เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
หยางหลิงรุ่ยนั่งอยู่หน้าเตียงของชิงหรง มองชิงหรงที่กำลังหลับอยู่
เนื่องจากชิงหรงกำลังหลับอยู่เธอถึงกล้าเข้ามาดู
เนื่องจากเธอก็ไม่รู้ว่าควรจะบอกกับชิงหรงอย่างไรถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หรือว่าจะรอต่อไป?
นี่มันก็แค่การหมั้น เรื่องที่เหลือมันก็ยังอีกยาวนาน
ตามความสัมพันธ์ที่เป็นพี่น้องระหว่างชิงหรงกับลั่นลานแล้วเธอคิดว่าถึงเวลามันก็เปิดเผยออกมาเอง ตอนนี้ควรให้เธอค่อยๆรับรู้เรื่องราวจะดีกว่าไหม?
เมื่อในใจเธอคิดออกมาแบบนั้น หยางหลิงรุ่ยก็คิดว่ามันโอเค
หลังจากหลอกตัวเองแล้วเธอก็เดินโซซัดโซเซและกลับไปที่ห้องนอนเพื่อนอนหลับ
ถึงแม้ว่าเธอจะห้ามไม่ให้ฮั่วเทียนหลันดื่มในตอนแรก แต่เนื่องด้วยบรรยากาศที่เป็นใจจึงทำให้พวกเขาดื่มไวน์ไปหนึ่งขวด
ตอนนี้ไวน์แดงขวดนั้นออกฤทธิ์แล้ว
หยางหลิงรุ่ยนอนลงลนเตียงและเกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกขึ้นมา!
เธอหยิบแหวนออกมาจากโต๊ะข้างเตียง แล้ววัดกับนิ้วมือของเธออย่างละเอียด
ก่อนที่เธอจะกลับบ้านมา เธอได้ทำงานเสร็จหมดแล้ว
เรื่องนี้อาจจะต้องเก็บไว้เป็นความลับ ถ้าหากคนในครอบครัวรู้เข้าอาจจะเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมากมาย
แหวนที่ฮั่วเทียนหลันทำมานั้นเหมาะกับเธอจริงๆ
แต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ยิ่งทำให้หัวใจของหยางหลิงรุ่ยแห้งเหี่ยว
ในปีนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ถึงทำให้ตระกูลหยางกับตระกูลฮั่วขัดแย้งกันจนมาถึงทุกวันนี้
ถึงแม้ว่าเธอไม่สามารถทำให้ฮั่วเทียนหลันปล่อยครอบครัวของเธอไปได้ แต่เธอสามารถหาความจริงให้ฮั่วเทียนหลันได้รับรู้
บางทีมันอาจจะเป็นเพียงความเข้าใจผิด เมื่อความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไขทั้งสองคนสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างเปิดเผยและซื่อสัตย์!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ใจของเธอก็เต้นแรงเล็กน้อยพร้มกับมีความสุข
ในกลางคืน ความฝันที่ยาวนานและสวยงาม
วันต่อมาช่างเงียบและสงบ
หยางหลิงรุ่ยยังคนติดนิสัยเดิมของเธอ คือการไปรับ ชิงหรงและลั่นลานที่ Manor One สุดท้ายก็กลับมาที่บ้าน
แต่ตอนที่เด็กทั้งสองคนกำลังเล่นกันอยู่นั้น เธอกับฮั่วเทียนหลันก็มีพฤติกรรมการแสดงออกเหมือนคู่รัก
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันอย่างยาวนานในเวลากลางคืน แต่เมื่อหยางหลิงรุ่ยกลับบ้าน ฮั่วเทียนหลันก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความไปบอกกับเธอว่าฝันดี
สิ่งนี้ทำให้ความรู้สึกของทั้งสองคนเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างรวดเร็ว หยางหลิงรุ่ยสงสัยว่าการแต่งงานของพวกเขาทั้งสองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่เรื่องนี้จะจบลงทันทีเมื่อฮั่วเทียนหลันกลับไปที่เมือง z
ฮั่วเทียนหลันบอกกับหยางหลิงรุ่ยว่าจะกลับไปในคืนนั้น แต่หยางหลิงรุ่ยก็ไม่เต็มใจ
แต่ภายใต้การกระทำของฮั่วเทียนหลัน เขากลับไปที่นั่นหนึ่งรอบ หยางหลิงรุ่ยก็ต้องยอมรับความเป็นจริงนี้
และฮั่วเทียนหลันก็บอกว่าให้พาชิงหรงไปด้วย
หยางหลิงรุ่ยไม่เข้าใจคำพูดนี้ นี่มันเป็นการหลบหนีอย่างนั้นหรอ?
สิ่งที่แปลกก็คือตรงนี้
ฮั่วเทียนหลันไม่เคยส่งข้อความมาหาหยางหลิงรุ่ยกลังจากที่เขากลับไปที่เมืองz
เหมือนกับว่าเข้ากลับเข้าสู่สภาวะปกติ ถึงแม้ว่าหยางหลิงรุ่ยจะไม่รู้ว่าฮั่วเทียนหลันกลับไปทำอะไร
หลังจากทนทุกข์ทรมานมาสองวัน สุดท้าหยางหลิงรุ่ยก็ส่งข้อความไปหาฮั่วเทียนหลันเพื่อถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อเห็นข้อความ ฮั่วเทียนหลันก็ออกมาจากโรงพยาบาล
เมื่อเขากลับถึงบ้าน ก็ได้รับข้อความ
หัวใจของหลี่รูยาไม่ดี เธอจึงถูกส่งไปโรงพยาบาลอย่างกระทันหัน
ใช้เวลาสองวันเต็มกว่าแพทย์จะสามารถช่วยเธอให้พ้นขีดอันตรายได้
พระเจ้ารู้ดีว่าฮั่วเทียนหลันใช้ชีวิตอย่างไรในสองวันนี้
เขานั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูห้องฉุกเฉิน
มีแพทย์มากมายยืนล้อมรอบหลี่รูยา เพื่อที่จะทำให้เธอฟื้นกลับมา
และคนที่นั่งข้างๆฮั่วเทียนหลันก็คือตงหยงซี่
“เทียนหลัน อย่ากังวลไปเลย แม่ของนายต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างดีที่สุด และฟื้นขึ้นมาแข็งแรงเหมือนปกติ!”
ฮั่วเทียนหลันพูดออกมาเฉยๆ “ฉันรู้!”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้หยางหลิงรุ่ยรู้
เขาต้องการทำให้หยางหลิงรุ่ยมีความสุขตลอดเมื่ออยู่กับเขา
ดังนั้นเรื่องแบบนี้เขาจึงไม่บอกเธอ
เมื่อเห็นข้อความที่หยางหลิงรุ่ยส่งมา เขาเม้มริมฝีปากและตอบกลับว่า “ก็เรื่อยๆนะ คุณดูแลตัวเองให้ดรๆหละ เด็กๆซนมาก อะไรที่ควรสอนก็ต้องสอนพวกเขานะ!”
หลังจากที่ส่งข้อความไป เหมือนฮั่วเทียนหลันจะเห็นภาพลวงตา
ดูเหมือนว่าจะพูดอย่างนั้นมันก็เหมือนกับวาทศิลป์หลังจากแต่งงานมาหลายปี!
เมื่อส่งข้อความเสร็จ หลิงหยูก็เดินเข้ามา
เขาเดินไปข้างๆหูของฮั่วเทียนหลันและพูดอะไรออกมาสองสามคำ
ดวงตาของฮั่วเทียนหลันมืดลงและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ปล่อยเธอไป!”
หลิงหยูพยักหน้า เขาเดินออกไปโดยไม่ส่งเสียงอะไร เมื่อเดินไปถึงตรงมุมก็เห็นบอดี้การ์ดกำลังขวางAuchเอาไว้อยู่
ผู้หญิงคนนี้เปล่งประกายมาก
แต่น่าเสียดายที่ฮั่วเทียนหลันไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอ
“คุณAuch ต้องขอโทษจริงๆท่านประธานไม่อยากพบคุณ”
“ฉันแค่ต้องการมาเยี่ยมคุณป้า.....”
Auchเพิ่งจะพูดออกมาแต่ก็ถูกหลิงหยูขัดขวางเอาไว้
“ท่านประธานตัดสินใจแล้ว กรุณาอย่าส่งเสียงดัง ค่อยๆไปนะ!”
พูดจบหลิงหยูก็บอกให้บอดี้การ์ดทั้งสองคนพาAuchลงไปจากตึก
หลิงหยูยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นที่ปากีสถานได้อย่างชัดเจน
Auchคนนี้ไม่ได้เป็นคนที่มีจิตใจดีอะไร
Auchถูกบอดี้การ์ดพาตัวออกไปที่หน้าประตูของโรงพยาบาล
เธอมองบอดี้การ์ดทั้งสองด้วยอารมณ์โกรธ สุดท้ายเธอก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ในใจ
เนื่องจากเธอรู้ดี ถ้าหากเธอนำความโกรธของเธอมาลงที่บอดี้การ์ด เธออาจจะถูกฮั่วเทียนหลันดูถูกเอาได้
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดไปหาฮั่วเทียนหลัน
แรงสั่นสะเทือนทำให้ฮั่วเทียนหลันที่กำลังสงบอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว
เมื่อเห็นชื่อที่ขึ้นในหน้าจอโทรศัพท์ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเย็นชาทันที
“มีเรื่องอะไร?”
เมื่อเธอลงเครื่อง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
หยางหลิงรุ่ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของฮั่วเทียนหลัน สิ่งแรกที่เธอนึกก็คือไม่อยากรับโทรศัพท์สายนี้
แต่นั่นเป็นแค่ว่าความคิด เธอทำตามความจริงและรับมัน
“คุณฮั่ว ทำไมถึงคิดถึงฉันได้หละ?”
“หลายวันมานี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายดังนั้นเลยไม่ได้ติดต่อกับคุณเลย ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ!”
คำพูดของฮั่วเทียนหลันมีกลิ่นอายของความขอโทษ
นีทำให้หยางหลิงรุ่ยตกใจ และสัญชาตญาณก็บอกกับเธอว่าผู้ชายคนนี้กำลังบอบบางเป็นอย่างมาก
เหมือนกับว่าไม่เหมือนเขาในตอนปกติ
“พูดอะไรออกมา! คุณทำงานของคุณไปเถอะ มีเวลาก็โทรมาหาฉันบ้างแค่นั้นฉันก็ดีใจแล้ว!”
ความโกรธของเธอในตอนแรกหายไปเพราะประโยคขอโทษของฮั่วเทียนหลัน
“งั้นก็ดีแล้ว.....”
ฮั่วเทียนหลันยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ตอนนี้หยางหลิงรุ่ยกำลังลากกระเป๋าเดินทาง
ดังนั้นเธอเร่งรีบมาจึงพูดออกไปว่า “คุณฮั่ว ไว้ค่อยคุณกันนะ ตอนนี้ฉันมีธุระ”
หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยออกมาจากสนามบินก็พบพนักงานต้อนรับ
นี่เป็นโครงการความร่วมมือในฐานะเมืองแห่งการค้าที่ใหญ่ที่สุดในจีน อุตสาหกรรมบันเทิงในเมืองZได้รับการพัฒนาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
การโปรโมตหนังในครั้งนี้ที่จริงไม่จำเป็นต้องให้หยางหลิงรุ่ยมาออกหน้า
แต่หยางหลิงรุ่ยเป็นคนพูดว่าการโปรโมตหนังในครั้งนี้สำคัญมาก เธอจึงต้องมาด้วยตัวเอง
คนที่มารับเธอก็คือคนของ Australia World Media ซึงเป็นบริษัทชื่อดังในเมืองz
ในฐานะผู้จัดงาน หยางหลิงรุ่ยได้รับการบริการอย่างดีในทุกๆด้านจากAustralia World Media
เดิมที่มีงานจัดเลี้ยงตอนรับ แต่หยางหลิงรุ่ยรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทางเธอจึงให้เย่ตงกับพนักงายของ Young's Entertainment อีกคนไปเข้าร่วมแทน
เธอแอบเดินไปรอบๆ สำรวจว่าเมืองzเป็นอย่างไรบ้าง
เธอจงใจที่เมืองที่ทำงานใหญ่ของกลุ่มฟาเรนไฮต์และยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน
ไม่ออกไปไหนจนมีเจ้าหน้าที่นรักษาความปลอดภัยเดินเข้ามาถาม ตอนนั้นเธอจึงเดินออกมา
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ก่อนที่จะมีการเปิดตัว ประธานของบริษัท Australia World Media ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างจั่วฮ่าว ก็มองซ้ายมองขวาแล้วกล่าวเชิญหยางหลิงรุ่ยออกมา
“คุณหยาง ก่อนที่การเปิดตัวจะเริ่มขึ้น ผมได้จัดเตรียมงานเลี้ยงไว้ให้ คุณเองก็มาด้วยกันสิ!”
จั่วฮ่าวอายุมากกว่าหยางหลิงรุ่ย 3 ปี เขายังไม่ได้แต่งงาน แต่ก็เปลี่ยนผู้หญิงอย่างไม่ซ้ำหน้า
มองเห็นแววตาของจั่วฮ่าว หยางหลิงรุ่ยก็เข้าใจว่าจั่วฮ่าวกำลังคิดอะไรอยู่
แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะนั่นเป็นสายตาที่เธอเห็นอยู่บ่อยๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
หยางหลิงรุ่ยยิ้มออกมาเล็กน้อย พูดออกมาเบาๆว่า “ต้องขอโทษด้วย ท่านประธานจั่ว วันนี้ฉันมีนัดกับเพื่อนที่เป็นนักออกแบบด้วยกัน ดังนั้นคือนี้ต้องของโทษด้วยจริงๆ ขอบคุณสำหรับคำเชิญมากๆ”
สำหรับคนประเภทที่มาทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวาย เธอไม่ชอบเอาเสียเลย
ดังนั้นหลังจากที่เธอทำความรู้จักกับจั่วฮ่าวแล้ว เธอจึงรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย
แต่อย่างไรก็ตามสังคมแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะก้าวข้ามไป
แต่ผู้ที่สามารถปรับตัวและรู้จักเปลี่ยนแปลงกฎได้ทุกที่ทุกเวลาสามารถก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้ทุกเวลา
และจั่วฮ่าว ก็เป็นคนแบบหลัง
หยางหลิงรุ่ยจากไปอย่างสง่างาม แต่ดวงตาของจั่วฮ่าวยังคงจับจ้องไปที่เธออยู่เสมอ
รองประธานของสโมสรแห่งนี้ซึ่งเป็นชายวัยกลางคนอายุ 40 ปี เขาก้าวไปข้างหน้าและพูดออกมาว่า “จั่วฮ่าวถูกใจเข้าแล้วหรอ? เธอคือผู้กำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ของ Yang's Entertainment ตำแหน่งก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรแต่ทำไม่หยิ่งยะโสยิ่งนัก!”
รอยยิ้มที่เหยียดหยาบปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจั่วฮ่าว เขาพูดออกมาว่า “ถ้ามันง่ายแบบนั้น มันจะไปสนุกอะไรหละ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง