โซ่รักใยพิศวาส นิยาย บท 18

ช้องนางกวาดตามองห้องนอนของเหนือเมฆที่ใหญ่กว่าห้องนอนของตนหลายเท่าตาค้าง ข้าวของเครื่องใช้ในห้องนี้เป็นของแบรนด์เวอร์ซาเช่ทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ และอีกหลายรายการต่างเป็นแบรนด์นี้ทั้งสิ้น เจ้าของบ้านหลังนี้คงชอบแบรนด์นี้มากๆ เฟอร์นิเจอร์เกือบทุกชิ้นจึงเป็นแบรนด์นี้

“นี่ห้องพี่เหนือจริงๆ เหรอ” ช้องนางถามอย่างไม่แน่ใจ

“ใช่ค่ะ ห้องนี้ห้องคุณเหนือค่ะ” แป้นตอบ “ผ้าเช็ดหน้าอยู่ในห้องน้ำแล้วนะคะ เชิญคุณกุ้งตามสบายค่ะ”

แป้นเหมือนพูดตัดบท หล่อนยิ้มให้ช้องนางก่อนเดินออกจากห้องเมื่อหมดหน้าที่ ช้องนางเดินเข้าห้องน้ำที่ภายในห้องนี้ก็ยังมีของใช้แบรนด์ดังให้เห็น หล่อนรีบล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วรีบออกจากห้อง ไม่แตะต้องสิ่งใดเพราะเกรงว่าตัวเองจะทำเสียหาย ซึ่งรู้ดีว่าไม่มีปัญญาใช้คืน

“พี่เหนือไปไหนจ้ะแป้น” ช้องนางถามสาวใช้คนเดิมที่กำลังเช็ดทำความสะอาดตู้โชว์อยู่

“อยู่ในครัวค่ะ” แป้นตอบ ช้องนางทำหน้าสงสัย

“อยู่ในครัว พี่เหนือไปทำอะไรในครัว”

“คุณเหนือทำอาหารให้คุณกุ้งทานไงคะ” ดวงหน้าช้องนางตกใจและแปลกใจกับคำตอบ “ห้องครัวอยู่ทางนั้นค่ะ เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย”

“อ๋อจ้ะ ขอบใจมากนะ”

ช้องนางเดินตามทางที่แป้นบอก พอถึงห้องครัวก็พบกว่า เหนือเมฆกำลังยืนหั่นเนื้อสดอยู่ตรงโต๊ะเตรียมอาหาร บุคลิกของเหนือเมฆตอนนี้เหมือนพ่อครัวไม่มีผิด เขาสวมผ้ากันเปื้อน ท่าทางหั่นเนื้อสัตว์ทะมัดทะแมง หยิบนู่นจับนี่คล่องแคล่ว ราวกับว่าเขาทำอาหารเป็นประจำ

“ล้างหน้าแล้วดูดีขึ้นนะ” เหนือเมฆทัก ก่อนก้มหน้าหั่นเนื้อไก่ต่อ

“พี่เหนือทำกับข้าวให้กุ้งทานหรือคะ”

“ใช่ครับ พี่ว่าไหนๆ ก็มาแล้ว พี่เลยทำกับข้าวอร่อยๆ ให้กุ้งกินไง รับรองว่ากุ้งได้กินฝีมือพี่จะติดใจ”

เหนือเมฆอวยตัวเอง ช้องนางยิ้มเดินมายืนใกล้เขา

“กุ้งไม่คิดว่าพี่เหนือจะทำกับข้าวเป็น”

“พ่อพี่สอนน่ะ พ่อพี่ทำอาหารเก่งมากเลยนะ ทำเป็นหมดไม่ว่าจะอาหารไทย จีน อิตาเลี่ยน ฝรั่งเศส พ่อพี่ข้าครัวทีไรก็มักชวนพี่ไปเป็นลูกมือ พอโตขึ้นหน่อยพ่อพี่ก็สอนทำอาหาร พี่เลยทำเป็น” เหนือเมฆเล่าความเป็นมาเป็นไปคร่าวๆ

“ต่างกับกุ้งนะคะ กุ้งทำเป็นอยู่ไม่กี่อย่าง ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น แล้วก็ผัดกะเพรา นอกนั้นทำไม่เป็นค่ะ” ช้องนางบอกความจริง “พ่อกับแม่ยังบ่นกุ้งบ่อยๆ ว่า ไม่หัดทำกับข้าวบ้าง แต่งงานไปจะได้ทำให้สามีกิน กุ้งก็พยายามทำแล้วนะคะ แต่ไปไม่รอด เลยคิดว่าไม่ทำดีกว่า ทำไปก็เสียของ”

“ถ้าเป็นพี่นะ หมายถึงถ้ากุ้งแต่งงานกับพี่ พี่จะเป็นคนทำให้กุ้งกินเอง กุ้งไม่ต้องเหนื่อยเลยสักกะนิด พี่บริการถึงเตียง” เหนือเมฆพูดทีเล่นทีจริง ช้องนางหน้าแดง เขินอาย

“พี่เหนือทำอะไรกินคะ” หล่อนเปลี่ยนเรื่องคุย

“ทำแกงส้มกุ้ง ผัดขิงแล้วก็แกงจืดน่องไก่”

“ทำเยอะจังค่ะ กินกันแค่สองคนเอง”

“พี่ทำเผื่อแป้นกับคนอื่นด้วยน่ะ พี่กินอะไร พวกเขาก็ได้กินแบบนั้น”

“อ๋อค่ะ” หล่อนทำเสียงรับรู้ “กุ้งช่วยนะคะ ช่วยหั่นผักก็ยังดี”

“อย่าดีกว่า กุ้งไปนั่งดูทีวีรอพี่ในห้องรับแขกดีกว่า พี่ไม่อยากให้กลิ่นอาหารติดตัวติดเส้นผมกุ้ง” เขาบอกด้วยความห่วงใย “พี่ทำไม่นานหรอก ประมาณสี่สิบนาทีก็เสร็จ เสร็จแล้วพี่จะไปตามนะ”

“มันจะดีหรือคะ ให้กุ้งช่วยดีกว่า” หล่อนกล่าวอย่างเกรงใจ

“ดีสิ กุ้งไม่ต้องกังวล ไปนั่งสวยๆ ดูทีวีนะ พี่ทำแปปเดียวเดี๋ยวก็เสร็จ”

“ได้ค่ะ” ช้องนางไม่ปฏิเสธคำสั่งเขา หล่อนคิดว่าหากอยู่ช่วยเขาจะกลายเป็นว่า เกะกะเหนือเมฆ หล่อนจึงเดินออกจากห้องครัวมานั่งบนโซฟา หยิบรีโมทมากดเปิดดูทีวีจอใหญ่ นั่งรออาหารเสร็จตามเขาบอก ระหว่างที่หล่อนกำลังดูทีวีอยู่ แป้นได้นำของว่างมาเสิร์ฟ

“คุณเหนือให้นำของว่างมาให้คุณกุ้งค่ะ” แก้วน้ำหวานถูกวางลงบนโต๊ะกระจก ตามด้วยผลไม้หั่นพอดีคำหนึ่งจาน

“แป้นหรือคนอื่นไม่ช่วยพี่เหนือทำกับข้าวเหรอจ้ะ” ช้องนางถาม

“เวลาคุณเหนือทำกับข้าว คุณเหนือชอบทำคนเดียวค่ะ ทำคนเดียวทุกอย่างเลยนะคะ ทำเสร็จก็ล้างทำความสะอาดครัวซะเหมือนใหม่” แป้นตอบ

“โห ขนาดนั้นเชียวเหรอ”

“ใช่ค่ะ คุณเหนือทำอย่างนี้ตลอดค่ะ”

“แล้วทำไมต้องเรียกพี่เหนือว่าคุณล่ะ เรียกแบบนี้คุณเดชไม่ว่าเหรอ” แป้นชะงักไปนิด แต่ก็ไหลลื่นได้ดีตามเจ้านายสั่ง

“คุณเดชไม่ว่าค่ะ ที่เรียกคุณเหนือว่าคุณ เพราะคุณเหนืออยู่กับครอบครัวคุณเดชมานานค่ะ รักคุณเหนือไม่ต่างกับลูกค่ะ” แป้นเสริมแต่งให้ดูแนบเนียน ช้องนางเลยเชื่อสนิทใจ

“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะตอนที่ฉันอยู่ไร่เมฆา ดูท่าทางคุณเดชจะเกรงใจพี่เหนือ”

‘จะไม่ให้พี่เดชเกรงใจได้ไงก็คุณเหนือเป็นเจ้านาย ไม่ใช่ลูกน้องนี่นา’ แป้นคิดในใจ

“ค่ะ ทุกคนเกรงใจคุณเหนือค่ะ” แป้นบอกเพิ่มเติม “แป้นขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”

“พี่มีเพื่อนเป็นตำรวจ พี่คิดว่า เพื่อนพี่คนนี้ต้องจัดการ เพราะถ้าเราไม่ทำอะไรเลย มันจะได้ใจและมาก่อกวนใจกุ้งอีก” เหนือเมฆมีแผนในใจ “แต่กุ้งต้องบอกที่อยู่ของมันให้พี่นะ พี่จะจัดการให้กุ้ง”

“กุ้งไม่อยากให้พี่เหนือมายุ่งเรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องของพี่เหนือเลย” ช้องนางกล่าวอย่างเกรงใจ

“พี่เข้ามาเกี่ยวตั้งแต่วันที่พี่ช่วยกุ้งแล้ว ไหนๆ ก็ช่วยมาตั้งแต่ต้นก็ต้องช่วยให้จบสิ ไม่งั้นพี่ไม่สบายใจแน่ๆ แล้วตัวกุ้งเองก็จะใช้ชีวิตไม่เป็นสุขด้วย บอกที่อยู่มันมาเถอะ พี่จะได้จัดการมัน” เหนือเมฆพูดอีกก็ถูกอีก ช้องนางทำหน้าคิดหนัก “พี่ไม่ทำอะไรมันหรอก หรือที่กุ้งไม่บอกเพราะห่วงมัน”

กระแสเสียงขุ่นเล็กน้อย เช่นเดียวกับหัวใจของผู้พูดที่เจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อคิดว่า ช้องนางยังมีเยื่อใยกับไกรศรอยู่

“กุ้งเจ็บแล้วจำค่ะ ที่กุ้งไม่บอกเพราะห่วงพี่เหนือมากกว่า”

หล่อนไม่คิดว่าคำพูดของเขาตอนท้ายเป็นคำประชด เนื่องจากตอนนี้ความเป็นห่วงมีให้ชายตรงหน้ามากกว่าอดีตคนรักที่ไม่มีอะไรน่าจดจำ เหนือเมฆยิ้มกับคำตอบที่น่าฟังที่สุดในโลก

“ดีใจจังที่กุ้งเป็นห่วงพี่” เขายิ้มกว้าง “แต่พี่เป็นห่วงกุ้งมากกว่า พี่อยากให้เรื่องนี้จบ เพื่อความสบายใจของพี่และกุ้ง บอกที่อยู่มันมาให้พี่เถอะ”

“ถึงกุ้งให้พี่ไป ก็ไม่แน่ว่ามันจะอยู่ที่นั่น” ช้องนางแย้ง

“เอามาเถอะ ที่เหลือพี่จัดการเอง”

“ค่ะก็ได้ค่ะ” ช้องนางบอกที่อยู่ของไกรศรให้เหนือเมฆรับรู้ “กุ้งมีคำถามถามพี่เหนือค่ะ”

“ถามว่าอะไรครับ”

“กุ้งว่าจะถามตั้งหลายวันแล้วแต่ก็ลืมทุกที คืนที่เกิดเรื่องกับกุ้ง พี่เหนือไปทำอะไรที่บ้านหลังนั้นคะ”

“พี่ไปเยี่ยมคนที่พี่ขับรถชนน่ะ พี่ขับรถชนเขาเมื่อสองเดือนก่อน ขาเขาหักต้องเข้าเฝือกและอาจต้องทำกายภาพบำบัดต่อ พี่เลยให้เงินช่วยเหลือเขาเป็นรายเดือนและออกค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวให้จนหาย วันนั้นกว่าพี่จะทำธุระเสร็จก็เกือบหนึ่งทุ่ม กว่าจะไปถึงบ้านหลังนั้นก็สองทุ่มกว่า อยู่คุยกับเขาเพลินไปหน่อย ถ้าพี่ไม่อยู่คุยกับเขา พี่คงช่วยกุ้งไม่ทัน” เหนือเมฆตอบคำถามช้องนาง

“ใช่ค่ะ โชคดีที่พี่เหนือไปเยี่ยมเขาช้า ไม่อย่างนั้นกุ้งคงแย่” พอนึกถึงเรื่องคืนนั้น ใบหน้าหล่อนก็เศร้าลง

“อย่าไปคิดถึงมันเลย เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป จำไว้เป็นบทเรียนว่า อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนจะจนใจเอง แต่กุ้งไว้ใจพี่ได้นะ พี่หล่อ พี่นิสัยดี”

ช้องนางอมยิ้มกับคำยอตัวเองของเขา ที่น่าแปลกหล่อนรู้จักเขาไม่กี่วัน แต่กลับไว้ใจเชื่อใจเขามากกว่าไกรศรเสียอีก และที่สำคัญในจิตใจและหัวใจของหล่อนไม่มีไกรศรเลยแม้แต่น้อย รู้สึกเหมือนกับว่า ความรักที่เคยให้ไกรศรไปถูกตัดขาดด้วยคมมีด ไม่หลงเหลือเยื่อใย และพร้อมเริ่มความรักครั้งใหม่ได้อย่างสนิทใจ

“ค่ะพ่อรูปหล่อ พ่อนิสัยดี”

ทั้งสองทานอาหารต่อจนเสร็จ หลังจากทานอาหารจนอิ่มท้อง เหนือเมฆพาช้องนางมาส่งที่บ้านด้วยรถยนต์คันหรู ก่อนที่เขาจะไปยังอีกหนึ่งจุดหมาย เพื่อไปจัดการไกรศรให้พ้นทางช้องนางแบบถาวร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส