องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 655

เทือกเขาชิงเฟิง

ทัพแคว้นเยียนกวาดล้างตลอดทั้งวันโดยไม่มีผลใด ๆ และไม่พบที่อยู่ของทหารม้ากลุ่มนั้นเลย เมื่อมีการรายงานข่าวไปยังค่าย ซือหม่าชิงอวิ๋นและหลายชายก็กัดฟันด้วยความโกรธ

“เกลียดมันจริง ๆ กองทัพหนึ่งแสนห้าหมื่นคนของข้าถูกทหารม้าสองพันคนปั่นจนหัวหมุน!” ซือหม่าเหย่เป็นคนแรกที่ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ

ซือหม่าชิงอวิ๋นยังคงทำหน้านิ่งเป็นปกติ

นี่ก็ถือเป็นความอัปยศอดสูอย่างหนึ่ง!

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอยู่ในขณะนี้

หน่วยตรวจตราและหน่วยสอดแนมที่ลงใต้คงถึงเวลากลับมาแล้ว ข่าวนี้ถูกส่งไประหว่างทาง เร็วกว่าการส่งคนไปคนเดียวหลายเท่าซึ่งปกติจะใช้เวลาหลายวัน แต่ตอนนี้ใช้เวลาแค่เพียงสองวันก็พอ

คืนนี้ถึงเวลาแล้ว

อย่างที่คาดไว้ เมื่อถึงเวลาหลังเที่ยงคืน

หน่วยตรวจตราที่กลับมาจากการเดินทางอันแสนเหน็ดเหนื่อยก็มาถึงที่กระโจมจอมทัพและรายงานผล

หน่วยสอดแนมและหน่วยตรวจตราติดตามไปทางใต้และในที่สุดก็พบว่ากองกำลังหลักของกองทัพพิทักษ์อุดรได้เดินทางไปที่ด่านเฟิงเป่ย หน่วยตรวจตราบางส่วนจึงรีบกลับมารายงานสถานการณ์ทันที แต่มีบางส่วนที่ได้ติดตามไปจนถึงด่านเฟิงเป่ย เพื่อยืนยันว่าอีกฝ่ายได้ไปเสริมกำลังที่ด่านเฟิงเป่ยจริง ๆ หรือไม่

“โจรจี้ผู้นี้ใจกล้าจริง ๆ! เขาไม่ได้สนใจทัพแคว้นเยียนของเราเลยงั้นรึ ไม่นึกเลยว่าเขาจะทิ้งกองทัพของข้าที่มีทหารถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นคนอย่างไม่ใยดีและไปเสริมกำลังที่ด่านเฟิงเป่ยแทน ไร้เหตุผลสิ้นดี! ท่านอา นี่มันดูถูกข้ากันชัด ๆ!”

ซือหม่าเหย่โกรธมาก

พวกเขาถูกยั่วยุโดยทหารม้าเพียงสองพันนาย และตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่ากองกำลังหลักของฝ่ายตรงข้ามมองว่าพวกเขาไม่มีอะไรเลย จึงไปที่ด่านเฟิงเป่ยแทน!

ถ้าไม่ได้ดูถูกพวกเขาแล้วมันคือสิ่งใดกัน!

นี่ถือเป็นความอัปยศอดสูสำหรับพวกเขา!

ซือหม่าเหย่โกรธจัด!

ซือหม่าชิงอวิ๋นขมวดคิ้วและสรุปเอาว่า

“เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบ น่าจะเป็นแผนการของโจรจี้ กองกำลังหลักของกองทัพพิทักษ์อุดรอาจจะไปแล้วกลับมา เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายจะไปถึงด่านเฟิงเป่ยจริง ๆ มิฉะนั้นอาจเป็นกับดักได้ตลอดเวลาและกองทัพของเราต้องไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม”

ซือหม่าเหย่กล่าว “ท่านอา ถ้ากำลังหลักของอีกฝ่ายไปที่ด่านเฟิงเป่ยจริง ๆ...หมายความว่าโจรจี้จงใจทำให้เราสับสน คิดผิดว่าเป็นกับดัก และชะลอความเร็วในการส่งทหารของทัพเราไปอย่างนั้นรึ”

บนเนินเขาห่างจากกองประจำการทัพแคว้นเยียนที่เทือกเขาชิงเฟิงไปสิบลี้ กลุ่มทหารม้าของหลี่จุ่นก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่เร่งรีบพร้อมด้วยหน่วยมือระเบิดของเจ้าอ้วนหลิว

“พี่จุ่น เราควรลงมือตอนนี้เลยหรือไม่” เจ้าอ้วนหลิวถามอย่างกังวลใจเล็กน้อย

หลี่จุ่นพยักหน้าและกล่าวว่า “เมื่อจูเหล่าซานและคนอื่น ๆ มาถึง ข้าจะแกล้งทำเป็นจู่โจมและล่อกองทัพของฝ่ายตรงข้ามออกมา เจ้าใช้โอกาสนี้ไปที่กระโจมจอมทัพของซือหม่าชิงอวิ๋น”

เมื่อคืนที่ผ่านมาจูเหล่าซานและคนอื่น ๆ ถอยออกไปห้าสิบลี้ พวกเขาถูกเรียกกลับมาก่อนเที่ยง และได้รับคำสั่งให้เดินทัพในตอนกลางคืนและมาถึงที่นี่เพื่อพบกันก่อนเที่ยงคืน

“แกล้งทำเป็นจู่โจม?”

เจ้าอ้วนหลิวไม่เข้าใจคำศัพท์เฉพาะนี้

หลี่จุ่นอธิบาย “หมายถึงแสร้งทำเป็นโจมตี ข้าจะเฝ้าดูไฟที่ได้ที่และนำทหารม้าบุกไปที่กระโจมจอมทัพ เมื่อตัดวงล้อมแล้ว ให้รีบถอยอย่างรวดเร็ว...เจ้าต้องคว้าโอกาสรีบพุ่งเข้าไปทันทีและทำสิ่งหนึ่ง โยนระเบิดไว้สิบลูกแล้ววิ่งหนีออกมาทันที!”

“ขอรับ พี่จุ่น!”

เจ้าอ้วนหลิวพยักหน้าทันที ดวงตาของเขาเป็นประกายในขณะที่รู้สึกประหม่า!

โอกาสในการสร้างวีรกรรมมาถึงแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน