ร่างช้องนางถูกบรรจงวางบนเตียงนอน เหนือเมฆขยับผ้าห่มคลุมตัวหล่อน เขาทอดมองใบหน้าช้องนางที่หลับสนิทด้วยความสงสารและรู้สึกผิด ยิ่งมองเห็นรอยฝ่ามือที่นูนขึ้นเป็นรูป เหนือเมฆขบกรามแน่นเมื่อนึกถึงคนทำ เขานำมือไปลูบเบาๆ ตรงแก้มของช้องนาง
เหนือเมฆเจ็บที่ช้องนางถูกทำร้าย เจ็บยิ่งกว่าตัวเองถูกคมมีดของเสือหาญปาดที่แขนเสียอีก หากเป็นไปได้ เขายินดีเจ็บแทนช้องนางทุกอย่าง ให้ความเจ็บปวดของหล่อนมาอยู่ที่ตน
เขายินดีรับมัน...
“พี่ขอโทษ” เหนือเมฆพูดเสียงแผ่ว เพราะเกรงว่าเสียงของเขาจะทำให้ช้องนางตื่น เขานั่งมองหล่อนอีกราวสิบนาทีก็ลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะออกไปจากห้องเพื่อกลับไปพักผ่อนในห้องของตน ทว่าเขาก้าวไปไม่กี่ก้าว เสียงของคนที่นอนหลับก็ดังขึ้น
“พี่เหนือ” เจ้าของชื่อระงับเท้าที่กำลังเดินไปยังประตูห้อง หมุนตัวกลับมามองต้นเสียงที่ยันตัวลุกขึ้นนั่ง เหนือเมฆเดินกลับมานั่งริมเตียง “พี่เหนือเป็นยังไงบ้างคะ แผลที่ถูกมีดปาดลึกไหมคะ”
ช้องนางถามด้วยความเป็นห่วง เหนือเมฆยิ้มอ่อนโยนให้สาวตรงหน้า จะว่าไป เขาลืมเรื่องแผลของตัวเองเสียสนิท เพราะในความรู้สึก เขาห่วงหล่อนมากกว่า
“พี่ไม่เจ็บแผลหรอก แต่เจ็บที่ใจมากกว่าที่เห็นรอยฝ่ามือของมันบนแก้มกุ้ง” เหนือเมฆกล่าวจากใจจริง
“ให้กุ้งดูแผลพี่เหนือหน่อยค่ะ” เหนือเมฆยกแขนข้างที่ถูกมีดเสือหาญปาดให้หล่อนดู ช้องนางมองบาดแผลที่ยังมีเลือดไหลซึม ก่อนเงยหน้ามองเขา “ดีที่แผลไม่ลึก กุ้งว่าทำความสะอาดแผลสักหน่อยดีกว่าค่ะ ที่นี่มีอุปกรณ์ล้างแผลหรือเปล่าคะ”
“อยู่ตู้ยาข้างห้องครัว”
“พี่เหนือรอในห้องนะคะ กุ้งลงไปเอาเดี๋ยวเดียวค่ะ”
“อย่าลำบากกุ้งเลย แผลแค่นี้เอง พี่ไปอาบน้ำคราบเลือดก็ออกแล้ว พี่อยากให้กุ้งพักผ่อนมากกว่าเกือบตีสามแล้ว”
“กุ้งไม่ลำบากหรอกค่ะ กุ้งเต็มใจค่ะ” ช้องนางไม่ห่วงนอน เพราะหล่อนเองก็ห่วงเขาเช่นกัน หล่อนลุกขึ้นจากเตียง เดินลงไปชั้นล่างและกลับขึ้นมาพร้อมกับกล่องใส่อุปกรณ์ทำแผล
ช้องนางลงมือทำความสะอาดแผลให้เหนือเมฆที่ก้มหน้ามองดวงหน้าหวานสวยตลอดเวลา เขายิ้มกับภาพที่เห็น มันเหมือนกับภรรยาดูแลสามีอย่างไหนอย่างนั้น แต่เมื่อเห็นรอยฝ่ามือเสือหาญบนแก้มหล่อน รอยยิ้มเขาหุบลงทันที แค้นใจคนที่ทำให้เกิดรอยนี้ อยากไปโรงพยาบาลตัดมือเสือหาญให้ขาด จะได้ไม่ไปทำเช่นนี้กับใครอีก
“อุ้ย!” คนตัวโตสะดุ้ง เมื่อหล่อนเอาแอลกอฮอล์ทางลงบนบาดแผล หลังจากน้ำเกลือที่เหลืออยู่ก้นขวดหมด ช้องนางจึงใช้แอลกอฮอล์แทน
“แสบหรือคะ” ช้องนางถาม
“แสบที่สุดเลย กุ้งเป่าให้พี่หน่อยสิ” เขาอ้อน ช้องนางทำตาม เป่าลมตรงแผลของเขา “คราวนี้ก็โอ๋พี่ด้วย พี่จะได้หายแสบแผล”
ช้องนางหน้าแดงกับคำพูดออดอ้อนของเขา ใจหล่อนจักกะจี้ ขวยเขิน นั่งทำแผลให้เขาจนเสร็จ
“เสร็จแล้วค่ะ” หล่อนบอกเมื่อติดพลาสเตอร์กันน้ำบนบาดแผลเขา จัดการเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องให้เรียบร้อย เอี้ยวตัวนำมันไปวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง
รสจูบที่ได้รับจากช้องนาง ยังทำให้ความเสน่หาในกายเหนือเมฆลุกโชน แก่นกายชายตอบสนองอารมณ์เติบใหญ่ภายใต้กางเกงนอน ที่โชคดีว่าเขาสวมกางเกงชั้นใน ไม่เช่นนั้นมันต้องอวดศักดาโดนตัวหล่อนเป็นแน่ เพลิงพิศวาสที่ไหลเวียนในร่างเพิ่มขึ้นทุกขณะ ยิ่งเขาจูบหล่อนนาน ร่างกายเขาเสมือนถูกลาวาปรารถนาไหลเชี่ยว
โอ้...แค่จุมพิตยังรู้สึกรุนแรงขนาดนี้ หากทำมากกว่านี้ เขาไม่ธาตุไฟแตกซ่านเลยหรือ คิดแล้วก็อยากดำเนินไปถึงขั้นนั้น ทว่าช้องนางเป็นผู้หญิงคนพิเศษ เขาต้องให้เกียรติหล่อน
“ปากกุ้งหอมจัง หวานด้วย” เขาพูดจากใจหลังถอนจุมพิตออกห่างปากค่อนข้างบวมเจ่อของหล่อน “พี่ตีตราจองไว้แล้วนะ ห้ามให้ใครจูบล่ะ”
ช้องนางพยักหน้าตอบรับ แก้มแดงระเรื่อ
“พี่รักกุ้ง เราเป็นแฟนกันนะ” เขาบอกช้องนางที่ยิ้มเขิน อายม้วน ทั้งที่การถูกขอเป็นแฟนครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ในความรู้สึกของช้องนาง ครั้งนี้มีอะไรหลายอย่างที่มากกว่าครั้งไหนๆ ช้องนางพยักหน้าแทนคำตอบ “คืนนี้ให้พี่นอนกอดกุ้งนะ สัญญาว่าจะนอนกอดอย่างเดียว แต่อาจมีหอมแก้ม มีจูบบ้างตามประสาคนมันรัก”
“ค่ะ”
“งั้นนอนนะ ง่วงแล้ว” พูดจบก็จับร่างแน่งน้อยนอนลงบนเตียงนอน โดยมีเขาเอนตัวนอนเคียงข้าง จับร่างสวยให้ชิดใกล้เขา ให้หล่อนหนุนแขนต่างหมอน “ขอจูบก่อนนอนหน่อยนะครับ”
ช้องนางจะว่าอะไรได้ หล่อนไม่ทันจะเอ่ยคำใดออกมา เขาก็เชยคางตนขึ้นสูงแล้วแนบปากลงมาอย่างรวดเร็ว มอบจุมพิตหวานๆ ให้หล่อนก่อนนอน และหลังจากจุมพิตราตรีสวัสดิ์จบลง ทั้งคู่ก็จมอยู่ในนิทราที่ทั้งสองมีความคิดตรงกันว่า แสนจะเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่สุดในชีวิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส