หลังจากที่หลินชิงเหยาได้สติ นางก็หัวเราะกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าหม่อมฉันจะเข้าไปยุ่งโดยมิจำเป็น วางพระทัยเถิดเพคะ องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะมิเข้ามารบกวนท่านอีก"
นางดูหดหู่ใจ ความโศกเศร้าจาง ๆ ยังคงอยู่บนใบหน้าอันบอบบางของนาง หลังจากพูดเช่นนั้นแล้วนางก็หันหลังเดินจากไป
สตรีผู้นี้มีความรู้สึกต่อเขาอย่างเห็นได้ชัด!
ฉินซูยิ้มอย่างมีเสน่ห์ พลันคว้าแขนขาวดั่งหยกอันละเอียดอ่อนของหลินชิงเหยาแล้วดึงนางเข้าไปในอ้อมอก
ร่างกายที่บอบบางของหลินชิงเหยาสั่นสะท้าน และตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้
เมื่อตระหนักรู้ตัวได้เช่นนั้นนางก็พยายามจะแยกตัวออก
นางเริ่มตะโกน
“องค์รัชทายาท ท่านจะทำอะไร ปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้!”
ฉินซูยื่นมือออกมาเชยคางของนางแล้วจ้องมอง
เมื่อสบกับสายตาเจ้าเสน่ห์ของฉินซู หลินชิงเหยาก็อดมิได้ที่จะตะลึงเล็กน้อย
ตอนนั้นเองที่นางสังเกตเห็นรูปลักษณ์อันหล่อเหลาขององค์รัชทายาทไร้ค่า คิ้วคมโดดเด่น และดวงตาที่น่าดึงดูด
และนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมองนางด้วยสายตาอันลึกซึ้งเช่นนี้
ก่อนหน้านี้ แม้ว่าอ๋องฉีฉินหงจะบอกว่าเขารักนางก็ตาม
แต่เขามักจะมองนางด้วยท่าทางวางตัวราวกับว่าความรักของเขาคือการกุศล ซึ่งทำให้หลินชิงเหยารู้สึกอึดอัดใจอยู่เสมอ
แต่การจ้องมองของฉินซู ทำให้นางรู้สึกอย่างแท้จริงว่าการได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันนั้นเป็นอย่างไร
ใจของนางเต้นระรัวอย่างดุเดือด
ใบหน้าอันงดงามละเอียดอ่อนนั้นแดงระเรื่อ สวยงามและสดใสราวกับเมฆในยามพระอาทิตย์ตกดิน
ทันใดนั้น ฉินซูก็โน้มตัวลงจูบริมฝีปากสีชมพูละเอียดอ่อนของนาง
“อื้ม...”
จิตใจของหลินชิงเหยาว่างเปล่า นางรู้สึกชาไปทั่วร่าง
ฉินซูจูบนางพลางโอบแขนรอบเอวบางของนาง
หลินชิงเหยาสงบสติอารมณ์และพูดด้วยท่าทีต่อต้าน “องค์รัชทายาท อย่าทำเช่นนี้ ปล่อย... ปล่อยหม่อมฉัน…”
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะปล่อยไปฉินซูกลับกอดนางแน่นขึ้น
ก่อนที่จะเดินทางข้ามมิติมา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก เขารู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้หากสตรีบอกปฏิเสธบุรุษก็จะทำตรงกันข้าม
ทว่า หลินชิงเหยายังคงต่อต้านอยู่เล็กน้อยในตอนแรก
แต่หลังจากที่ฉินซูจูบไปสักพักนางก็ตอบกลับอย่างเชื่องช้า
หัวใจของหลินชิงเหยาเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แก้มของนางร้อนผ่าว ร่างกายร้อนรุ่มมิเป็นระส่ำ นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เมื่อมือข้างหนึ่งของฉินซูจับอกสวยของหลินชิงเหยา ร่างบางของนางก็สั่นทันที นางคว้ามือของฉินซูและพูดอย่างเขินอาย “องค์รัชทายาท อย่า... อย่าทำเช่นนี้เพคะ”
เมื่อนางพูดเสียงของนางผลุนผลันเล็กน้อย และแก้มของนางก็แดงระเรื่อ
“แต่ตัวข้าต้องการ!”
หลังจากที่ฉินซูพูดจบก็พลันอุ้มนางขึ้นมาในอ้อมแขน และหันหลังกลับเดินไปที่ห้องบรรทม
หลินชิงเหยารู้สึกทึ่งกับท่าทีที่น่าหลงใหลของฉินซู แขนเรียวเล็กทั้งสองข้างของนางโอบรอบคอของฉินซูตามสัญชาตญาณ
เมื่อเดินมาถึงห้องบรรทม ฉินซูก็อุ้มหลินชิงเหยาไปที่เตียง
หลังจากนั้นทันที ห้องบรรทมก็เต็มไปด้วยเสียง “เอี๊ยดอ๊าด” แปลก ๆ
มิรู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด
หลินชิงเหยาเหนื่อยล้าจากการถูกทรมาน แต่ในหัวใจนางก็รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง
นางแนบตัวเข้ากับแขนของฉินซูพลางจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินซูโดยจมอยู่กับความคิด
มือใหญ่ของฉินซูลูบไล้ร่างขาวบางไร้ที่ติราวกับหยกของนางอย่างได้ใจ
ความงามเช่นหลินชิงเหยาน่าจะมีอยู่ในระดับเทพธิดาของโลกก่อนที่นางจะเดินทางข้ามมิติมา
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือนางมีบิดาเป็นเสนาบดีกรมพระคลังด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน