องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 790

ยามค่ำคืนย่างกรายเข้ามา

ทัพใหญ่ใกล้มาถึงเมืองหลวงแล้ว

แต่ว่าทิศทางการเดินทัพนั้นไม่ผ่านเมืองหลวง ทว่ากลับเดินทัพไปทางหลงหู่ไถที่อยู่ตงเป่ยเลย หากจะผ่านเมืองหลวง ยังต้องเดินทัพอ้อมไปยี่สิบลี้

แต่ว่าก็พอสามารถมองเห็นเมืองหลวงได้

แม้จะอยู่ในช่วงหลางคืน แต่ยืนมองจากบนเขาไกล ๆ แสงไฟเปล่งประกายวิบวับก็ยังสามารถมองเห็นได้อย่างเลือนลาง

“แพร่คำสั่งลงไปที่ทัพ เดินหน้าต่อไป เดินหน้าไปยังหลงหู่ไถ!”

หลี่จุ่นรั้งบังเหียนม้าให้หยุด ก่อนจะพูดสั่ง

“ขอรับ!”

หวังเซิ่งรีบรับคำสั่ง ก่อนจะนำทหารเดินหน้าต่อไป

หม่าหยวนฮั่นและจงจื่อหนิงถูกเรียกตัวมา หลี่จุ่นเอ่ยขึ้นว่า “พี่หม่า จื่อหนิง ตามข้ากลับไปเมืองหลวงเถิด”

จงจื่อหนิงและหม่าหยวนฮั่นพลันอึ้งไปตาม ๆ กัน

ช่วงเวลานี้เร่งรีบถึงเพียงนี้ เหตุใดยังจะเสียเวลาเข้าเมืองหลวงอีกเล่า?

ทั้งสองคนไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย แต่ทว่าเมื่อหลี่จุ่นเป็นคนเอ่ยปาก พวกเขาก็ย่อมติดตามไปอยู่แล้ว

ทั้งสามคนขี่ม้ากันคนละตัว เปลี่ยนไปเส้นทางสายหลักมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง

ขี่ม้าแล่นไปไม่ถึงประมาณสิบลี้ ก็เห็นว่าข้างทางมีโรงเตี๊ยมที่แขวนโคมไฟต้อนรับแขก

โรงเตี๊ยมนี้ด้านหน้าประมาณหนึ่งลี้จะเป็นเรือนรับรอง โรงเตี๊ยมเหล่านี้เพื่อเก็บเกี่ยวอัตราการเข้าใช้เรือนรับรอง โดยปกติแล้วต่างจะเปิดใกล้ ๆ

หลี่จุ่นคิดว่ากิจการโรงเตี๊ยมนี้ทำยากมาก ๆ

แม้ต้องเก็บเกี่ยวอัตราการไหลเวียนเข้าให้ได้แล้ว ด้านความปลอดภัยเองก็ต้องมีการป้องกันไม่น้อยเช่นกัน

แต่ทว่าที่ที่ยิ่งเข้าใกล้เมืองหลวง ส่วนมากแล้วล้วนเป็นแขกคนสำคัญที่มีคุณสมบัติได้เข้าพักเรือนรับรองทั้งสิ้น

หลี่จุ่นรู้สึกว่าปากแห้งอยู่เล็กน้อย จึงรั้งบังเหียนม้าให้หยุด ก่อนจะล้วงกระบอกน้ำออกมาคิดจะดื่มน้ำ ทว่ากลับพบว่าไม่มีน้ำแล้ว

เขาพลันขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“เราเข้าไปดื่มน้ำสักถ้วยกันเถอะ”

เขาพูดพลางพลิกตัวลงจากม้า

พวกหม่าหยวนฮั่นทั้งสองคนเองก็พลิกตัวลงจากม้าเช่นกัน จากนั้นก็ผูกม้าเอาไว้ข้าง ๆ

“ให้ตายเถอะ ท่านทั้งสาม ท่านทั้งสามทำงานหามรุ่งหามค่ำ กำลังจะเข้าเมืองหลวงใช่หรือไม่? กลางค่ำกลางคืนมันจะไม่ปลอดภัยเอานะ”

บ่าวของโรงเตี๊ยมแห่งนั้นเห็นทั้งสามคนเดินเข้าประตูมา ก็รีบออกมาต้อนรับอย่างเป็นมิตร ในขณะเดียวกันก็เริ่มพูดกระตุ้นใจแขก

หากทั้งสามคนเข้าพักที่โรงเตี๊ยมเช่นนั้นก็เป็นเรื่องดีมาก ๆ

หากไม่ใช่คำพูดของตนก็อาจจะยั่วยุให้อยากพักก็ได้

เมื่อได้ยินว่าไม่ปลอดภัย ตัวเขาก็จะพูดโน้มน้าวต่อว่านักเดินทางส่วนใหญ่ต่างก็เลือกพักที่นี่กันทั้งนั้น

ผู้เป็นบ่าวเอ่ยคำเหล่านี้ขึ้นอย่างชำนาญ

หลี่จุ่นเอ่ย “ไปเอาของกินมาให้พวกข้าทั้งสามก่อน แล้วก็เอาเหล้ามากาหนึ่ง น้ำเปล่ามากาหนึ่ง”

ผลลัพธ์จากการจัดการเรื่องของกั๋วจิ้วผู้เฒ่าไม่เลวเลยทีเดียว

เพียงแต่ไม่รู้ว่าต่อรองการแบ่งผลกำไรกับแม่นางหวังไว้ที่เท่าไร

ผ่านไปไม่นาน ผู้เป็นบ่าวก็ยกอาหารรองท้องถ้วยเล็ก ๆ ออกมาสองสามจานพร้อมด้วยถัวลิสงสามพับ เหล้าสองไหและน้ำเปล่าหนึ่งกา

“ทั้งสามท่าน ทานให้อร่อยนะขอรับ!”

ทันใดนั้นเขาก็รีบถอยออกไปทันที

หม่าหยวนฮั่นและจงจื่อหนิงทั้งสองคนถูมือ จากนั้นก็รีบยืนมือไปทางไหเหล้า

แต่ทว่าหลี่จุ่นกลับหยิบออกมาหนึ่งไหจากในนั้นก่อนก้าวหนึ่ง ทั้งสองคนพลันงงเป็นไก่ตาแตกเลย

หลี่จุ่นหัวเราะพลางเอ่ยขึ้นว่า “ข้าไม่ดื่มของพวกท่านหรอก เพียงแค่อยากจะดูว่าเป็นของจริงหรือของปลอม”

ในตอนนี้เองทั้งสองคนถึงได้วางใจ

หลี่จุ่นมองตัวอักษรหลงไถสองตัวที่สลักอยู่บนไหเหล้า และยังมีตราที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำขึ้นตอนเผาไห เขาพลันลอบพยักหน้า ก่อนจะส่งสุราให้ทั้งสองคน

สุรานี้เป็นของจริงอย่างแน่นอน!

เครื่องหมายการค้าอยู่บนไห

พวกหม่าหยวนฮั่นทั้งสองคนรีบเปิดไหแล้วดื่มอย่างรอไม่ไหวแล้ว!

“ท่านทั้งสาม ขอนั่งด้วยอีกคนได้หรือไม่?”

ในตอนนี้เองจู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มที่ดูค่อนข้างสง่างามผู้นี้เปิดประตูแล้วเดินเข้ามา เขากวาดสายตามองทีหนึ่ง เมื่อเห็นทั้งสามคนก็รีบยิ้มเล็กน้อยพลางเดินเข้ามา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน