ฮั่วเทียนหลันไม่รู้จะทำอย่างไร ผู้หญิงคนนี้กำลังเล่นแง่กับเขา แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้
เนื่องจากเธอเป็นคนที่เขารัก เขารักและเอ็นดูเธอ
เนื่องจากทำอะไรไม่ได้เขาจึงทำได้แค่ส่งสายขอความช่วยเหลือไปที่ป้าding
ป้าdingไอออกมาเบาๆและยื่นกระดาษทิชชู่ไปให้
เมื่อได้ยินเสียงของป้าding หยางหลิงรุ่ยที่กำลังมีความสุขที่ได้กับการได้กลั่นแกล้งฮั่วเทียนหลันก็นึกขึ้นได้ว่าเธอกำลังทานข้าวอยู่ และด้านหน้าของพวกเธอก็คือป้าdingและลั่นลาน
ใบหน้าของเธอแดงขึ้นและยื่นมือออกไปรับกระดาษทิชชู่ในมือของป้าdingเพื่อไปเช็ดเสื้อให้ฮั่วเทียนหลัน
หลังจากนั้นเธอก็พบว่าเธอทำเรื่องโง่ๆลงไป
เนื่องจากเธอรู้ว่าบนตัวของฮั่วเทียนหลันมาคราบน้ำมันเลอะอยู่ เธอใช้การดาษทิชชู่ไปเช็ดแล้วมันจะช่วยอะไร? ไม่เพียงแต่เช็ดไม่สะอาดแต่ยิ่งไปทำให้เลอะมากขึ้นอีก
ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหยางหลิงรุ่ย
เนื่องจากเขาเป็นคนบอกให้ป้าdingยื่นกระดาษมาให้ อย่างน้อยความคิดของเขากับป้าdingก็เหมือนกันคือใช้กระดาษเช็ดก็พอแล้ว
แต่ตอนนี้....
หยางหลิงรุ่ยทิ้งกระดาษทิชชู่ที่อยู่ในมือออกไปจากนั้นบนพึมพำด้วยความหงุดหงิดใจ “อั๊ย! ทำไมฉันถึงโง่ขนาดนี้!”
ฮั่วเทียนหลันมองไปทางเธอ ใบหน้าของเขาแดงขึ้นเล็กน้อย
แต่มันก็แค่แวบเดียว เพราะเขาไม่ยอมปล่อยให้หยางหลิงรุ่ยรู้ได้ว่าเขาออกอาการ
ผู้หญิงคนนี้เอาแต่ทำเรื่องที่ทำให้เขาแปลกใจได้ทั้งวัน หรือว่าเธอกำลังเพื่อเขาหรอ?
และเธอชอบการกระทำแบบนี้ไหม?
ป้าdingยิ้มออกมา ตั้งแต่ที่หยางหลิงรุ่ยมาที่ Manor One คฤหาสน์ที่ดูเงียบเชียบกลับสดใสขึ้นมาอีกครั้ง
ลั่นลานมีความสุขมากฮั่วเทียนหลันก็เช่นกันรวมถึงป้าdingที่คิดว่านี่ควรจะเป็นบรรยากาศของครอบครัวฮั่ว
ไม่ควรจะเป็นบ้านร่างที่เงียบเชียบ
ที่ผ่านมาฮั่วเทียนหลันมีสมาธิกับการทำงานมาก เขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าและกลับเข้ามาในตอนดึก
ทุกครั้งที่รับโทรศัพท์จะเกี่ยวข้องกับงานทั้งหมด
ป้าdingแทบจะไม่เคยเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเลย
และบ่อยครั้งที่เธอเห็นฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่บนโซฟาใบหน้าแสดงอาการสูญเสียอย่างอธิบายไม่ได้
ฮั่วเทียนหลันที่ผ่านมาป้าdingรู้ดีกว่าเขาทรมานแค่ไหน
และใบหน้าที่สดใสของลั่นลานก็มีให้เห็นน้อยมากเช่นกัน
ดูเหมือนว่าจะมีแค่คำทักทายกันระหว่างพ่อลูกกับคฤหาสน์ที่เงียบเหงาและคนรับใช้
ทำให้ป้าdingที่เฝ้ารออยู่ที่เมืองsรู้สึกสิ้นหวัง
อันหรัน ถึงแม้ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนชื่อและยังมีพื้นหลังที่โดดเด่น
แต่ถึงแม้ว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เธอก็ยังคงเป็นคุณนายของตระกูลหยางตลอดไป
ในใจของฮั่วเทียนหลันไม่มีใครแทนที่ได้
อาหารมื้อนี้คนที่ทานเข้าไปแบบฮั่วเทียนหลันบอกได้เลยว่าลำบากมาก แต่หยางหลิงรุ่ยที่ป้อนอาหารให้ฮั่วเทียนหลันเสร็จแล้วในใจของเธอก็รู้สึกหดหู่เล็ดน้อย
จู่ๆเธอก็พบกับความกังวลที่อยู่ในใจว่าเธอมีความผูกพันธ์กับฮั่วเทียนหลันเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยและกลัวว่าฮั่วเทียนหลันจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ ดังนั้นหลังทานข้าวเสร็จเธอจึงพาลั่นลานออกไปเดินเล่น
ลั่นลานอยากจะพาฮั่วเทียนหลันออกไปเดินเล่นด้วยแต่เนื่องจากหยางหลิงรุ่ยพูดออกมาว่าตอนนี้อาการของฮั่วเทียนหลันไม่ควรออกมาเดินเล่นดังนั้นเธอทำได้แค่เดินตามออกไป
ทั้งสองคนเดินไปรอบๆอย่างเบื่อหน่าย
จู่ๆลั่นลานก็เอ่ยปากเรียกออกมาว่า แม่จ๋า
เธอยังไม่ได้ทันได้พูดต่อไป หยางหลิงรุ่ยก็กระแอมออกมา เธอคุกเข่าลงพร้อมกับพูดว่าอย่างจริงจังว่า “ลั่นลาน ฉันจะอธิบายกับหนูอีกครั้งนะ ฉันไม่ใช่แม่ของหนูจริงๆ”
จากคำพูดของหยางหลิงรุ่ยทำให้ดวงตาของลั่นลานแดงขึ้น
ด้วงท่าทางของเธอทำให้คำพูดที่หยางหลิงรุ่ยคิดไว้หายไปจากสมองของเธอ
“แม่จ๋า....” ลั่นลานร้องไห้อย่างน่าสงสาร
หยางหลิงรุ่ยหยุดนิ่ง สุดท้ายเธอทำได้แค่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
แม่ก็คือแม่ปะ อย่างไรก็เรียกแค่ในบ้านของตระกูลฮั่ว แค่ออกไปด้านนอกแล้วไม่เรียกชื่อนี้ก็โอเคแล้ว
“ลั่นลาน รับปากกับฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม?”
“แม่พูดมาเลย” ฮั่วเทียนหลันจ้องมองหยางหลิงรุ่ยด้วยดวงตาที่สดใสและยิ้มตอนนี้เธอมีความสุขมากเพราะจากท่าทีของหยางหลิงรุ่ยธอไม่สามารถรู้สึกต่อต้านได้อีกต่อไป
นี่แสดงให้เห็นว่าเธอยอมรับความสัมพันธ์แม่ลูกนี้แล้ว
“คำเรียกนี้เรียกได้แค่ในบ้านนี้ ถ้าออกไปด้านนอกห้ามเรียกนะ เข้าใจไหม?”
หยางหลิงรุ่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม ลั่นลานอ้าปากขึ้นราวกับว่าต้องการจะต่อรองแต่มองเห็นสายตาที่แน่วแน่ของหยางหลิงรุ่ยแล้ว เธอจึงลังเลอยู่สักพักสมองของเธอสั่งการอย่างรวดเร็วและลบความคิดนั้นออกไป
ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรหยางหลิงรุ่ยก็คงไม่ยอมรับ
แม่ลูกคู่นี้ได้เจรจากันแล้ว ลั่นลานมองไปที่หยางหลิงรุ่ยและบอกกับเธอว่าจะไปไปที่ไหนสักแห่ง
ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยที่เป็นแม่คงไม่มีคุณสมบัตินี้
“อ่า พ่อของลูกรักลูกมาก” หยางหลิงรุ่ยพูดพร้อมยิ้มออกมา
แต่เมื่อน้ำเสียงของเธอเงียบลง ลั่นลานก็เอื้อมมือมาจับมือของเธอ ลั่นลานมองไปที่เธอดวงสายตาที่จริงจังพร้อมพูดว่า “แม่จ๋า คุณพ่อเป็นสามีของคุณแม่ มีคุณพ่อและคุณแม่ถึงมีลั่นลานขึ้นมา พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน คุณแม่ควรเรียกคุณพ่อว่าสามี สามีของแม่รักลั่นลานลูกของคุณแม่คนนี้มาก!”
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ลั่นลานด้วยความประหลาดใจ ถึงแม้ว่าเธอจะสับสนเล็กน้อยแต่เธอก็รู้ว่าลั่นลานกำลังพูดถึงอะไร
เธอยิ้มแบบข่มขื่นพร้อมส่ายหน้าออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อเห็นดวงตาของลั่นลานแดงขึ้นเธอก็หยุดการกระทำนั้น
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เธอกังวลมาก
เธอสามารถปฏิเสธฮั่วเทียนหลันได้ แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธลูกของเธอได้
ต่อให้หยางหลิงรุ่ยปฏิเสธไปทั้งวัน ลั่นลานก็ยังคงจดจำภาพของเธอในวันเก่าๆ
นี่เป็นสิ่งที่คนเป็นแม่อย่างเธอไม่สามรถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
“ลั่นลาน ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ” เธอพูดออกมาอย่างจริงใจพยายามอธิบายให้ลั่นลานฟังทุกอย่าง
แต่แม้แต่เธอก็ยังเกียจการอธิบายและเหตุผลที่น่าเบื่อของตัวเอง
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ความจริงแล้ว แต่เธอก็ยังทำเหมือนจำอะไรไม่ได้
“ถึงคุณแม่จะจำอะไรไม่ได้แล้ว แต่หนูกับคุณพ่อก็สามารถบอกคุณแม่ได้ สามารถดูแลคุณแม่ได้ และสามารถทำให้คุณแม่มีความสุขได้ตลอดชีวิต!”
ลั่นลานจ้องมาที่เธอพร้อมพูดอย่างจริงใจ
ถึงแม้ว่าคำพูดของเธอจะดูไร้เดียงสาแต่หยางหลิงรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาในใจ
เธอรู้สึกว่าเธอกำลังทำผิดกับลั่นลานอยู่
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าลั่นลานที่อาศัยอยู่กับฮั่วเทียนหลันที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง พวกเข้ามีความหรือไหม?
แต่ว่าลั่นลานกับฮั่วเทียนหลันล่ะ? มันตรงกันข้ามกับเธอ พวกเขาพยายามหาเบาะแสที่เกี่ยวกับเธอและตามหาเธออย่างสุดความสามารถ
เนื่องจากถ้าหยางหลิงรุ่ยมาอยู่ด้วย สำหรับลั่นลานแล้วมีพ่อมีแม่นี่ก็เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
หยางหลิงรุ่ยเปิดปากขึ้นมาก เธออยากจะตอบโต้ออกไป แต่ก็พูดไม่ได้เพราะความขมขื่น
สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะถอยและพูดเบาๆว่า “สาวน้อย เรื่องระหว่างเรามันเป็นการเข้าใจผิดจริงๆ”
หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาเพื่อตัดปัญหา
แต่ลั่นลานไม่เคยเชื่อเธอเลย ลั่นลานหยิบอัลบั้มรูปที่วางอยู่ใต้โต๊ะในปราสาทออกมา
นั่นเป็นอัลบั้มที่เล็กมา สามารถมองออกได้ว่ามันเป็นสิ่งของในอดีต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง