เหนือเมฆขับรถเวสป้ามาจอดตรงทางเข้าออกของพนักงานดังเช่นสามวันที่ผ่านมา ทว่าวันนี้เขามาเร็วหน่อยเนื่องจากช้องนางเลิกงานสี่โมงเย็น ในขณะที่รอช้องนางเลิกงาน เขาเกิดกระหายน้ำ จึงเดินไปซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ กะว่ากลับมาช้องนางก็ออกมาจากโรงแรมพอดี
ขณะที่เหนือเมฆเดินไปร้านสะดวกซื้อ ไกรศรที่หายหน้าไปหลายวันเดินมาทางเข้าออกพนักงาน เขาด้อมๆ มองๆ อยู่ตรงบริเวณรถเวสป้าคันสวย ชะเง้อคอมองช้องนางที่เดินออกมาพอดี พอเห็นอดีตคนรักเขารีบหลบตรงหัวมุมทางเดิน
“กุ้ง” ไกรศรโผล่ตัวออกมาจากมุมทางเดิน เรียกชื่อเล่นอดีตคนรัก ที่ตกใจจนร้องอุทานออกมา
“ว้าย! ...ต้าร์” ช้องนางรีบขยับเท้าหมายเดินหนี ทว่าไกรศรนำร่างมาขวางทาง นัยน์ตาหล่อนเลิกลั่ก มองซ้ายมองขวาราวกับหาช่วย แต่ก็เหมือนกับโชคไม่เข้าข้าง ไม่มีพนักงานคนใดเข้าออกในเวลานี้นอกจากหล่อน จะมีเพียงรถเวสป้าคันเดิมที่จอดอยู่ไม่ห่างมากนัก แต่ไม่เห็นเจ้าของที่มักเห็นเขายืนพิงรถรอหล่อน
เหนือเมฆไปไหนนะ...เขาไปไหน
ช้องนางอยากเห็นหน้าเขาเวลานี้มากเหลือเกิน
“อยู่คุยกันก่อนสิ ฟังต้าร์อธิบายก่อน”
“ยังต้องอธิบายอะไรอีก ดีเท่าไหร่ที่ฉันไม่โทรแจ้งตำรวจ”
แม้ว่าใจหวาดหวั่นกับการเจอหน้าอดีตคนรัก ทว่าเรื่องที่เขาทำไว้กับตนเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ และเป็นเรื่องที่ทำให้หล่อนชิงชังโกรธแค้นเขาเป็นที่สุด น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปจึงค่อนข้างแข็งกระด้าง
“ต้าร์จำเป็นจริงๆ แต่เชื่อเถอะว่า ต้าร์ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น” ไกรศรพยายามแก้ตัว แม้ว่าเป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น
“ไม่ต้องพูดให้ตัวเองดูแย่ลงไปกว่านี้หรอก อีกอย่างฉันไม่เชื่อคำพูดของแกอีกแล้ว เราไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ต่างคนต่างไป” ช้องนางจะเบี่ยงเท้าเดินหนี ไกรศรก็นำตัวมาขวางไว้ ไม่เพียงแค่นั้นยังจับแขนหล่อน คล้ายกับว่ากำลังลากจูง
“ไป ไปหาที่คุยกัน ต้าร์มีเรื่องจะคุยกับกุ้ง”
“ไม่นะ ไม่ไป ช่วยด้วย ช่วย...” ช้องนางขัดขืนเต็มที่ ร้องให้คนช่วย แต่เสียงก็ถูกกั้นไว้ด้วยมือใหญ่ของไกรศร
“อย่าแหกปากถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ไกรศรขู่
“มึงต่างหากที่ต้องเจ็บตัว”
ผู้พูดคือเหนือเมฆที่ทิ้งขวดน้ำบนพื้น ก้าวเท้าวิ่งมาหาช้องนางที่กำลังถูกชายคนหนึ่งคุกคามอยู่ เขาไม่พูดร่ำทำเพลง พอพูดจบก็กระชากแขนไกรศรที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนประเคนทั้งหมัดทั้งเท้าใส่ร่างไกรศร ช้องนางกลัวจนตัวสั่น ยืนมองเหนือเมฆทำร้ายร่างกายไกรศรด้วยอาการทำอะไรไม่ถูก และตอนนี้ก็เริ่มมีคนเข้ามามุงดูเหตุการณ์ระทึก
ไกรศรที่สู้เหนือเมฆไม่ได้ในทุกทาง ใช้จังหวะหนึ่งยันตัวลุกขึ้นยืนก่อนวิ่งหนีเอาตัวรอดไม่หันกลับไปมองทางด้านหลัง
“ไม่ว่าหรอก คุณเดชเป็นคนใจดี อีกอย่างไม่ค่อยอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งตอนนี้พี่ใหญ่สุดในบ้านหลังนี้เพราะพี่เป็นคนดูแลที่นี่ตอนคุณเดชไม่อยู่ คนรับใช้หรือว่าคนสวนจึงให้เกียรติพี่”
เขาพูดออกตัวไว้ก่อน เพราะเมื่อเข้าไปด้านใน คนรับใช้ในบ้านที่มีกันหลายคนจะต้องพากันนอบน้อม ช้องนางจะได้ไม่สงสัย
“อ๋อค่ะ” หล่อนทำเสียงรับรู้ ก้าวเดินเข้าไปในบ้านที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เฟอร์นิเจอร์ล้วนแล้วแต่มีราคา ถูกจัดวางอย่างลงตัวและเข้าชุด ความที่หล่อนรู้ภาษาอังกฤษและรู้จักยี่ห้อแบรนด์ดังหลายแบรนด์ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่คือแบรนด์เวอร์ซาเช่ แบรนด์ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า คนที่ได้ครอบครองต้องมีเงินมากแค่ไหน
“แป้น แป้น” เหนือเมฆเรียกคนรับใช้ที่รีบเดินมาหาเจ้านาย
“คะคุณเหนือ”
“พาคุณกุ้งไปล้างหน้าที่ห้องของฉัน” เขาสั่งแป้น “กุ้งตามแป้นไปนะ”
“ค่ะคุณเหนือ” แป้นรับคำสั่ง พาช้องนางขึ้นไปชั้นบน แต่เหมือนเหนือเมฆจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาเรียกแป้นให้มาหาตน พร้อมกระซิบบอกบางอย่าง “ได้ค่ะคุณเหนือ”
เมื่อรับคำสั่งสุดท้ายของเจ้านายเสร็จ แป้นพาช้องนางไปยังห้องนอนของเจ้านายชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส