เมืองเฟิงหั่ว
จี้จงชิงอยู่ในกระโจมจอมทัพเมื่อหยางเฟิงเข้ามา และรายงานว่า
“ท่านอัครมหาเสนาบดี หน่วยตรวจตราจากพื้นที่โดยรอบได้รายงานว่า หน่วยตรวจตราที่ต้องสงสัยว่ามาจากทัพแคว้นเยียนได้ไปที่เมืองเฟิงหั่วและมุ่งหน้าไปทางทิศใต้แล้ว...ท่านอัครมหาเสนาบดี จะให้คนไปสังหารเลยหรือไม่”
จู่ ๆ จี้จงชิงก็หรี่ตาลง เขาหัวเราะแล้วพูดว่า
“ท่านจอมทัพของพวกเจ้าพูดไม่มีผิดเลยจริง ๆ ทันทีที่ซือหม่าชิงอวิ๋นพบสิ่งผิดปกติ เขาจะต้องสืบหาทิศทางที่ไปของกองกำลังหลักในเมืองทันที แต่ว่า อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่ามและปล่อยให้พวกเขาสืบไปก่อน ให้พวกเขาสืบได้ว่ากองทัพใหญ่จะไปที่ใด”
เป็นธรรมดาที่หยางเฟิงจะไม่เข้าใจ จึงทำได้แค่เพียงพยักหน้า
จอมทัพพูดไว้ว่าอย่างไรก็คืออย่างนั้น และอัครมหาเสนาบดีพูดไว้อย่างไรก็คืออย่างนั้นเช่นกัน
หยางเฟิงรีบออกไปทันที
หลังจากนั้น จี้จงชิงก็เขียนจดหมายบนโต๊ะทันที เรียกหน่วยสอดแนมเข้ามาแล้วสั่งการ
“ให้นกพิราบส่งสารนำจดหมายนี้ส่งให้แม่ทัพหวังเซิ่งทันที!”
“ขอรับ!”
หน่วยสอดแนมรับจดหมายและรีบไปจัดการให้อย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากนั้น
นกพิราบสีขาวตัวหนึ่งก็บินออกจากเมืองเฟิงหั่วไปทางใต้ บินไปเรื่อย ๆ โดยแวะพักบนยอดไม้ระหว่างทาง
จับแมลงมากิน ดื่มน้ำ และหลับพักผ่อน
จากนั้นก็เดินทางต่อไป และในที่สุดหลังจากผ่านไปครึ่งวันก็เห็นกองทัพใหญ่กำลังเคลื่อนทัพอย่างช้า ๆ
นกพิราบบินลงมาบนกรงนกพิราบของหน่วยสอดแนมกองทัพ ทหารสอดแนมคว้ามันไว้ ถอดจดหมายออกจากเท้าแล้วรีบวิ่งไปที่ด้านหน้าแม่ทัพของกองทัพใหญ่อย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่ทัพ จดหมายจากเมืองเฟิงหั่วขอรับ!”
กองทัพนี้เป็นกองทัพพิทักษ์อุดรหนึ่งแสนนายซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังด่านเฟิงเป่ยโดยมีหวังเซิ่งเป็นผู้นำทัพ!
“ส่งมา!”
หวังเซิ่งนั่งอยู่บนหลังม้าอย่างสง่าผ่าเผย
เขาหยิบจดหมายจากผู้ช่วยและเปิดอ่าน ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็นิ่งค้าง หยิบจดหมายใส่ปากแล้วเคี้ยวทันที และกล่าวว่า
“ส่งคำสั่งไปยังทั้งกองทัพ ให้ทิ้งสัมภาระทั้งหมด เก็บน้ำและอาหารไว้เพียงวันเดียว เดินทัพเต็มกำลัง และต้องถึงด่านเฟิงเป่ยตอนรุ่งสางพรุ่งนี้!”
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ส่งสารก็ประกาศเสียงดังไปยังกองทัพทันที
“ใช่ ความดีความชอบทั้งหมดถูกแม่ทัพหวังแย่งชิงไปแล้ว...”
พวกเขาตำหนิอยู่ไม่น้อย
เมื่อจงจื่อหนิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ขมวดคิ้วและตำหนิเบา ๆ
“หุบปากเสีย ท่านจอมทัพทำอะไรย่อมมีเหตุผล อย่ามาบ่นที่นี่ ถ้าทำเสียงานใหญ่ ไม่ได้งานแล้วยังจะเป็นผลเสีย ข้าก็ไม่เว้นนะ”
ผู้ช่วยทั้งสองเบะปากอย่างไม่เห็นด้วย
พวกเขารู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าแม่ทัพใหญ่ของพวกเขากังวลมากกว่าพวกเขาเสียอีก แต่ก็ไม่กล้าแสดงอาการใด ๆ ออกมา
แม่ทัพใหญ่ของพวกเขาเป็นพวกชอบแทงคนด้วยทวน หนึ่งวันไม่ได้แทงคนก็จะรู้สึกไม่สบายใจแล้ว คนที่ชอบสงครามแบบนี้จะสงบสติอารมณ์ขนาดนี้ได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาพูดก็เป็นความจริงเช่นกัน
ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านจอมทัพถึงส่งพวกเขามาที่นี่ แต่กลับไม่ได้บอกพวกเขาอย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจยากจริง ๆ
จงจื่อหนิงลูบคางของเขา ขมวดคิ้ว และกระซิบเบา ๆ กับตัวเองว่า
“หวังเซิ่งไปด่านเฟิงเป่ยจริง ๆ รึ ท่านจอมทัพคิดอะไรอยู่กันแน่ ให้ไปสู้กับโจวชิงที่ด่านเฟิงเป่ยควรเป็นข้าน่าจะเหมาะกว่า ได้ยินมาว่าวรยุทธ์ของโจวชิงนั้นเก่งกาจ ต้องเป็นคู่ต่อสู้กับข้าได้แน่ ๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...