โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น นิยาย บท 11

มหาราชครูหรงกลับประหลาดใจ มองบุตรสาวของตนอย่างพินิจพิเคราะห์ “เจ้าอยากหย่าร้างอย่างนั้นหรือ? ไม่อาลัยอาวรณ์ฉีจื่อฟู่เลยแม้แต่น้อยอย่างนั้นหรือ?”

หรงจือจือกล่าวเบา ๆ “ท่านพ่อ ตอนนั้นเหตุใดลูกจึงต้องแต่งงานกับเขา ท่านรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ต้นจนจบ ลูกไม่ได้แต่งเพื่อตัวลูกเอง แต่แต่งเพื่อสกุลหรง”

“บัดนี้ ลูกไม่ได้หย่าร้างเพื่อตัวของลูกเองเลย ลูกทำเพื่อสกุลหรงเช่นเดียวกัน”

“ท่านพ่อน่าจะรู้ดี อวี้ม่านหวานั่นแท้ที่จริงเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นเจา ตามประเพณีที่สืบทอดกันมาของราชวงศ์เราจะต้องปฏิบัติต่อประเทศที่สูญเสียเอกราชด้วยความกรุณา ไม่มีทางให้นางเป็นอนุอย่างเด็ดขาด อดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของแคว้นเจาไม่มีทางตอบตกลงเช่นกัน”

“แต่หากข้าเป็นบุตรสาวแห่งสกุลหรง ถูกลดตำแหน่งให้เป็นอนุ จะต้องอดทนอยู่อย่างเงียบ ๆ ชื่อเสียงขุนนางของท่านพ่อกับชื่อเสียงอันดีงามของสกุลหรง ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นลูกจึงคิดว่า การหย่าร้างคือวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้”

หรงจือจือภายใต้การเลี้ยงดูของท่านย่า มักจะเป็นคนสุขุมและเฉลียวฉลาด นางเข้าใจดีว่า ยิ่งอยากทำการอันใดให้สำเร็จ ก็ยิ่งต้องสงบนิ่ง สมองต้องคิดอย่างว่องไว และต้องพูดอย่างตรงประเด็น

นางยิ่งรู้ดีว่าท่านพ่อของตนหัวโบราณ สิ่งที่ใส่ใจมากที่สุดคืออะไร

หากตอนนี้นางแจกแจงความน้อยเนื้อต่ำใจของตนเองออกมาอย่างละเอียด ท่านพ่อไม่มีทางเก็บเอาไปใส่ใจ ซ้ำยังจะบอกให้นางอดทนให้มาก ผู้หญิงทุกคนบนโลกล้วนต้องผ่านสิ่งนี้มา แต่หากพูดถึงชื่อเสียงของสกุลหรง ท่านพ่อก็จะไม่อาจทนไหว

เป็นไปตามคาด

เมื่อมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนี้ ก็กล่าวเสียงขึงขัง “ที่เจ้าพูดมาไม่ผิด ถึงแม้การหย่าร้างแบบนี้จะไม่มีเกียรติมากนัก แต่สุดท้ายก็ยังเหลือชื่อเสียงที่หยิ่งในศักดิ์ศรียอมหักไม่ยอมงอ ให้แก่บรรดาบุตรสาวแห่งสกุลหรงของเรา ด้านนอกก็จะไม่กล้าดูแคลนบรรดาน้องสาวของเจ้าเช่นกัน”

“อีกอย่าง บุตรของข้าหรงม่อชิง จะให้เป็นอนุได้อย่างไร? ข้าเป็นขุนนางมายี่สิบเอ็ดปี แม้กระทั่งฮ่องเต้องค์ก่อนที่พระชันษาน้อยกว่าเพียงไม่กี่ปี ยังเคยเป็นนักเรียนของข้า ครอบครัวอย่างเช่นพวกเรา จะยอมให้จวนซิ่นหยางโหวที่มีแต่เปลือกตั้งแต่แรก มาปฏิบัติด้วยเช่นนี้ได้อย่างไร?”

“ต้องโทษข้า ที่ตอนนั้นเห็นว่าเด็กน้อยแห่งสกุลฉีคนนั้นป่วยจนมีสภาพแบบนั้น เพื่อชื่อเสียงแล้วจึงให้เจ้าแต่งเข้าไป ถึงได้ทำให้เจ้าต้องได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ในถ้ำเสือนั่น ทั้งยังทำให้สกุลหรงของเราต้องถูกดูหมิ่นเช่นนี้อีกด้วย!”

น่าเสียดายที่ฮ่องเต้องค์ก่อนสุขภาพไม่ดี สิ้นพระชนม์ตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้สำเร็จราชการแทนคืนอำนาจให้แก่อัครมหาเสนาบดีเฉินไม่ใช่ตนเอง ไม่อย่างนั้นตนคงจะได้รับความเคารพยิ่งกว่าตอนนี้ ต่อให้จวนซิ่นหยางโหวกล้าหาญมากกว่านี้ พวกเขาก็ไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้

หรงจือจือเป็นคนที่เฉลียวฉลาด เพียงกล่าวว่า “จะโทษท่านพ่อได้อย่างไร? ท่านพ่อมีความเมตตาและคุณธรรม ทั้งหมดเป็นเพราะสกุลฉีพวกอกตัญญูนั่น เนรคุณต่อความจริงใจของท่านพ่อ”

ท่านพ่อตำหนิตนเองได้ แต่นางพูดไม่ได้ ‘ท่านพูดถูก ข้าเองก็คิดว่าท่านสติเลอะเลือนมาก เพื่อชื่อเสียงอันจอมปลอมอันน้อยนิดแล้ว ทำร้ายข้าจนน่าอนาถเช่นนี้’

นางทำได้เพียงปลอบใจอีกฝ่าย เช่นนี้ท่านพ่อถึงจะคิดว่า ตนกับเขาคิดตรงกัน

เมื่อมหาราชครูหรงฟังจบ มองบุตรสาวด้วยความชื่นชมแวบหนึ่งอย่างที่คาดไว้จริง ๆ “เจ้ารู้ความมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ก็ไม่เคยกล่าวโทษข้า เป็นข้าที่ติดค้างเจ้า!”

หรงจือจือกล่าวอย่างระวัง “ระหว่างบิดาผู้ให้กำเนิดกับบุตรสาว จะติดค้างได้อย่างไรกัน? เรื่องหย่าร้างนั่น ท่านพ่อรับปากแล้วใช่หรือไม่?”

หากหย่าร้างกันแล้ว นางอยากจะกลับมาในครอบครัว ตอบแทนบุญคุณท่านย่าต่อเหมือนเมื่อก่อน ท่านย่าเป็นผู้เลี้ยงดูตนมาจนเติบใหญ่ เป็นคนที่ตนรักและเคารพที่สุด ดังนั้นท่านพ่อจะเห็นด้วยเรื่องการหย่าร้างหรือไม่ สำหรับนางแล้วค่อนข้างสำคัญ

มหาราชครูหรงพยักหน้า แต่เขากล่าวขึ้นอีก “เมื่อวานท่านย่าของเจ้าล้มป่วย เรื่องที่บุตรชายสกุลฉีก่อเอาไว้ ข้ายังปิดบังท่านย่าของเจ้าเอาไว้อยู่ ไม่กล้าบอกนาง หากให้นางรู้ว่าสกุลฉีก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น เกรงว่าจะโมโหจนเป็นอะไรไป”

“รออีกสิบวันหรือครึ่งเดือน ให้สุขภาพของท่านย่าเจ้าดีขึ้นอีกหน่อย ข้าจะค่อย ๆ พูดเรื่องนี้กับนาง ค่อยยกเกี้ยวใหญ่ จุดประทัดไปตลอดทาง เพื่อรับเจ้ากลับมาอย่างมีหน้ามีตา เจ้าว่าเป็นอย่างไร?”

แต่ไหนแต่ไรมีเพียงตอนแต่งบุตรสาวถึงยกเกี้ยวใหญ่ ตอนหย่าร้าง ไม่มีใครยกเกี้ยวใหญ่เพื่อต้อนรับกลับบ้าน

ผู้หญิงที่หย่าร้าง บ้านพ่อแม่ฝ่ายหญิงมักไม่อนุญาตให้เดินผ่านประตูใหญ่ ให้ใช้ประตูข้าง

ทว่ามหาราชครูหรงผู้ที่หัวโบราณมาตลอดกลับรับปากเช่นนี้ อาจจะรู้ว่าปฏิบัติต่อบุตรสาวคนนี้อย่างขาดความยุติธรรมจริง ๆ ยิ่งรู้สึกว่าสกุลฉีทำเกินไป ถือเป็นการตบหน้าตน ด้วยเหตุนี้เขาจึงเอาคืนสกุลฉีด้วยวิธีการเช่นนี้

การจุดประทัดอย่างคึกคักล้วนเป็นการเฉลิมฉลองเรื่องมงคล เขารับบุตรสาวที่หย่าร้างกลับบ้าน เฉลิมฉลองเหมือนกับเป็นเรื่องดี เพื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าดูแคลนจวนซิ่นหยางโหว การแก้แค้นครั้งนี้จะต้องเอาคืนอย่างสาสม

บทที่ 11 1

บทที่ 11 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น