ในตอนแรกหยางหลิงรุ่ยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อรู้สึกถึงอุณหภูมิร้อนตรงเอวเธอก็ได้สติขึ้นมาทันที
เธอเตรียมจะลุกขึ้นยืนเพื่อหลีกเลี่ยงมือที่กำลังคุกคามอยู่บนตัวของเธอในตอนนี้
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะลุกขึ้นได้ก็ถูกฮั่วเทียนหลันดึงตัวเข้าสู่อ้อมกอดเสียก่อน
ทันใดนั้น ผู้ชายคนนี้ก็โยนหมีตัวใหญ่ไปไว้ท้ายรถทันที
หยางหลิงรุ่ยตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของฮั่วเทียนหลันอย่างไม่เต็มใจนัก
"คุณฮั่ว ... คุณ ... " หยางหลิงรุ่ยอ้าปากพูดขึ้นด้วยความโมโหแกมอาย เธอรู้สึกว่าฮั่วเทียนหลันทำแบบนี้มันมากเกินไปแล้ว
แม้ว่าลูกจะไม่ได้อยู่บนรถ แต่ยังมีคนขับนั่งอยู่ข้างหน้านี่นา!
ทว่าฮั่วเทียนหลันกลับไม่ได้สนใจการต่อต้านของหยางหลิงรุ่ยเลยสักนิด กลับกันเขาขยับตัวเล็กน้อยเพื่อที่จะสามารถกอดหยางหลิงรุ่ยได้อย่างสะดวกมากขึ้น
“ขอผมกอดอีกสักพักนะ”
คำพูดของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยตัวแข็งทื่อขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ถ้าพูดตามสัญชาตญาณ หยางหลิงรุ่ยอยากจะผลักฮั่วเทียนหลันออก ทำไมเธอจะต้องยอมให้เขากอดด้วยล่ะ
แต่เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์กึ่งเปิดเผยระหว่างพวกเธอสองคนและคำพูดของฮั่วเทียนหลันเมื่อสักครู่ที่ฟังดูเศร้าโศก
เธอก็ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผลักฮั่วเทียนหลันออกแต่อย่างใด ทำเพียงเอ่ยขึ้นสียงเบา : "คุณพูดแล้วนะคุณฮั่ว ห้ามทำอะไรมากกว่านี้เด็ดขาด"
"อืม" ฮั่วเทียนหลันตอบเสียงเรียบ
ทั้งสองคนกอดกันอยู่อย่างนั้น แม้ว่าบนรถจะเปิดแอร์เอาไว้ แต่หยางหลิงรุ่ยก็ยังคงรู้สึกร้อนเล็กน้อยเมื่อร่างกายสัมผัสกันและกันอยู่เช่นนี้
ในที่สุดรถก็หยุดเคลื่อนตัวลงเมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย
"คุณฮั่วคะ ถึงแล้ว" หยางหลิงรุ่ยพูดขึ้น
เพราะเธอเห็นว่าหลังจากคนขับรถขับมาจนถึงที่พักแล้วก็รีบนำรถเข้าจอดที่ลานจอดรถทันที จากนั้นเขาก็รีบลงจากรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ราวกับตั้งใจปล่อยให้เธอกับฮั่วเทียนหลันได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นอีกนิด
"ผมรู้" ฮั่วเทียนหลันยังคงสงบนิ่งและไม่ยอมปล่อยหยางหลิงรุ่ย
หลังจากผ่านไปได้สักพัก หยางหลิงรุ่ยก็พูดขึ้นอีกรอบ : "คุณฮั่วคะ ทุกคนกำลังรออยู่ข้างล่าง เราควรลงไปได้แล้ว"
"ไม่รีบ! "
ฮั่วเทียนหลันนิ่งมาก แต่หยางหลิงรุ่ยกลับยิ่งกังวลมากขึ้นกว่าเดิม
เธอกลัวว่าหากเธอยังคงอยู่ในรถกับฮั่วเทียนหลันต่อไปอาจจะเกิดเรื่องบางอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้ขึ้นมา
ทันใดนั้น หยางหลิงรุ่ยก็นึกถึงคำสองคำที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ขึ้นมา
พระเจ้า หรือว่าฮั่วเทียนหลันจะมีความคิดแบบนั้นจริง ๆ
ขณะที่หยางหลิงรุ่ยกำลังคิดว่าเธอควรจะต่อสู้ขัดขืนพยายามลงจากรถหรือไม่นั้น เสียงทุ้มต่ำของฮั่วเทียนหลันก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ วันนี้สนุกไหม”
"สนุก มั้ง!" หยางหลิงรุ่ยตอบอย่างลืมตัว
“ชอบลั่นลานไหม”
"ชอบ" หยางหลิงรุ่ยตอบอย่างหนักแน่น
“แล้วชอบทุกอย่างของลั่นลานหรือเปล่า”
คำถามของฮั่วเทียนหลัน ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาตามสัญชาตญาณ
เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย : "ลั่นลานก็น่ารักดี"
หยางหลิงรุ่ยไม่ได้เอ่ยตอบโดยตรง แต่ในคำตอบของเธอก็เหมือนเป็นการยอมรับกลาย ๆ
“งั้นก็ชอบผมด้วยน่ะสิ”
คำพูดของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยตะลึงงัน
เธอแทบอยากจะหขืนตัวออกจากพันธนาการของฮั่วเทียนหลันทันทีทันใด แล้วจ้องมองดูผู้ชายคนนี้อย่างลึก ๆ
คนอะไรหน้าหนาได้ถึงเพียงนี้
“นี่คือตรรกะอะไรเหรอ” หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“ก็ผมเป็นส่วนหนึ่งของทุกอย่างของลั่นลาน”
น้ำเสียงราบเรียบของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยพูดไม่ออกขึ้นมาฉับพลัน
เดิมทีเธอต้องการจะหักล้างคำพูดของเขา แต่แล้วเธอก็พบว่าคำพูดของฮั่วเทียนหลันนั้นมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลพอสมควร!
“คุณนี่……”
หยางหลิงรุ่ยยังอยากจะเถียงว่าเขากำลังแถอยู่ชัด ๆ แต่เธอก็ไม่มีความกล้าพอที่จะพูดออกไป
“ผมรักคุณและลั่นลานมาก รวมถึงชิงหรงอีกด้วย”
พอได้ยินคำพูดของฮั่วเทียนหลัน คำตำหนิที่หยางหลิงรุ่ยตั้งใจจะเอ่ยก็หายวับไปในพริบตา
มุมปากของเธอกระตุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ บางครั้งการพูดด้วยเหตุผลก็อาจจะไม่ได้ผลเสมอไป
ฮั่วเทียนหลันค่อย ๆ ดึงหยางหลิงรุ่ยขึ้นและทั้งสองก็มองหน้ากันอยู่แบบนี้
แรกเริ่มหยางหลิงรุ่ยยังสามารถมองชายหนุ่มตรงหน้าเธอได้อย่างไม่หวาดหวั่น แต่ไม่นานเธอก็ทนต่อแววตาที่เต็มไปด้วยความจู่โจมของของฮั่วเทียนหลันไม่ได้จนแก้มใสร้อนเห่อขึ้นมา
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของหยางหลิงรุ่ย ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันก็ฉายแววประหลาดใจขึ้นมา แต่ภายใต้ความประหลาดใจนี้กลับกำลังทำให้แรงกระตุ้นบางอย่างที่เขาพยายามกดเก็บเอาไว้อย่างหนักเริ่มจะลุกโชนขึ้นมาทันใด
ผู้หญิงคนนี้เพียงแค่สัมผัสทางร่างกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอก็ราวกับเป็นยาจุดปลุกไฟในใจของฮั่วเทียนหลัน
“หยางหลิงรุ่ย”
ฮั่วเทียนหลันเปิดปากขึ้นมาและเอ่ยเรียกชื่อของหยางหลิงรุ่ย
เดิมทีนี่เป็นการเรียกชื่อตามธรรมดาเท่านั้น แต่ทว่าตอนนี้ร่างกายของหยางหลิงรุ่ยกลับรู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“อื้อ ฮั่วเทียนหลัน”
หลังจากพูดประโยคนี้ออกไปแล้ว เธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที
เพราะคำพูดของเธอมันดูจะคล้องจองกับคำพูดของฮั่วเทียนหลันก่อนหน้าพอดี
เหมือนกับคู่รักที่กำลังจะสร้างความสัมพันธ์?
"ชอบผมหรือเปล่า"
"ชอ……"
หยางหลิงรุ่ยที่กำลังตกอยู่ในภวังค์บางอย่างเกือบจะเอ่ยตอบออกไปอย่างลืมตัว แต่ก็ยับยั้งคำพูดเอาไว้ได้ทันการ
ตอนนี้ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ความรู้สึกร้อนผ่าวนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก
“ชอบ!”
ฮั่วเทียนหลันจ้องมองหยางหลิงรุ่ยตรง ๆ เมื่อเห็นท่าทางที่ดูสับสนของเธอ เขารู้ว่าเธอคงจะพูดคำคำนี้ไม่ออกแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงจัดการเอ่ยเสริมคำที่หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาไม่เต็มปากเมื่อสักครู่ให้มันสมบูรณ์มากขึ้น
พอรอบสองที่เขาจูบเธอ ผู้หญิงคนนี้ก็เริ่มแสดงท่าทีไม่ยินยอมเสียอย่างนั้น นั่นทำให้ฮั่วเทียนหลันเกิดความไม่เข้าใจ
หรือว่าเมื่อสักครู่เขาหุนหันพลันแล่นไป? ลงมือกระทำอย่างโจ่งแจ้งไป? จูบรุนแรงจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บไป?
หยางหลิงรุ่ยหน้าแดงก่ำมองดูผู้ชายตรงหน้า
สมองของเธอคิดอย่างรวดเร็วโดยคิดว่าจะพูดอะไรกับฮั่วเทียนหลันเพื่อให้ดูเป็นทางการมากขึ้น
“ฮั่วเทียนหลัน เราสองคนเป็นพ่อม่ายแม่ม่ายทำแบบนี้มันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
บรรยากาศรอบตัวค่อนข้างเงียบ หยางหลิงรุ่ยนั่งนิ่งนานกว่าสามสิบวินาทีถึงได้เอ่ยพูดประโยคนี้ขึ้นมา
ฮั่วเทียนหลันมองดูอย่างหลิงรุ่ยอย่างเฉยชาและไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป
เขาเพียงแค่ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้งจ้องมองเธอก็ทำให้เธอหน้าแดงระเรื่อลามไปถึงใบหูแล้ว
“ผมเป็นสามีของคุณ”
เขาพูดขึ้นมาสั้น ๆ แต่มันกลับดังก้องอยู่ในหัวไม่หยุด
หยางหลิงรุ่ยเบิกตากว้างและเงยหน้าขึ้นมองฮั่วเทียนหลันทันที
เธอคิดอยากจะหักล้างคำพูดนี้ของฮั่วเทียนหลัน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะสิ่งที่ฮั่วเทียนหลันพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด
หากเธอพูดตอบโต้กลับไปก็ยิ่งจะดูเป็นการจงใจหาเรื่องอย่างไม่มีเหตุผล
"คุณ ไม่น่าจะใช่"
หยางหลิงรุ่ยรู้ว่าหากเธอเอาแต่นั่งเงียบ ฮั่วเทียนหลันก็ยิ่งจะทำตัวเป็นเหมือนเจ้าถิ่นบนรถคันนี้
แล้วต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นคงไม่ต้องบอก เพราะถ้าผู้ชายคนนี้อยู่ในจุดที่เหนือกว่าเธอแล้ว เขาคิดจะทำอะไรกับเธอก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน
“พวกเราสามารถพาลั่นลานและชิงหรงไปตรวจดีเอ็นเอได้” ฮั่วเทียนหลันพูดอย่างใจเย็น
หลังจากพูดประโยคนี้เสร็จ เขาก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหยางหลิงรุ่ยราวกับกำลังค้นหาคำตอบที่เขาต้องการจากดวงตาของเธอ
ตอนแรกหยางหลิงรุ่ยไม่แปลกใจกับชื่อของลั่นลานเท่าไหร่
เพราะถึงอย่างไรฮั่วเทียนหลันก็รู้มาตลอดว่าลั่นลานเป็นลูกสาวของเขาและเธอ
แต่ชิงหรงนั้น ...
หัวใจของหยางหลิงรุ่ยสั่นระรัว ก่อนเปลือกตาของเธอจะปิดลงอย่างห้ามไม่ได้
เธอกลัวว่าฮั่วเทียนหลันจะมองเห็นความรู้สึกที่ไม่ปกติในดวงตาของเธอ
สิ่งนี้ทำให้ฮั่วเทียนหลันที่เฝ้าสังเกตหยางหลิงรุ่ยมาตลอดรู้สึกเสียศูนย์เล็กน้อย
เขาไม่สามารถหาคำตอบที่ต้องการได้จากสายตาของหยางหลิงรุ่ย นั่นก็คงจะเป็นการย้ำเตือนเขาอย่างกลาย ๆ แล้วว่า ยังเหลือหนทางอีกยาวไกลถึงจะสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างชิงหรงได้
เนื่องจากตอนนี้หยางหลิงรุ่ยอยู่ข้าง ๆ เขา ฮั่วเทียนหลันจึงไม่สามารถแอบไปตรวจดีเอ็นเอเพียงลำพังได้
เพราะถ้าหยางหลิงรุ่ยรู้เรื่องขึ้นมา ดูจากท่าทางหยิ่งในศักดิ์ศรีของเธอแล้ว เกรงว่าอาจจะทำให้เรื่องที่ดีต้องกลับกลายเป็นเรื่องเลวร้ายเอาได้
"ขอโทษนะ ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร"
หลังจากปรับอารมณ์ให้เป็นปกติได้แล้ว หยางหลิงรุ่ยก็ลืมตาขึ้นและมองไปที่ฮัวเทียนหลันอย่างไม่หวาดหวั่น
แววตานิ่งสงบไม่สั่นไหวของเธอ ทำให้หัวใจของฮั่วเทียนหลันหม่นหมองลงเล็กน้อย
เขารู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้นับวันยิ่งลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ
"คุณไม่เข้าใจเหรอ"
"ไม่เข้าใจค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง