อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 527

โม่เหว่ยพูดเป็นลางร้ายที่กลายเป็นจริง

จางลาเมี้ยนถูกประหารไปแล้วสองวัน โม่จงหรานก็มีพระราชโองการ สั่งคนนำไปยังเขาซีเซียง

โม่หุยเฟิงถูกกักบริเวณอยู่ในจวนเขาซีเซียงไปตลอดชีวิต หากไม่มีพระราชโองการห้ามก้าวออกไปจากเขาซีเซียง ห้ามเข้าเมืองหลวงไปตลอดชีวิต

อ๋องหยิงที่เคยรุ่งโรจน์อย่างที่ชุด ตอนนี้กลับตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

โม่หุยเฟิงถูกขับไล่ไปยังเขาซีเซียงไม่ถึงหนึ่งปี ก็สูญเสียคุณสมบัติในการชิงรัชทายาท ยังไม่ทันได้เข้าร่วมก็พ่ายแพ้อย่างไม่มีทางสู้

ทันใดนั้น คนในเมืองหลวงต่างก็รู้สึกถึงความอันตราย

พวกเหล่าขุนนางเผชิญหน้ากับโม่จงหรานอย่างหวาดระแวง กลัวภัยจะมาถึงตัว

ช่วงเวลานี้ โม่จงหรานเคลื่อนไหวไม่น้อย

ลงมือกับโม่ฮั่นอี่ว์ก่อน ถึงยังไม่ได้ปลดตำแหน่งอ๋องฮั่นของเขา แต่ถูกจองจำคุกหลวงก็ไม่รู้ว่าจะถูกปล่อยออกมาเมื่อไหร่

ยังกักขังคุณชายตระกูลโจวโจวฉางเฟิง พระชายาฮั่นโจวหยิงหยิงตกใจจนหลบเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องหมิง

จากนั้น พระชายาหมิงลูกสะใภ้ที่โปรดโปรานที่สุดก็ถูกจองจำคุกหลวง ทะเลาะกับอ๋องหมิงด้วยเหตุนี้อย่างรุนแรง โม่จงหรานก็ไม่เปลี่ยนใจ จนอ๋องหมิงไม่สนใจเข้าร่วมการประชุมราชการเช้า ไม่สนใจเรื่องราชสำนัก

แม้แต่ค่ายเสินจีก็ไม่สนใจ

ต่อมาก็ประหารจางลาเมี้ยน กักบริเวณท่านอ๋องสามโม่หุยเฟิง.....

เรื่องแต่ละเรื่อง พูดขึ้นมาแล้วใครจะไม่รู้สึกหวาดกลัว?

เปรียบกับภาพลักษณ์ของฮ่องเต้ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและปรีชาญาณในอดีต โม่จงหรานเหมือนคนสองคนที่แตกต่างกัน

แต่พวกเหล่าขุนนางก็รู้ ครั้งนี้โม่หุยเฟิงแตะต้องความอดทนขั้นสุดของโม่จงหราน

เขาไม่เพียงเกลียดชังการเข่นฆ่ากันระหว่างพี่น้อง ยิ่งไม่ชอบให้มีใครมาเล่นตุกติกภายใต้สายตาเขา เพราะโม่หุยเฟิงมีจางลาเมี้ยนเป็นไส้ศึกอยู่ที่นี่ จึงทำให้โม่จงหรานโกรธเคืองอย่างที่สุด

ในตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาจ้าวร้องไห้จนเป็นลมไปแล้ว

ตอนที่โม่หุยเหยียนเข้ามา จางหมัวมัวกำลังวุ่นวายสั่งคนในตำหนักไปเชิญหมอหลวงมา

“ไม่ต้องแล้ว”

โม่หุยเหยียนพูดห้ามขึ้นมาว่า “ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เสด็จแม่คงเพราะเป็นห่วงเจ้าสาม สะเทือนใจจึงหมดสติไป”

“แต่ว่าท่านอ๋อง ช่วงนี้สุขภาพเหนียงเหนียงไม่ค่อยดี”

จางหมัวมัวมองดูฮองเฮาจ้าวที่หมดสติไป แล้วพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “หลังจากถูกพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมตักเตือนแล้วส่งตัวกลับ เหนียงเหนียงนอนไม่หลับทุกคืน”

“หลายวันมานี้ ร่างกายยิ่งแย่ลง”

“ตอนนี้เหนียงเหนียงหมดสติไป ยังไงก็ต้องให้หมอหลวงตาตรวจดูไหม?”

“ข้าบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้อง เจ้าเป็นนาย หรือว่าข้าเป็นนาย?”

โม่หุยเหยียนกวาดสายตามองดูนางแวบหนึ่ง

จางหมัวมัวรู้สึกถึงแววตานี้ ทำให้นางตกใจเสียขวัญ

ปกติ อ๋องฉู่จะไม่มีแววตาที่น่ากลัวแบบนี้.....แต่สายตาเมื่อกี้ที่โหดเหี้ยมนั้น จางหมัวมัวอดไม่ได้ที่จะคิดถึงโม่หุยเฟิง

“ท่าน ท่านอ๋อง....”

“เจ้าลงไปก่อน”

โม่หุยเหยียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนลงว่า “ที่นี่มีข้าอยู่ ข้าอยู่กับเสด็จแม่ก็พอ”

“เพคะ ท่านอ๋อง”

จางหมัวมัวกลืนน้ำลายลงคอ มองดูโม่หุยเหยียนอย่างระแวดระวัง รู้สึกเหมือนว่าแววตาเมื่อกี้ ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก

นางเป็นห่วงฮองเฮาจ้าว แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งโม่หุยเหยียน

จางหมัวมัวเดินออกไปอย่างไม่วางใจ

เดิมนางคิดว่า โม่หุยเหยียนเป็นลูกชายแท้ๆของฮองเฮาจ้าว หลายปีมานี้ก็ไม่ได้กระทำเรื่องร้ายแรงอะไร จางหมัวมัวไม่ควรที่จะเป็นกังวลถึงจะถูก

แต่ตอนนี้ กลับเป็นกังวลกลัวโม่หุยเหยียนจะทำอะไรฮองเฮาจ้าว.....

จางหมัวมัวปิดประตูอย่างไม่สบายใจ

โม่หุยเหยียนค่อยหันกลับมา มองดูฮองเฮาจ้าวที่หมดสติด้วยสายตาเย็นชา

จากนั้น สายตาของเขาก็ค่อยๆกลายเปลี่ยนเป็นเฉียบคม สีหน้ายิ่งอยู่ก็ยิ่งโหดเหี้ยม

เขายื่นมือออกมา ใช้แรงกดตรงกลางเหนือริมฝีปากบนฮองเฮาจ้าว ให้นางฟื้นตื่นขึ้นมา

ฮองเฮาจ้าวลืมตาขึ้น เห็นคนที่นั่งข้างเตียงคือโม่หุยเหยียน นางลุกขึ้นมานั่งอย่างร้อนใจ คว้าจับหัวของเขาพร้อมแสดงท่าทีไม่หยุด พยายามอ้าปากพูด กลับยังไงก็เปล่งเสียงพูดอะไรไม่ได้

โม่หุยเหยียนโกรธจนคว้าจับแจกันด้านข้างขึ้นมา แล้วโยนลงพื้นอย่างแรง

ทันใดนั้น แจกันแตกกระจาย ส่งเสียงดังสนั่นไปทั่ว

ฮองเฮาจ้าวกรีดร้องขึ้นมาอย่างไม่มีเสียง กลัวจนตัวสั่น เอามือปิดหูไว้

โม่หุยเหยียนคว้าจับมือของนาง พูดขึ้นด้วยเสียงที่แทบจะเป็นเสียงคำรามว่า

“ท่านมองดูข้าสิ ข้าก็เป็นลูกชายของท่าน ข้าเป็นลูกชายคนโตของท่าน ข้าไม่เหมือนเจ้าสามตรงไหน ท่านถึงได้ปกป้องแต่เจ้าสามขนาดนี้?”

ท่าทีโม่หุยเหยียนตอนนี้ค่อนข้างน่ากลัว

เหมือนเขาจะเสียสติไปแล้ว

ดวงตาแดงก่ำ เส้นเอ็นบนหน้าผากนูนกระตุก ใบหน้าโหดเหี้ยม

ฮองเฮาจ้าวเคยเห็นโม่หุยเหยียนแบบนี้เสียที่ไหน?

ไม่มีอำนาจสูงศักดิ์อย่างปกติ นางจึงถูกความบ้าคลั่งของโม่หุยเหยียนทำให้ตกใจอย่างมาก

“ตอนนี้เจ้าสามไม่มีคุณสมบัติแล้ว ท่านให้ข้าขึ้นครองราชย์ไม่ได้หรือ? ท่านเห็นข้าเป็นอะไร? หา?”

โม่หุยเหยียนปล่อยมืออย่างแรง ฮองเฮาจ้าวล้มกลับไปบนเตียง

นางตกใจจนน้ำตาไหลอาบแก้ม มองดูโม่หุยเหยียนอย่างไม่อยากเชื่อ และหวาดกลัวหวาดระแวง

โม่หุยเหยียนโกรธจนใช้กำปั้นทุบโต๊ะอย่างแรง พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้าถึงทำตัวเป็นลูกที่ดี เพื่อตำแหน่งฮ่องเต้ ข้าต้องทุ่มเทอะไรไปบ้าง?”

“ข้าเชื่อฟังท่าน วางยาแท้งลูกในท้องล่ายซื่อด้วยตนเอง”

“แต่ท่านรู้ไหม ล่ายซื่อตั้งครรภ์เป็นลูกชาย เป็นรูปเป็นร่างแล้ว”

โม่หุยเหยียนยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เขาเกาหัวดึงเส้นผมอย่างยุ่งเหยิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าเชื่อฟังท่าน แท้งลูกของล่ายซื่อ แต่หนานกงเยว่ก็ไม่ยอมกลับมา”

“นางไม่ให้อภัยข้า ข้าจะได้รับการสนับสนุนจากตงจวิ้นได้อย่างไร?”

ได้ยินแบบนี้ ฮองเฮาจ้าวแทบลืมร้องไห้

นางเงยหน้าขึ้น มองดูโม่หุยเหยียนด้วยสายตาตกตะลึง....

เวลานี้ ประตูถูกคนผลักเปิดออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์