวี่ยนหมดซึ่งกำลังใจ ไร้ซึ่งอำนาจ ! ขอท่านจอมทัพออกคำสั่ง ข้ายินดีนำทัพออกเดินทางไปกวาดล้างศัตรูให้สิ้น !”

เมื่อฟังจบ หลี่จุ่นก็เอามือปิดหน้าช้า ๆ แล้วเอ่ยขึ้น

“แม่ทัพหวัง... เจ้าสร้างโจทย์ยากให้ข้าเสียแล้ว”

บ้าจริงเชียว...

เจ้าหมอนี่ทำไมถึงได้ทำให้เฮยเถี่ยถูบาดเจ็บหนักโดยไม่บอกไม่กล่าวกันก่อน... แถมยังทำให้อีกฝ่ายตายไปเยอะถึงเพียงนี้...

เช่นนี้ก็เท่ากับว่าแผนการตัวเองเละไม่เป็นท่าน่ะสิ

หวังเซิ่งเริ่มเกิดความกังวลขึ้นนิด ๆ ด้วยไม่รู้ว่าหลี่จุ่นต้องการสื่อถึงเรื่องใด การทำลายศัตรูได้มิใช่เรื่องดีหรอกหรือ ?

แล้วเหตุใดสีหน้าของท่านจอมทัพจึงได้ดูกังวลมากถึงเพียงนี้เล่า

“เรื่องนี้...”

เพียงหวังเซิ่งได้ยิน เขาก็ตกใจขึ้นมาทันที “ท่านจอมทัพ นี่ท่านหมายความว่า...”

อาหยวนเองก็มองหลี่จุ่นอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับซือหม่าชิงอวิ๋นด้วยเล่า ?

หลี่จุ่นจึงอธิบายว่า "เทือกเขาชิงเฟิงอยู่ใกล้กับเมืองหลวงเฟิงเฉวี่ยนมากกว่ากองทัพของเรา เมื่อซือหม่าชิงอวิ๋นนั่นรู้ว่าฮูเถี่ยถูพ่ายแพ้ กลายเป็นกลุ่มทหารที่แพ้พ่ายไปแล้ว เขาย่อมไม่พลาดโอกาสที่จะเข้ายึดครองทัพของฮูเถี่ยถูโดยสมบูรณ์อย่างแน่นอน ดังนั้น แม้ว่ากองทัพของเราจะไปทางเหนือตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้ว... นั่นคือเหตุผลที่ข้าบอกว่าสิ่งที่เราทำนี้เป็นการเอื้ออำนวยให้ซือหม่าชิงอวิ๋น"

“หา !”

เมื่อฟังจบ หวังเซิ่งก็เข้าใจแจ่มชัดขึ้นมาทันที จนถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเสียดาย

อาหยวนเองก็เข้าใจขึ้นมาได้เช่นกัน

หลี่จุ่นยิ้มและพูดว่า "แม่ทัพหวัง อย่ารู้สึกเสียดายไปเลย ถ้าซือหม่าชิงอวิ๋นต้องการยึดก็ให้เขายึดไป เป็นเช่นนี้ก็ดี แบบนี้ข้าก็จะเหลือศัตรูเพียงคนเดียวเท่านั้น จะได้ง่ายต่อการต่อสู้ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ถึงอย่างไรก็ต่อสู้ง่ายกว่าการสู้กับสองคน”

“เฮ้อ ขอรับ...” หวังเซิ่งก็ยังอดเสียดายไม่ได้อยู่ดี

หลี่จุ่นยิ้มรับ “แม่ทัพหวังเองก็ลำบากมากแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถิด รอพรุ่งนี้ค่อยมาปรึกษากันอีกที”

“ขอรับ ข้าขอตัวก่อน” หวังเซิ่งพยักหน้า แล้วรีบถอยออกไปทันที

เมื่อรอจนหวังเซิ่งเดินจากไปไหนแล้ว หลี่จุ่นจึงค่อยส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอันเบา

“แม่ทัพหวังของเรา ยังต้องเรียนรู้กันอีกสักพักเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน