ลั่นลานไม่ได้เปิดมันออก เธอแค่ยื่นไปให้หยางหลิงรุ่ย และพูดออกมาอย่างมีความหวังว่า “แม่จ๋า แม่ลองดูทั้งหมดเป็นภาพของพวกเราในอดีต.....”
มองเห็นอัลบั้มที่อยู่ในมือของลั่นลาน หยางหลิงรุ่ยอยากจะยื่นมือออกไปเพื่อรับมา แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกว่านั่นเป็นภาระอันหนักอึ้ง
เธอยากจะดูภาพในอัลบั้ม ภาพในนั้นจะต้องเป็นความทรงจำของเธอกับลั่นลานในอดีตที่สดใจเป็นแน่
และเธอไม่กล้าที่จะจินตนาการถึงก้าวต่อไป
เธอกลัวว่าเธอจะใจอ่อนและไม่อยากที่จะแยกจากับลั่นลานอีกต่อไป
โลกใบนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน มันมักจะเอาของที่อยากได้ให้และสลัดมันให้หลุดไปในพร้อมๆกัน
เวลาผ่านไปสองนาทีหยางหลิงรุ่ยยังคงไม่ได้รับอัลบั้มนั้นมา
สุดท้ายลั่นลานก็รอไม่ไหว เธอเปิดอัลบั้มลูกนั้นและรีบพลิกหน้าอย่างรวดเร็ว และหยิบภาพออกมาจากอัลบั้มหนึ่งแผ่นออกมาให้หยางหลิงรุ่ยดูพร้อมพูดออกมาอย่างมีความหวังว่า “แม่จ๋ารีบดูเร็ว นี่เป็นรูปตอนที่หนูยังเด็กและเป็นภาพที่พวกเราถ่ายด้วยกันครั้งแรก”
หยางหลิงรุ่ยมองภาพที่อยู่ในมือของลั่นลานตลอด ไม่รู้ว่าทำไมใจของเธอสั่นคลอน
นั่นเป็นภาพที่เธอถ่ายร่วมกับลั่นลานจริงๆ คนที่ยืนข้างๆของเธอคือลั่นลาน หยางหลิงรุ่ยคุกเข่าลง และยกนิ้วขึ้นถ่ายภาพ
“แม่จ๋า แม่มองอันนี้แล้วนึกอะไรขึ้นได้บ้างไหม? แม่จำหนู คุณพ่อ คุณตา คุณยาย ป้าเฉินได้ไหม?”
ลั่นลานพูดออกมาตั้งมากมาย แต่มีแค่สองสามคำแรกเท่านั้นที่หยางหลิงรุ่ยจำได้
เนื่องจากเธอสูญเสียความทรงจำ และในตอนที่เธอดูรูปภาพเหล่านี้มันก็ทำให้ใจของเธอสับสนและก็จำอะไรไม่ได้
สุดท้ายก็เหลือแต่ผลลัพธ์
นั่นก็คือเธอคือคนคนเดียวกับอันหรัน
“ฉัน....” หยางหลิงรุ่ยอ้าปากขึ้นมา ลังเลอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ดวงตาของลั่นลานเต็มไปด้วยความหวัง
นี่ทำให้ดวงตาของหยางหลิงรุ่ยค่อยๆเต็มไปด้วยความรักที่เจ็บปวด
ลั่นลานทำผิดอะไร? ตอนเด็กเธอถึงต้องมาขาดความรักจากพ่อ พอโตมาก็ขาดความรักจากแม่
เด็กคนนี้น่าสงสารจริงๆ
เห็นว่าหยางหลิงรุ่ยไม่ได้พูดอะไร เธอก็รู้ว่าคำที่เธอพูดไปเมื่อสักครู่พอมีผล
เธอกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของหยางหลิงรุ่ย ตะโกนออกมาอย่างดีใจ “แม่จ๋า แม่อยู่ที่นี่ไม่ต้องไปไหน อยู่กับพวกเราที่นี่สามคนครอบครัวเดียวกันได้ไหม?”
ลั่นลานกอดหยางหลิงรุ่ยอย่างแน่น ใช้แรงทั้งหมดที่เธอมี ราวกับว่ากลัวหยางหลิงรุ่ยจะจากเธอไปอีก
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ลูกสาวที่เธอเลี้ยงขึ้นมาด้วยตัวเองอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้ว่าเธอจะจำอะไรไม่ได้
แต่ด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือดจึงทำให้เธอรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก
เธอมองไปที่รูปภาพอย่างโง่ๆ ตอนนั้นเธอยิ้มได้สวยงามและเป็นธรรชาติมาก
มองไม่เห็นความกดดันในใจเหมือนกับลั่นลานเลย
ถึงแม้ว่าตอนนั้นเธอจะมีลั่นลานแบบลับๆแต่เธอก็มีความสุข
เธอรู้ว่าตอนนี้ลั่นลานอยู่ในอ้อมแขนของเธอและด้วยตาของลั่นลานนั้นก็เต็มไปด้วยความควาดหวัง
หยางหลิงรุ่ยกอดลั่นลานไว้เธอมองไปที่รูปภาพที่อยู่ด้านหน้าพร้อมกับพลิกมันลง
เธอไม่สามารถตอบรับลั่นลานได้แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ด้วยเช่นกัน
เธอทำได้แกกอดลั่นลานแน่นๆ ใช้การกระทำเพื่อเอาใจลั่นลาน
เธออยากจะบอกกับลั่นลานว่าเธอเป็นแม่ที่แท้จริงของเธอ
แต่ในบางการที่พูดความจริงอะไรออกไปหรือทำสิ่งที่ควรทำออกผลก็อาจจะเกิดผลเสียที่อยากจะไม่สามารถยอมรับได้
ความคาดหวังของลั่นลานค่อยๆหมดไป ถึงแม้ว่าหยางหลิงรุ่ยไม่ได้พูดอะไรแต่เธอก็แสดงออกมาว่าเธอไม่ต้องการที่จะกลับมาอยู่ที่บ้านของตระกูลฮั่ว
ความโศกเศร้าที่อั้นอยู่ในใจมาตั้งนานตอนนี้เธอก็ไม่สามารถกั้นเอาไว้ได้อีกแล้ว ลั่นลานที่อยู่ในอ้อมแขนของหยางหลิงรุ่ยร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น
สุดท้ายเธอก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง
เธอคิดว่าโดยตลอดว่าถ้าเธอทำตัวเป็นเด็กน่าสงสารและร้องไห้อ้อนวอนออกมาจะทำให้หยางหลิงรุ่ยสามารถเปลี่ยนความคิดได้ และกลับมาหาเธอกับพ่อของเธอ
เธอคิดแบบนั้นจึงทำออกมา
แต่คิดไม่ถึงว่าการที่เธอทุ่มเทไปทั้งหมดจะได้ผลตอบรับมาแบบนี้
สิ่งนี้ทำให้ลั่นลานที่มีความคาดหวังอยู่ในใจอย่างล้นเปี่ยม บ้าคลั่งขึ้นมาทันที
แต่ยังดีที่เธอยังเป็นเด็ก
หัวใจของเด็กง่ายต่อการรักษาในเวลาที่ล้มเหลว
ในตอนนี้เกิดความเงียบขึ้นระหว่างแม่กับลูก
ลั่นลานกำลังร้องไห้แต่หยางหลิงรุ่ยก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปปลอบใจเธออย่างไร
เหมือนกับว่าเธอพูดอะไรก็ผิดไปหมด
เนื่องจากสิ่งที่ลั่นลานขอมันสามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่เรื่องที่ง่ายขนาดนี้หยางหลิงรุ่ยกลับทำไม่ได้
“ลั่นลาน....”
หยางหลิงรุ่ยตะโกนออกมาเบา ๆ ฟังเสียงร้องแหบของลั่นลานเธอรู้สึกเป็นทุกข์ในเวลาเดียวกัน และเธอก็ยังกังวลมากว่าหลานลันจะร้องไห้จนหมดเสียง
ลั่นลานไม่ได้พูดอะไร เธอตัวสั่นอย่ในอ้อมแขนของหยางหลิงรุ่ย
“ลูกแม่.....” หยางหลิงรุ่ยถึงเรียกคำที่มีความหมายใกล้ชิดขึ้นมาอีกหน่อย
ตอนนี้เหมือนกับว่าลั่นลานจะมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา เธอเงียบเสียงลงและเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหยางหลิงรุ่ย
“ปล่อยหนูนะ เดี๋ยวหนูจะบอกความลับของพ่อให้แม่ฟัง”
“ห๊า?”
หยางหลิงรุ่ยแกล้งทำสายตาว่าไม่รู้ไม่ชี้มองไปที่ลั่นลาน เธอยักไหล่แล้วพูดขึ้นมาว่า “ลูกรัก ถึงลูกจะไม่พูดเรื่องนี้แม่ก็ปล่อยลูกอยู่ดี แต่นี่ลูกกลับจะเอาเรื่องไม่ดีของพ่อออกมาพูด เห็นทีแม่จะปล่อยผ่านไปไม่ได้แล้วหละ!”
ลั่นลานมองไปที่หยางหลิงรุ่ยด้วยความประหลาดใจราวกับว่าเธอไม่ได้คาดหวังว่าตรรกะดังกล่าวจะโผล่ออกมาจากปากของหยางหลิงรุ่ย
เห็นได้ชัดว่าพ่อกับแม่อยู่คนละฝั่ง!
หลังจากที่ทั้งสองคนจ้องหน้ากันสักพัก ตอนนี้ลั่นลานยังคงสับสน
หมดหวังแล้ว หลังจากเธอดิ้นรนอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายเธอทำได้แค่รอคอยความเมตตาจากหยางหลิงรุ่ย
“แม่จ๋า พวกเราคุยกันดีๆไม่ได้หรอ? ยังมีรูปในอัลบั้มอีกตั้งหลายรูปที่ยังไม่ได้ดู แม่ไม่อยากดูหรอคะ?”
หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาอย่างตั้งใจ เหมือนกับปีศาจที่อยู่ในร่างของมนุษย์
อยากอยากรู้อยากเห็นของหยางหลิงรุ่ยถูกลั่นลานดูออกในทันที
ถึงแม้เธอจะคิดว่าที่ลั่นลานพูดออกมานั้นดูแปลกๆ
ตอนนี้สมองของเธอสับสนและไม่เข้าใจสิ่งที่ลั่นลานพูดออกมา
“อีก อีกสักพักค่อยดู!” หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาด้วยความลังเล
เธอยังคงไว้วางใจสัญชาตญาณของเธอเพราะเมื่อสัญชาตญาณของเธอเตือนว่ามีปัญหาก็มีโอกาสมากที่จะมีปัญหา
ถึงแม้ว่านี้จะเป็รการขอร้องจากลั่นลานก็ตาม
“แม่จ๋า หนูอยากให้แม่ดูตอนนี้เลย! แม่จับหนูไว้แบบนี้ หนูรู้สึกเหมือนว่าหนูกำลังติดคุกเลย! ” ลั่นลานพูดออกมาอย่างไม่พอใจ เธอไม่ได้ปิดบังความรู้สึกของเธอเลย
นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยสงสัยขึ้นมาตอนนี้ลั่นลานกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไร?
“ได้ แต่พวกเราต้องสัญญากันก่อน ถ้าแม่ปล่อยหนูแล้ว หนูจะต้องเป็นเด็กดีเข้าใจไหม?”
หยางหลิงรุ่ยคลายมือออกเล็กน้อยและพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
“ได้เลย! ขอบคุณคะคุณแม่” ลั่นลานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน่ารัก
เมื่อเหตุการณ์มาถึงตอนนี้แล้ว หยางหลิงรุ่ยก็ไม่สามารถทำตัวเป็นคนเลวได้อีกแล้ว
เธอปล่อยลั่นลานลง และแตะไปที่ไหล่ของลั่นลานเบาๆ พร้อมกับพูดออกมาจากใจว่า “ลูกรัก แม่ไม่รู้ว่าหนูอยากจะทำอะไร แต่ถ้าหนูทำอะไรก็ขอให้ไว้หน้าแม่บ้างนะ ได้ไหม?”
ดังนั้นลั่นลานที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจึงรู้สึกไม่มีความสุขที่ต้องมารับปากกับหยางหลิงรุ่ยว่าจะไม่ดื้อ
นี่ทำให้เธอไม่มีทางเลือก
เนื่องจากถ้าเธอไม่ทำแบบนั้นเธอก็จะถูกหยางหลิงรุ่ยกักตัวต่อไป
“ได้คะ....”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง