ห้าปีต่อมา
แสงอาทิตย์อัสดงในยามเย็นส่องมาที่ร่างผอมบางของซาบริน่า ปกคลุมเธอไปด้วยแสงสีทอง เธอสวมชุดคลุมศีรษะพร้อมหมวกนิรภัย ทำหน้าที่ควบคุมความคืบหน้าที่ไซต์งานก่อสร้าง
“คุณสก๊อตต์ ผมประหลาดใจกับข้อเสนอที่ดีของคุณมาก ค่าใช้จ่ายสำหรับงานครั้งนี้ของเราก็ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน ๆ วัสดุที่เราใช้ก็มีคุณภาพที่ดีขึ้นมากด้วยเช่นกัน โครงสร้างนี้มันมีคุณภาพมากเกินไปที่จะขายออกไปในราคานี้ ผมได้ยินมาว่ามีอพาร์ทเมนท์จำนวนมากที่ถูกขายให้กับเจ้าของซึ่งมีมาตรฐานสูงในเรื่องของการออกแบบรวมถึงวัสดุอีกด้วย” ผู้ว่าจ้างกล่าวขอบคุณซาบริน่า
“ผู้จัดการวอร์ด คุณไม่ควรเรียกฉันแบบนั้นนะคะ ฉันไม่ใช่สถาปนิกมืออาชีพสักหน่อย เรียกฉันว่าซาบริน่าเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” ซาบริน่ายิ้มตอบอย่างอ่อนโยน
“โอ้ไม่ได้หรอก! คุณสก๊อตต์ คุณอาจจะยังไม่มีชื่อเสียงในแวดวงสถาปนิกก็ตามที แต่ความสามารถของคุณได้บอกแทนตัวเองคุณหมดแล้ว แถมยังพิสูจน์แล้วว่าคุณคู่ควรกับตำแหน่งนี้แค่ไหน ที่งานดำเนินไปได้แบบนี้ก็เพราะการควบคุมจากคุณทั้งหมดนะครับ” ผู้จัดการวอร์ดตอบด้วยความเคารพ
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” ซาบริน่าตอบอย่างสุภาพ “นี่เป็นงานของฉันและ… ฉันก็รักงานของฉันก็เท่านั้น”
ซาบริน่ามองขึ้นไปที่อาคารตรงหน้าเธอที่จะแล้วเสร็จในเวลาอีกไม่นานนัก และรู้สึกท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกที่ยากอธิบายออกมา นี่เป็นงานที่เธอหลงใหลในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้
เป็นเวลากว่าสี่ปีครึ่งที่ซาบริน่ามีรายได้ที่มั่นคงจากการทำงานเป็นวิศวกรสนับสนุนให้กับบริษัทก่อสร้างในเมืองนี้ เธอเดินทางไปมาระหว่างสำนักงานและไซต์งานก่อสร้าง เธอเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการคิดคำนวณ การปรับงบประมาณ และดูแลกระบวนการก่อสร้างและกำหนดรูปแบบ แม้ว่าเธอจะหางานที่ทำในสายงานการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมเหมือนที่เธอเคยทำในเซ้าท์ ซิตี้ไม่ได้
ขาของเซย์นเป็นอัมพาตและเขาใช้ชีวิตด้วยรถเข็น เมื่อห้าปีก่อน พวกเธอถูกทำร้ายอีกครั้ง ตอนที่ลูกของซาบริน่าอายุครบหกเดือน พวกเขาแทบจะเอาชีวิตไม่รอด และเซย์นก็สูญเสียขาของเขาไปในตอนนั้นเอง จากนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่ชานเมืองที่ห่างออกไปในเมืองที่พวกเขาอยู่ก่อนหน้านี้ วันวานที่ผ่านมาเป็นเรื่องยากลำบาก เนื่องจากซาบริน่าต้องพยายามดิ้นรนเพื่อเลี้ยงดูลูกของเธอและพี่ชายที่พิการ เธอทำงานเป็นพนักงานล้างจานในร้านอาหารต่าง ๆ และเคยพยายามใช้ชีวิตอยู่ในวัดร้างที่มีฝนรั่วไหลทะลุเพดานออกมา
จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งเซย์นและลูกของเธอล้มป่วยเพราะเป็นไข้สูง และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ดังนั้นซาบริน่าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับงานแบกหามของผู้ชายในไซต์งานก่อสร้าง มันเป็นงานที่เหมาะสำหรับผู้ชายสองคนทำ ซึ่งเธอทำงานตั้งแต่ตีห้าไปจนถึงห้าทุ่มของทุกวัน แม้จะเหน็ดเหนื่อยและต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำงาน แต่เธอก็ต้องเผชิญกับวิกฤตอีกครั้ง เมื่อที่ไซต์ก่อสร้างไม่สามารถส่งมอบผลงานได้เนื่องจากมีปัญหาด้านคุณภาพของงาน มันเป็นช่วงเวลาที่แผนกควบคุมคุณภาพมาเพื่อสืบสวน และทำให้ซาบริน่าได้แสดงความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมซึ่งช่วยในการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดนี้ไปได้
ผู้รับเหมาและนักลงทุนต่างประทับใจในตัวเธอ และเมื่อพบว่าเธอเคยออกแบบอาคารมาก่อน นับแต่นั้นมาซาบริน่าก็กลายเป็นหนึ่งในเสาหลักที่ค้ำจุนชุมชนในพื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ไปกว่าครึ่งปีแล้ว โดยเธอมีรายได้มากเกินกว่าที่เคยคาดคิดไว้ว่าจะทำได้ด้วยซ้ำ นั่นทำให้เซย์นและตัวเธอเองอยู่ดีกินดีด้วยเช่นกัน
ซาบริน่าและเซย์นไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์ชายหญิงแม้จะใช้เวลาร่วมกันก็ตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทัณฑ์พิพาทใจ
ขอซื้อหนังสือค่ะ...
รออัพเดทค่ะ นานมาก...
รอการอัพเดทตอนต่อไปค่ะ ลุ้นทั้งเรื่อง สนุกมงมาก...