โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 562

ผู้ชายคนนี้หมายความว่าอย่างไร? ทำไมถึงไม่ตอบกลับมา?

เธอโทรไปหาฮั่วเทียนหลันทันที ไม่ว่าเขาจะมีธุระที่สำคัญขนาดไหน แต่นี่ลูกสาวของเขากำลังไม่สบายอยู่และเขาก็ไม่สนใจ สิ่งนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยทนไม่ได้จริงๆ

แต่เมื่อหยางหลิงรุ่ยโทรไปแล้ว ก็โทรไม่ติด

เมื่อหยางหลิงรุ่ยมองไปที่ลั่นลานที่กำลังอ่อนแอใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น

เมื่อคนกำลังอ่อนแอมักจะนึกถึงที่พึ่ง

ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจโทนไปอีกครั้ง

สุดท้ายครั้งนี้ก็โทรติด

แต่หลังจากรอสายอยู่นาน ก็ไม่มีใครรับ

อีกฝ่ายไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่โทรศัพท์ด้วยความตกใจ และได้รับข้อความจากฮั่วเทียนหลันมาหนึ่งข้อความ

“ผมยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอยู่!”

เขากำลังติดธุระอยู่ดังนั้นจึงไม่มีเวลาให้เธอและลั่นลาน?

ผู้ชายคนนี้เข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่า?

หยางหลิงรุ่ยคิดว่านี่มันน่าขำ มุมปากอดไม่ได้ที่จะแสดงรอยที่ยิ้มเย้ยหยัน “ฮั่วเทียนหลัน คุณคิดว่าหลังจากที่หมั้นหมายกันแล้วทุกอย่างมันจะจบอย่างนั้นหรอ?”

“ฉันยังไม่เคยบอกสักครั้งว่าจะแต่งงานกับคุณนะ!”

หยางหลิงรุ่ยกดเบอร์โทรศัพท์ของฮั่วเทียนหลันขึ้นมาและบล็อคมัน

เธอโกรธมาก เรื่องที่ฮั่วเทียนหลันทำในครั้งทำให้เธอโกรธอย่างมาก

หลังจากหยางหลิงรุ่ยเฝ้าไข้มาถึงตอนตี 4 ป้าdingก็มาเปลี่ยน

เธอนอนลงที่เตียงของคนไข้ เตียงเล็กมากกว้างแค่เมตรกว่าๆ

หยางหลิงรุ่ยหลับได้ไม่ค่อยสบาย และได้ยินอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือ

เธออยากลืมตาขึ้นมา แต่เธอก็เจ็บตามากก

เธอจึงนอนหลับต่อไป จนถึงตอนกลางวันของวันต่อมาเธอถึงจะตื่นขึ้น

ทันทีที่ตื่นขึ้นมาเธอก็เห็นลั่นลานจ้องมองมาที่เธอ

“คุณแม่ตื่นแล้ว! ตื่นสายเลยนะ”

คำทักทายนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยตื่นขึ้นมาทันที ใบหน้าของเธอแดงขึ้น

เธอลุกขึ้นมา เนื่องจากนอนดึก จึงรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย

เธอมองไปรอบๆอยู่สักพักถึงจะรู้สึกได้ว่าเธอกับนอนอยู่บนเตียงคนไข้

ป้าdingเดินเข้าประตูมา เห็นหยางหลิงรุ่ยตื่นแล้ว ก็ยื่นข้าวกล่องให้เธอพร้อมพูดว่า “”คุณนายหยาง ทานข้าวเช้าสักหน่อย นี่เป็นของที่ส่งมาจากคฤหาสน์

หยางหลิงรุ่ยรับมันไว้และพูดออกไปเบาๆว่า “ขอบคุณจะป้าding เดี๋ยวอีกพักหนึ่งฉันจะกิน!”

“ไม่ได้ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง คุณนาย ไม่ว่าคุณนายจะยุ่งแค่ไหน แต่ต้องทานข้าวให้ตรงเวลานะ!”

ป้าdingเห็นว่าหยางหลิงรุ่ยไม่ทานข้าว ใจของเธอก็รู้สึกกังวล

แต่เมื่อเธอพูดจบ หยางหลิงรุ่ยก็มองมาที่เธอด้วยสายตาที่แปลกไป

ป้าdingผงะไปครู่หนึ่งและเข้าใจได้ทันทีว่า เธอดูเหมือนจะทำอะไรโง่ ๆ

“งั้น.....”

ป้าdingกำลังจะพูดอธิบายออกมา แต่หยางหลิงรุ่ยก็ยิ้มและส่ายหน้า

ที่ทำให้ป้าdingตกใจมาก สุดท้ายคุณนายก็รู้สถานะของตนเองแล้วหรอ?

ในขณะที่หยางหลิงรุ่ยทานข้าว เธอก็โทรไปหาเย่ตง

ลั่นลานยังไม่หายดี เธอจึงไม่สามารถไปทำงานได้

หลังจากที่เธอจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว เธอก็มานั่งบนเตียงของลั่นลาน และพาลั่นลานวาดภาพ

เนื่องจากการแสดงออกของลั่นลาน หยางหลิงรุ่ยจึงปฏิบัติกับลั่นลานแบบเด็กโตมาโดยตลอด

แต่เมื่อเธอมองดูดีเธอก็คิดว่าสิ่งที่เธอคิดมาทั้งหมดนั้นมันไม่จริง

สุดท้ายลั่นลานก็เป็นแค่เด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง

เธอสามารถดูการ์ตูนได้เป็นเวลานานและหัวเราะกับมันอย่างคึกคัก

แต่เมื่อถึงตอนบ่ายลั่นลานก็หยุดลง

เนื่องจากอาการของเธอแย่ลง

ตอนนี้อุณหภูมิร่างกายของเธอสูงถึง 39 องศา มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้อุณหภูมิลดลง

หัวใจของคนเป็นแม่อย่างหยางหลิงรุ่ยถึงกับแตกสลาย

ลั่นลานปวดกัวมาก เธอนอนไม่หลับ

ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการจับมาที่มือของหยางหลิงรุ่ย

“แม่จ๋า แม่จ๋า....”

“อย่าไปนะ.....”

ท่าทางที่ไม่ปลอดภัยของเธอ ทำให้หยางหลิงรุ่ยกังวลมาก

ตอนนี้ความรู้สึกผิดที่เธอมีอยู่ก็แย่ลงไปกว่าเดิม

ลูกสาวคนนี้เธอขาดพ่อในตอนเด็ก แต่พอโตมาก็ขาดแม่ไปอีก

สองปีที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตอยู่กับฮั่วเทียนหลันมาโดยตลอด

ในวัยนี้ทุกคนล้วนรู้ดีว่าพ่อแม่สำคัญเพียงใด

แม้ว่าเธอจะป่วยและไม่สบายใจ แต่เธอก็ยังให้ความสำคัญกับหยางหลิงรุ่ยตลอดเวลาหวังว่าหยางหลิงรุ่ยจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป

“ลูกรัก แม่จะอยู่กับหนู จะอยู่กับหนูตลอดไป!”

“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวของพวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

คำพูดของหยางหลิงรุ่ยแสดงถึงการปลอบโยน

อาการไข้ของลั่นลานดีขึ้นอย่างช้าๆ และเธอก็ตื่นขึ้นมา

ตอนนี้หยางหลิงรุ่ยที่กังวลมาโดยตลอดก็สบายใจ

ความเหนื่อยล้าที่ไม่อาจคาดเดาได้แผ่เข้าสู่กระดูกของเธอจากภายในสู่ภายนอก

หยางหลิงรุ่ยลุกขึ้น เธออยากจะไปดื่มน้ำ แต่เมื่อลุกขึ้นก็รู้สึกมึนหัวจนเกือบจะล้มลงไปที่พื้น

ป้าdingที่นั่งอยู่ข้างๆรีบวิ่งเข้ามาพยุงเธอ

“คุณนาย คุณนายเหนื่อยมากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ!”

หลี่เฉียนรีบเดินมาและพยุงคนที่ถูกชนขึ้นมา

แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าของคน ๆ นี้ร่างกายของเธอก็สั่นและเธอก็ปล่อยมือออกไปทันที

หยางหลิงรุ่ยที่เพิ่งจะลุกขึ้นได้ก็ล้มลงไปอีกครั้ง

“คุณจะฆ่าฉันหรอ!” เธอพูดออกมาด้วยความโมโห

และหลี่เฉียนมองมาที่หยางหลิงรุ่ยพร้อมพูดออกมาว่า “อันหรัน ใช่อันหรันไหม? เธอยังมีชีวิตอยู่จริงๆด้วย!”

อันหรัน?

คำเรียกที่คุ้นหูนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยตกใจมาก

เธอเคยรู้จักคนคนนี้มาก่อนอย่างนั้นหรอ?

ทั้งสองมองหน้ากันและในที่สุดเธอก็ถามอย่างไม่แน่ใจ “ขอโทษด้วยคะ เราเคยรู้จักกันมาก่อนไหม?”

เธอถามอย่างระมัดระวังเพราะเธอได้อ่านข่าวเมื่อไม่นานมานี้มีคนจำนวนมากที่จงใจสนทนาเพื่อก่ออาชญากรรมโดยมีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า

แต่หยางหลิงรุ่ยค่อนข้างมั่นใจว่าเธอรู้จักผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเธอ

เนื่องจากอีกฝ่ายพูดชื่อเดิมของเธอออกมา

“เอ๋?” หลี่เฉียนมองมาที่หยางหลิงรุ่ยด้วยความสงสัย เธอไม่คิดมาก่อนว่าหยางหลิงรุ่ยจะตอบเธอกลับมาแบบนี้

“เธอจำฉันไม่ได้แล้วหรอ? พวกเราเป็นเพื่อนกันตอนเรียน! ฉันคือหลี่เฉียน!”

ในโลกใบนี้ไม่มีใครจะเหมือนกันได้ขนาดนี้อีกแล้ว

หลี่เฉียนค่อนข้างมั่นใจว่า เธอจะต้องเป็นอันหรัน

“ต้องขอโทษด้วยคะ ฉันความจำเสื่อม เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด ฉันลืมมันไปหมดแล้ว” หยางหลิงรุ่ยเม้มริมฝีปาก แต่เธอก็บอกความจริงไป

เนื่องจากเธอมองออกมาว่าตอนที่หลี่เฉียนพูดออกมาว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกัรตอนสมัยเรียน คำพูดนั้นมันออกมาจากใจ

“ทำไม่ถึงความจำเสื่อม?” หลี่เฉียนหยิบยาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้ว เธอบอกให้หยางหลิงรุ่ยรอเธออยู่ตรงนี้สักครู่ เดี๋ยวเธอจะกลับมา

ที่หลี่เฉียนมาเมืองsครั้งนี้ก็เพื่อมาคุยเรื่องงานภาพยนตร์กับเหลียวซิรง

แต่ตอนนี้เหลียวซิรงกำลังถ่ายทำอยู่ไม่สามารถออกมาได้ จึงให้หลี่เฉียนมารออยู่ก่อน

อุณหภูมิของเมืองsเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เธอนอนอยู่กับเพื่อนร่วมงานของเธอมาหลายคืน จนเพื่อนร่วมงานของเธอไม่สบายและหลี่เฉียนจึงนำเพื่อนของเธอมาส่งที่โรงพยาบาล

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่เงาหลังของหลี่เฉียนจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรไปหาใครสักคน

ไม่ใช่ฮั่วเทียนหลัน แต่เป็นจางรัน

“อันหรัน”

“ว่าไงพี่ มีเรื่องอะไรไหม?”

เมื่อหยางหลิงรุ่ยรู้ความจริงแล้วจางรันก็ละทิ้งความรู้สึกที่ไม่ควรจะเป็น

“ฉันถามอะไรเธอสักอย่างสิ เมื่อก่อนฉันเคยมีเพื่อนชื่อหลี่เฉียนไหม?”

“พี่กำลังพูดถึงตัวแทนของเหลียวซิรงใช่ไหม? มีสิ พวกพี่เคยรู้จักกันแต่ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าเธอ แต่ผมรู้จักเธอ”

เกี่ยวกับของมูลของหยางหลิงรุ่ย จางรันเคยตรวจสอบมาแล้วรอบหนึ่ง

หลังจากที่คุยกันจบหยางหลิงรุ่ยก็วางสายโทรศัพท์ จากนั้นเธอก็เห็นหลี่เฉียนเดินกลับมา

หลี่เฉียนจูงมือหยางหลิงรุ่ยออกไปร้านกาแฟที่อยู่เยื้องๆของโรงพยาบาล

หลังจากที่นั่งจิบกาแฟมาสักพัก หลี่เฉียนก็ถามมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “อันหรัน เธอความจำเสื่อมหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง