บนดวงหน้านิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์มาตลอด บัดนี้เต็มไปด้วยความร้อนรนกังวลใจ หรงจือจือจ้องมองมหาราชครูหรงไม่วางตา ท่านพ่อสนใจแต่ขนบธรรมเนียมและชื่อเสียงเกียรติยศในตระกูลมาตลอด ส่วนในใจของท่านแม่ก็มีเพียงน้องชายและน้องหญิงเท่านั้น
มีเพียงท่านย่าคนเดียวเท่านั้นที่เป็นคนที่รักตนเอง และเป็นคนที่ตนเองรัก ในวันที่นางเกิดมา หากมิใช่เพราะท่านย่าเป็นคนไปแย่งนางกลับมา นางคงตายด้วยน้ำมือของท่านแม่ไปแล้ว
บัดนี้ได้ยินว่าท่านย่าป่วย นางย่อมร้อนรุ่มกังวลใจขึ้นมาทันที
มหาราชครูหรงฟังน้ำเสียงของนาง สีหน้าก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย “เจ้ารู้จักอ่อนน้อมกตัญญูต่อท่านย่าของเจ้า ไม่เสียแรงที่นางรักและเอ็นดูเจ้ามาหลายปี! ท่านย่าของเจ้าปลอดภัยดี เพียงแค่โรคเก่ากลับมากำเริบอีกครั้งเท่านั้น หมอเทวดามารักษาแล้ว ข้าเองก็อยู่เฝ้าไข้ดูแลนางทั้งคืน ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”
ว่าตามหลักแล้วหากนายหญิงใหญ่ป่วยไข้ไม่สบาย ควรเป็นนางหวังที่เข้าไปเฝ้าไข้ปรนนิบัติ ทว่ามหาราชครูหรงมีความกตัญญูอย่างสูงส่ง กอปรกับทราบว่ามารดาไม่ถูกชะตาภรรยาของตน ฉะนั้นเขาจึงไปอยู่เฝ้ามารดาด้วยตนเองตลอดทั้งคืน
หรงจือจือฟังมาถึงตรงนี้ ก็วางใจ ท่านย่าเป็นโรคหัวใจ ชีพจรไม่สมบูรณ์ตั้งแต่กำเนิด โรคนี้ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ดูแลรักษาประคับประคองร่างกายอย่างดีมาตลอด เพียงแต่บางครั้งอาการก็กำเริบขึ้นมา และด้วยเหตุผลนี้เอง หรงจือจือจึงไปร่ำเรียนวิชาแพทย์กับหมอเทวดาท่านหนึ่ง ก็เพราะหวังว่าหากวันใดท่านย่ารู้สึกไม่สบายตัว ตอนนางอยู่ข้างกายจะได้ดูแลช่วยเหลือทันท่วงที
หรงจือจือ : “เช่นนั้นลูกขอตัวไปเยี่ยมท่านย่าเจ้าค่ะ!”
มหาราชครูเอ่ย “ไม่ต้องร้อนใจไป ท่านย่าของเจ้าเพิ่งจะหลับไปเมื่อครู่ อีกอย่างใบหน้าของเจ้าบวมเป่งเพียงนี้ จะไปเยี่ยมนางได้อย่างไร? เช่นนี้จะไม่ยิ่งทำให้ท่านย่าของเจ้าไม่สบายใจโดยเปล่าประโยชน์หรือ?”
พูดจบ เขาก็เหลือบสายตามองเจาซีปราดหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นพร้อมเอ่ยว่า “เจ้าโง่เง่าไร้ไหวพริบ ยังไม่รีบไปเอาน้ำแข็งมาให้คุณหนูของเจ้าประคบหน้าอีกหรือ!”
เจาซีได้ยินคำสั่ง ก็รีบคุกเข่ารับคำทันที “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
นางหรือจะไม่รักไม่สงสารคุณหนู เพียงแต่นั่นเป็นฝีมือของฮูหยิน หากเจ้านายไม่ออกคำสั่ง นางหรือจะบังอาจ!
มหาราชครูหรง : “ไว้รอยบวมบนหน้าหายแล้ว เจ้าค่อยไปเยี่ยมท่านย่าของเจ้า”
หรงจือจือรับคำ : “เจ้าค่ะ”
แม้ว่านางจะร้อนใจอยากไปพบท่านย่า แต่ก็รู้ดีว่าถ้อยคำของท่านพ่อมีเหตุผล หากท่านย่าเห็นว่าหน้าของตนเองถูกตบจนบวมแบบนี้ คิดดูแล้วคงจะโกรธจนกระทบกระเทือนหัวใจแน่ ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายของท่านผู้เฒ่าอย่างนาง
ท่านพ่อไร้ซึ่งความห่วงใยสงสารที่ตนเองโดนตบหน้าเช่นนี้ ก็มิได้อยู่เหนือจากการคาดเดาของหรงจือจือ แต่หรงจือจือก็หาได้สนใจไม่ ตราบใดที่ท่านพ่อใคร่ครวญถึงท่านย่าในทุกเรื่องเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ขอแค่เขาอ่อนน้อมกตัญญูต่อท่านย่า และทำให้ท่านย่ามีชีวิตบั้นปลายที่สุขสงบได้ สำหรับหรงจือจือแล้วสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
นางหวังยืนอยู่ด้านข้างไม่กล้าสอดปากพูดแม้แต่คำเดียว กลัวว่าสามีจะฉุกคิดขึ้นได้ว่าเป็นตัวนางเองที่ลงมือตบหน้าเด็กคนนั้น และจะเคลือบแคลงสงสัยในจิตใจรู้กตัญญูของตนเอง
ทว่าหรงเจียวเจียวกลับเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อน “ท่านพ่อ มันก็ใช่จะไร้เหตุผลเช่นนั้นที่ไหน! อย่างที่ลูกพูดไป ท่านย่าแค่รักพี่หญิงมากเกินไปก็เท่านั้น ท่านแม่ถึงได้อบรมสั่งสอนอะไรพี่หญิงไม่ได้…”
ยังไม่ทันพูดจบ ถ้วยชาในมือมหาราชครูหรง ก็ถูกโยนใส่หรงเจียวเจียวทันที
ก่อนจะร่วงลงบนพื้นเบื้องหน้าหรงเจียวเจียว น้ำกระเซ็นเปื้อนชายเสื้อของหรงเจียวเจียว จนดวงหน้างามดุจบุปผาของหรงเจียวเจียวถอดสี แข็งขาอ่อนยวบ รีบคุกเข่าลงกับพื้นโดยพลัน “ท่านพ่อ!”
มหาราชครูหรงตะคอกใส่ด้วยใบหน้าดำมืด “นางเด็กชั้นต่ำ! เจ้ากำลังตำหนิท่านย่าของเจ้าอยู่หรือ! ดูเหมือนหลายปีมานี้ ข้าจะตามใจเจ้ามากเกินไปแล้ว!”
นางหวังรีบเข้ามาช่วยอ้อนวอนขอความเมตตาอีกแรง “ท่านพี่ เจียวเจียวก็แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะ ต้องตำหนิตัวข้าต่างหาก กลับไปแล้วข้าจะอบรมสั่งสอนนางให้ดีเจ้าค่ะ!”
หรงจือจือแม้ไม่ได้ทำความผิด แต่ก็ยังถูกนางหวังตบหน้าด่าทอ ผิดกับหรงเจียวเจียวที่พูดจาส่อเสียดไม่เหมาะสม นางหวังกลับรีบเอาตัวเข้าไปน้อมรับความผิดทั้งหมดไว้ และยังช่วยอ้อนวอนขอความเมตตาด้วยอีกแรง
หรงจือจือมองความรักอันลึกซึ้งของพวกนางสองคนแม่ลูกจากด้านข้าง ในใจไร้ซึ่งความรู้สึก
เพราะหลายปีที่ผ่านมา ทุกความรู้สึกถูกอัดอั้นไว้ในใจมามากเกินไปแล้ว จนบัดนี้ความรู้สึกมันได้ตายด้านไปนานแล้ว
มหาราชครูหรงสั่งหรงเจียวเจียวด้วยเสียงเย็นเยียบ “ไปคุกเข่าที่โถงบรรพชน อดอาหารหนึ่งวันจะได้เรียกสติ! หากให้ข้าได้ยินคำพูดดูหมิ่นไม่เคารพท่านย่าของเจ้าออกมาจากปากเจ้าแม้เพียงครึ่งคำ ข้าจะโบยเจ้าสักสองสามทีเป็นการชมเชย!”
หรงเจียวเจียวร้องไห้หน้าบูดบึ้ง “เจ้าค่ะ!”
นางหวังเอ่ยขึ้นทันที “หากเจียวเจียวต้องคุกเข่า จือจือก็ต้องไปด้วย! ตั้งแต่เช้า ถ้อยคำวาจาของนางไร้ซึ่งความเคารพยำเกรงข้า มิหนำซ้ำยังมิได้เข้ามาน้อมคารวะข้ายามเช้า กลับเป็นข้าที่ต้องเป็นฝ่ายเข้ามาหานางด้วยตัวเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น